เคลมประกัน! ประกันชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้าง? แบบไหนเคลมได้/ไม่ได้?
ไม่ว่าจะขับรถใหม่ หรือรถเก่า ย่อมต้องเจอปัญหาการเคลมประกันไม่มากก็น้อย จนเกิดเป็นคำถามเกี่ยวกับการ “เคลมประกัน” รถยนต์มากมาย ไม่ว่าจะเคลมสด เคลมแห้ง คืออะไร? เคลมรถแบบไม่มีคู่กรณีเสียเงินไหม? หรือประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง?
วันนี้ แรบบิท แคร์ รวบรวมทุกคำตอบของปัญหาแจ้งเคลมที่คนขับรถต้องเจอสักครั้ง ครบทั้งเคลมแห้ง เคลมสีรอบคัน เคลมยางรถ และเคลมอื่นๆ ที่ต้องเจอ พร้อมคำแนะนำการเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้คุ้มที่สุดมาฝากกัน
เคลม
เคลม หรือเคลมประกัน คือ การแจ้งขอรับค่าสินไหมชดเชยหรือการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง (คนขับ, คู่กรณี, ผู้โดยสาร หรือคนเดินเท้า) ที่อาจเป็นรถด้วยกันเอง หรือสิ่งของเครื่องใช้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยที่ทำไว้กับบริษัทประกัน เช่น เคลมรถชนท้าย, เคลมขับรถชนคน หรือเคลมรอยขีดข่วน
เคลมประกันรถ
เคลมประกันรถยนต์ คือ การแจ้งขอรับการชดใช้หรือซ่อมแซมความเสียหายต่อตัวรถ และ/หรือความเสียหายอื่นๆ เช่น เคลมชนเสา, เคลมรถน้ำท่วม หรือเคลมรอบคัน เลือกได้ทั้งเคลมสด ณ จุดเกิดเหตุ หรือเคลมออนไลน์ย้อนหลัง หรือเลือกซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์ได้ตามเงื่อนไขประกันที่ทำไว้ ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่า การเคลมประกัน เสียประวัติ และอาจมีผลในการปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นเมื่อต่อประกันปีต่อไป
เคลมสด
เคลมสด (Fresh Claim) คือ การแจ้งเคลมทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับตัวรถ กรณีรถเสียหายหนัก ใช้งานต่อไม่ได้ หรือมีผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ประกันจะมาตรวจสอบความเสียหาย ณ ที่เกิดเหตุ และออกใบเคลมความเสียหายทันทีให้กับรถคันเอาประกันหรือคู่กรณีเพื่อใช้เคลมซ่อมภายในเวลา 1 ปี รวมถึงร่วมเจรจาหรือแจ้งความที่โรงพักกรณีมีผู้บาดเจ็บ
เคลมแห้ง
เคลมแห้ง (Dry Claim) คือ การเคลมประกันรถยนต์หลังเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว เกิดความเสียหายเล็กน้อย ไม่มีผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อาจไม่ต้องมาจุดเกิดเหตุ เช่น ชนแบบไม่มีคู่กรณี (โดนชนแล้วหนี, รถเสียหายไม่ทราบสาเหตุ) หรือการชนที่คู่กรณีไม่ใช่รถ (ชนเสา, ชนกระถาง หรือชนรั้ว) ทั้งนี้ การเคลมแห้งที่คู่กรณีไม่ใช่รถจะมีเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น
เคลมซ่อมห้าง/ซ่อมศูนย์
เคลมประกันรถยนต์ซ่อมห้าง หรือซ่อมศูนย์ คือ การนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ โดยไม่ต้องเป็นศูนย์ที่ซื้อรถด้วยก็ได้ ซึ่งประกันซ่อมศูนย์จะให้บริการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ตามมาตรฐานของศูนย์บริการรถแต่ละยี่ห้อ มีเบี้ยประกันสูงกว่าซ่อมอู่ อาจใช้เวลาซ่อมนานกว่า และเลือกเคลมซ่อมศูนย์ได้ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2 หรือชั้น 2+
เคลมซ่อมอู่
เคลมซ่อมอู่ คือ การนำรถเข้าซ่อมกับอู่ซ่อมรถทั่วไป แบ่งเป็นซ่อมอู่ในเครือบริษัทประกันที่ได้รับการรับรองจากบริษัทฯ จึงเคลมประกันได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ส่วนเคลมอู่นอกเครือประกัน เช่น อู่ใกล้บ้าน หรืออู่ที่รู้จักส่วนตัว ต้องสำรองจ่ายและขอเบิกคืนจากบริษัทฯ เหมาะกับผู้ที่มีความรู้เรื่องรถยนต์ เลือกเคลมซ่อมอู่ได้กับประกันรถยนต์ทุกชั้น
เคลมรถชนมีคู่กรณี
การแจ้งเคลมรถชนแบบมีคู่กรณี คือ การแจ้งความเสียหายของตัวรถจากอุบัติเหตุที่ระบุคู่กรณี หรือสาเหตุการเกิดความเสียหายได้อย่างชัดเจน ทั้งรถชนรถ หรือรถชนวัตถุสิ่งของ เช่น เคลมรถชนเสา เคลมรถชนกระถาง หรือเคลมรถชนประตู้บ้าน โดยประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองครบถ้วนที่สุด ทั้งความเสียหายต่อตัวรถตัวเอง รถคู่กรณี และค่ารักษาผู้บาดเจ็บ
เคลมรถไม่มีคู่กรณี
เคลมประกันรถไม่มีคู่กรณี คือ การแจ้งเคลมอุบัติเหตุที่ทำให้รถเสียหาย ไม่สามารถระบุตัวคู่กรณีหรือสาเหตุได้ เช่น โดนชนแล้วหนี ซึ่งต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ก่อนเคลม จำนวน 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ และเคลมได้เฉพาะประกันชั้น 1 เท่านั้น หากชนเสา ฟุตบาทหรือรั้วบ้าน จะไม่ใช่ชนแบบไม่มีคู่กรณี เพราะคู่กรณีไม่ต้องเป็นรถก็ได้
เคลมประกันมีรถให้ใช้
เคลมประกันมีรถใช้ระหว่างซ่อม คือ บริการมีรถใช้ทดแทนระหว่างซ่อมสำหรับผู้ที่ทำประกันชั้น 1, 2+ และ 3+ อาจไม่มีค่าใช้จ่าย หรือมีค่าใช้จ่ายกรณีต้องการใช้รถระหว่างซ่อมมากกว่าจำนวนวันที่กำหนด หรือกรณีผู้ทำประกันเป็นฝ่ายผิด, เคลมไม่มีคู่กรณี หรือประมาทร่วม ทั้งนี้ ฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์การใช้รถจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้
เคลมออนไลน์
แจ้งเคลมประกันรถยนต์ออนไลน์ หรือ “อี เคลม” (e-Claim) คือ บริการแจ้งเคลมด้วยตัวเองผ่านระบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง เคลมได้เฉพาะกรมธรรม์ประกันรถชั้น 1 และต้องเป็นฝ่ายถูก มีหลักฐานความรับผิดชอบจากคู่กรณี หรือเป็นฝ่ายผิดที่แจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณีเท่านั้น โดยแจ้งรายละเอียดเหตุการณ์และความเสียหาย เลขที่กรมธรรม์ และเลขบัตรประชาชน
เคลมอะไหล่
เคลมประกันเปลี่ยนอะไหล่ คือ การเคลมซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ตามความเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น เคลมฝากระโปรงหน้า เคลมสเกิร์ต หรือเคลมไฟหน้ารถ อาจเสียค่าใช้จ่ายส่วนแรกตามเงื่อนไขประกัน หรือเลือก “ประกันอะไหล่รถยนต์” ที่คุ้มครองอะไหล่จากการใช้งานหรือเสื่อมสภาพ หากติดอุปกรณ์ตกแต่งรถเพิ่มโดยไม่แจ้ง จะเคลมอะไหล่ที่ติดเพิ่มกับประกันไม่ได้
เคลมสีรอบคัน/เคลมรอยขีดข่วนรอบคัน
เคลมรถรอบคัน คือ การเคลมรถเป็นรอยหรือสีถลอกจากอุบัติเหตุใช้รถจากประกันชั้น 1 เท่านั้น หากสามารถระบุคู่กรณีหรือสาเหตุได้ อาจไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก แต่หากแจ้งเคลมแห้งจะต้องจ่ายค่า Excess จำนวน 1,000 บาทต่อเหตุการณ์/รอย ทั้งนี้ ไม่คุ้มครองการทำสีเพื่อความสวยงาม การเสื่อมสภาพ หรือความเสียหายจากการดูแลรักษารถตามปกติ
เคลมกระจกรถยนต์
เคลมกระจกรถร้าวเสียหายจากหินกระเด็นใส่ คือ การเคลมความเสียหายแบบไม่มีคู่กรณี สามารถเคลมกระจกรถ ขอบยาง และฟิล์มติดกระจกได้จากประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (กรณีไม่มีระบุว่ามีค่าส่วนแรก) หรือมีค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ไม่สามารถเคลมได้ ใช้เวลาในการรอและเปลี่ยนกระจกใหม่รวม 2-5 วัน
เคลมยางรถยนต์
การขอเคลมยางรถยนต์ คือ การขอค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับยางรถได้จากประกันชั้น 1 เท่านั้น โดยชดเชยให้ 50% ของราคายางจากอุบัติเหตุชนกับคู่กรณีที่ยางและตัวรถเสียหาย หรือชนแบบไม่มีคู่กรณี เสียหายทั้งล้อแม็กและตัวยาง แต่หากยางเสียหายอย่างเดียวจากการชนไม่มีคู่กรณี (เหยียบตะปู ครูดฟุตบาท) จะไม่สามารถขอเคลมยางรถจากประกันได้
เคลมล้อแม็ก
เคลมล้อแม็กขูดฟุตบาทหรือล้อแม็กเป็นรอย คือ การเคลมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวล้อเดิมหรือล้อแม็ก ซึ่งจะเคลมประกันได้เมื่อทำประกันชั้น 1 ไว้เท่านั้น หากเป็นล้อเดิมที่ติดมากับตัวรถติดตั้งจากศูนย์จะได้ความรับผิดชอบเต็มมูลค่า แต่หากเป็นล้อที่เปลี่ยนใหม่หรือแต่งเพิ่มโดยไม่แจ้งบริษัทฯ อาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) 1,000 บาทต่อรอย
เคลมแบตเตอรี่รถ
แจ้งเคลมแบตเตอรี่รถ คือ การแจ้งขอเปลี่ยนแบตรถเสื่อม หรือเสียหายจากอุบัติเหตุได้จากประกันชั้น 1 เท่านั้น โดยประกันจะชดเชยให้ 50% ของตัวแบตเตอรี่ ไม่ชดเชยให้ในส่วนของเหลว เนื่องจากแบตเตอรี่รถจัดเป็นอะไหล่ที่สึกหรอ หรือเสื่อมสภาพได้ตามอายุใช้งาน ทั้งนี้ อาจแจ้งเคลมไม่มีค่าใช้จ่ายกับศูนย์ที่ออกรถได้โดยตรงภายใน 6 เดือน – 1 ปี แรก
เคลมช่วงล่าง
เคลมช่วงล่างรถ คือ การแจ้งขอชดใช้ความเสียหายช่วงล่างของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นล้อ เพลาล้อ ปีกนก คันชักคันส่ง หรือตัวถังจากกรณีขับรถตกหลุมบ่อ เคลมค่าเสียหายจริงหรือหักค่าเสื่อมสภาพอะไหล่ช่วงล่างได้จากประกันชั้น 1 เท่านั้น ทั้งแบบมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณี และเคลมได้เฉพาะกรณีอุบัติเหตุหรือการชนเท่านั้น ไม่ใช่จากการเสื่อมสภาพ
เคลมน้ำเข้ารถ
เคลมรถโดนน้ำท่วม คือ การขอชดเชยค่าเสียหายจากเหตุน้ำท่วมรถ เช่น ภัยพิบัติธรรมชาติ ขับรถลุยน้ำท่วม หรือน้ำท่วมขณะรถติด โดยประกันชั้น 1 จะให้เคลมความเสียหายบางส่วน หรือความเสียหายสิ้นเชิง (70% ของทุนประกัน) ขึ้นอยู่กับความเสียหายต่อตัวรถ และเจตนาผู้ขับขี่ ทั้งนี้ประกันชั้น 2+ หรือ 3+ อาจให้ความคุ้มครองรถน้ำท่วมได้เช่นกัน
เคลมรถเติมน้ำมันผิด
เคลมรถเสียหายจากกรณีเติมน้ำมันผิด คือ การเรียกร้องค่าความเสียหายต่อตัวรถยนต์จากประกันรถยนต์ เนื่องจากการเติมน้ำมันผิดประเภทมีส่วนทำให้รถยนต์เสียหาย โดยจะเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้ตามทุนประกันรถที่ทำไว้เท่านั้น และต้องแจ้งเคลมกับบริษัททันที ไม่เจรจากับปั๋มน้ำมัน ส่วนประกันชั้นอื่นๆ ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายตัวรถ
เคลมหนูกัดสายไฟ
การเคลมหนูกัดสายไฟขาด คือ การเคลมความเสียหายระบบไฟฟ้าของรถที่ทำงานไม่ได้ เคลมประกันชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณีได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เพราะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง ไม่ได้เกิดจากการดัดแปลง เสื่อมสภาพ หรือการใช้งาน ยกเว้นทำประกันมีค่าเสียหายส่วนแรก หรือรถเก่าเสื่อมสภาพ ส่วนประกันชั้นอื่นๆ ไม่มีความคุ้มครองในส่วนนี้
เคลมรถเสียสตาร์ทไม่ติด
เคลมเครื่องยนต์รถมีปัญหาสตาร์ทไม่ติด ไม่สามารถเคลมประกันรถยนต์ใดใดได้ ยกเว้นกรณีหนูกัดสายไฟ หรือรถเสียจากอุบัติเหตุ เนื่องจากประกันรถยนต์คุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุหรือเหตุภายนอกเท่านั้น แต่สามารถขอรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางถนนตลอด 24 ชั่วโมงจากประกันรถชั้น 1 หรือแจ้งเคลมกับค่ายรถภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด
เคลมรถใหม่/เคลมรถป้ายแดง
เคลมรถใหม่ป้ายแดง คือ การแจ้งเคลมอุบัติเหตุความเสียหายของรถที่ใช้ป้ายทะเบียนชั่วคราว (ป้ายแดง) และอยู่ในระหว่างรอจดทะเบียน เคลมได้จากทั้ง พ.ร.บ. หรือประกันชั้น 1 ที่มักแถมมาให้เมื่อซื้อรถใหม่ ซึ่งจะมีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ออกรถ หากยังไม่ได้เล่มกรมธรรม์ สามารถแจ้งเลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ และเลขรับแจ้งชั่วคราวแทนได้เมื่อเกิดเหตุ
เคลม พ.ร.บ.
เคลม พ.ร.บ. รถยนต์ หรือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ คือ การขอรับค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อร่างกายคู่กรณีและคนขับโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิดแม้ไม่มีใบขับขี่ และค่าเสียหายส่วนเกินหลังพิสูจน์ถูกผิดได้แล้ว ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล 30,000-80,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพภาวร 200,000-500,000 บาทต่อคน
เคลมประกันไม่มีใบขับขี่
กรณีไม่มีใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ จะเคลมประกันได้เฉพาะกรณีที่เคยมีใบขับขี่แต่ใบขับขี่หมดอายุ ใบขับขี่โดนยึด หรือลืมพกใบขับขี่ หากไม่เคยสอบหรือมีใบขับขี่มาก่อน จะไม่สามารถขอเคลมประกันรถยนต์ได้ แต่อาจอนุโลมกรณีไม่มีใบขับขี่แต่มีประกันและเป็นฝ่ายถูก หรือเคลม พ.ร.บ. ที่คุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยอื่นๆ แม้ไม่มีใบขับขี่
เคลมรถก่อนหมดประกัน
เคลมรถก่อนประกันหมด หรือเคลมประกันย้อนหลัง คือ การแจ้งเคลมรอยความเสียหายต่างๆ ของรถย้อนหลัง (เคลมแห้ง) ตามอายุใบเคลม 2 ปี ในช่วงก่อนหมดประกันชั้น 1 อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อขอจ่ายเบี้ยประกันเท่าเดิม หรือรับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน (ส่วนลดประวัติดี) จากการเปลี่ยนบริษัทประกัน หรือต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม
เคลมรถไม่มีประกัน
สามารถเคลมประกันรถไม่มีประกันได้จาก พ.ร.บ. หรือประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยขึ้นอยู่กับฝ่ายถูก/ผิด หากรถไม่มีประกันเป็นฝ่ายถูก สามารถเรียกร้องค่าเสียหายต่ได้จากประกันรถยนต์คู่กรณีที่จะดูแลตลอดการซ่อม ตามอายุใบเคลม 2 ปี หากรถไม่มีประกันเป็นฝ่ายผิด ประกันคู่กรณีจะประเมินค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และเรียกเก็บจากฝ่ายผิดภายหลัง
นอกจากประกันชั้น 1 แล้วเคลมประกันรถยนต์แต่ละชั้นคุ้มครองอะไรบ้าง
การประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทยแบ่งออกเป็นหลายชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะมีความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของผู้ขับขี่ โดยทั่วไป การประกันภัยรถยนต์แบ่งออกเป็น 5 ชั้นหลัก คือ ประกันชั้น 1 ที่เราได้กล่าวถึงไปแล้ว รวมทั้งประกันชั้น 2, ชั้น 2+, ชั้น 3, และชั้น 3+ ที่สามารถเคลมประกันได้ดังนี้
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
เคลมประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น 2 มีความคุ้มครองลดลงจากประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น โดยมีความคุ้มครองดังนี้:
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือถูกโจรกรรม
- คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้
- ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถของผู้เอาประกันในกรณีเกิดอุบัติเหตุ (ถ้าไม่มีการชนกับคู่กรณี)
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ประกันชั้น 2+ เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า โดยมีเงื่อนไขการคุ้มครองบางอย่างที่แตกต่าง ดังนี้
- คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันในกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการชนกับยานพาหนะทางบก (มีคู่กรณี)
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือถูกโจรกรรม
- คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้
- ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี (เช่น รถพลิกคว่ำเอง)
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น 3 เป็นประกันภัยที่มีค่าเบี้ยถูกที่สุดและให้ความคุ้มครองขั้นพื้นฐาน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันสูง โดยมีความคุ้มครองดังนี้:
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของผู้เอาประกัน
- ไม่คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือถูกโจรกรรม
- ไม่คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ประกันรถยนต์ 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น 3+ เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมจากชั้น 3 แต่ยังคงมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าชั้น 1 และ 2 โดยมีความคุ้มครองดังนี้:
- คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันในกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการชนกับยานพาหนะทางบก (มีคู่กรณี)
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ไม่คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือถูกโจรกรรม
- ไม่คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้
เคลมประกันแบบไหนก็ไม่กลัว! เพราะประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก แรบบิท แคร์ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์คุ้มที่สุดจากทุกบริษัทประกันชั้นนำ ผ่อนประกันรถยนต์ 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมส่วนลด 70% และสิทธิพิเศษครบทั้งบริการแจ้งเคลมออนไลน์ บริการช่วยเหลือทางถนนฉุกเฉินตลอด 24 ชม. บริการรถใช้ทดแทนระหว่างซ่อม พร้อมชดเชยค่าเดินทางกลับบ้าน สูงสุด 500 บาท รับความแคร์ได้ก่อนใคร! โทรเลย 1438 หรือ rabbitcare.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- นิทานสอนใจประกันรถยนต์ชั้น 1
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 ดีอย่างไร ?
- ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี?
- เหตุการณ์แบบไหนที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไม่คุ้มครอง
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Rabbit Care และ Asia Direct
มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต