แคร์รถยนต์

น้ำกลั่นแบตเตอรี่เลือกใช้ยังไงให้ถูกต้อง และทำไมถึงไม่ควรเติมน้ำเปล่าแทน

ผู้เขียน : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
 
ตรวจทาน : คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

close
linkedin icon
Published: October 24,2024
  
Reviewed: August 26, 2024
น้ำกลั่นแบตเตอรี่

ก่อนจะไปดูข้อมูลเกี่ยวกับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ต้องมาทำความเข้าใจเรื่องแบตเตอรี่ขั้นพื้นฐานให้เรียบร้อย เพราะว่าแบตเตอรี่ในปัจจุบันมีให้เราเลือกอยู่ 2 แบบด้วยกัน จะเป็นแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งที่ต้องเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ กับแบตเตอรี่แบบแห้งที่มีราคาสูงกว่าแต่ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่อีกต่อไป พอรู้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับแบตเตอรี่ครบถ้วนแล้ว ทุกคนจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวข้อมูลน้ำกลั่นได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่มีความเข้าใจร่วมกัน ตั้งแต่อธิบายว่าน้ำกลั่น คือ อะไร มีกี่ประเภท มีวิธีดูแลไหม อาการ น้ำกลั่นแบตเตอรี่แห้งเป็นยังไง วิธีเติมน้ำกลั่นอย่างถูกต้องเป็นแบบไหน และทำไมถึงไม่ควรเติมน้ำเปล่าแทนน้ำกลั่นแบบเด็ดขาด

คัดมาให้แล้ว! ประกันรถสุดคุ้ม จากกว่า 30 บริษัทชั้นนำ

รถของคุณยี่ห้ออะไร

< กลับไป
< กลับไป

ระบุยี่ห้อรถของคุณ

ระบุปีผลิตรถของคุณ

น้ำกลั่นแบตเตอรี่คืออะไร

น้ำกลั่นแบตเตอรี่ คือ น้ำที่ผ่านกระบวนการความร้อนจากเครื่องกลั่น ทำให้น้ำระเหยกลายเป็นไอ ควบแน่นจนกลายเป็นน้ำบริสุทธิ์แบบไม่มีสิ่งใด ๆ เข้ามาเจือปน เราจึงสามารถเอาน้ำกลั่นแบตเตอรี่มาเติมลงในแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งได้ เนื่องจากน้ำกลั่นที่บริสุทธิ์จะมีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม ช่วยให้รถของเราสตาร์ตติดได้ง่าย อีกทั้งยังมีการส่งเสริมการทำงานร่วมกันกับกรดภายในแบตเตอรี่อีกต่างหาก

ประเภทของน้ำกลั่นแบตเตอรี่

ประเภทของน้ำกลั่นแบตเตอรี่ในประเทศไทย จะมีตัวเลือกทั้งหมด 2 รูปแบบด้วยกัน คือ น้ำกลั่นสีชมพูและน้ำกลั่นสีใส โดยทั้งคู่มีประสิทธิภาพการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ตามค่าความเป็นกรด ค่าของการนำไฟฟ้า หรือค่าความเป็นด่าง ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมที่น่าสนใจเกี่ยวกับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ที่กล่าวถึง จะสามารถติดตามอ่านกันได้จากเนื้อหาในหัวข้อย่อยต่อไปนี้

น้ำกลั่นสีชมพู

น้ำกลั่นแบตเตอรี่สีชมพู มีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนให้กับการทำงานของแบตเตอรี่ มันจึงช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องการเก็บไฟไส้ได้นานขึ้น เหมาะกับรถยนต์ที่ต้องจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน จึงเหมาะสมกับการเลือกใช้งานน้ำกลั่นแบตเตอรี่สีชมพูเป็นหลัก รวมถึงด้วยการที่มันมีสีชมพูเข้ามาเจือปน ทำให้เราสามารถสังเกตระดับเพื่อตรวจเช็กได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกัน

น้ำกลั่นสีใส

น้ำกลั่นแบตเตอรี่สีใส คือ น้ำกลั่นแบบธรรมดาที่เป็นเพียงแค่น้ำบริสุทธิ์เท่านั้น ไม่ได้มีการเจือปนของสารเคมีอื่น ๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานในระบบอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ในรถยนต์เช่นเดียวกัน 

หากเราสามารถเลือกซื้อน้ำกลั่นแบตเตอรี่ได้ตามความต้องการ มีเวลาเลือกให้เอาไปเปลี่ยนได้ดั่งใจนึก ก็แนะนำว่าควรเลือกใช้งานน้ำกลั่นแบตเตอรี่แบบสีชมพู เพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมไปด้วย ส่วนใครที่มีความจำเป็นต้องใช้งานแบบกระทันหันน้ำกลั่นแบตเตอรี่แบบสีใส ยังสามารถใช้งานทดแทนได้ดีเหมือนกัน เพียงแต่จะไม่มีประสิทธิภาพแฝงตามสิ่งที่ใส่เข้ามาในตัวน้ำกลั่นนั่นเอง

อาการ น้ำกลั่นแบตเตอรี่แห้ง

วิธีดูน้ำกลั่นแบตเตอรี่

วิธีการดูน้ำกลั่นแบตเตอรี่สามารถเปิดดูได้จากจุกช่องเติมน้ำกลั่นในแบตเตอรี่โดยตรง แต่ว่าตัวแบตเตอรี่นั้นจะไม่มีอุปกรณ์ช่วยวัดหรือเช็กเพิ่มเติม เราต้องกะเอาจากสายตา หรือวัดด้วยความรู้ว่าหากแบตเตอรี่ที่ใช้งานเป็นแบบกึ่งแห้ง โดยปกติแล้วเราจะต้องเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ภายในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตรที่ใช้งาน ส่วนกรณีที่เป็นแบตเตอรี่แบบน้ำ เราต้องมีการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ที่ต่อเนื่องมากขึ้น เป็นทุก 1,000 กิโลเมตร หรือเติมกันทุก 1-2 สัปดาห์เลยก็ว่าได้

อาการน้ำกลั่นแบตเตอรี่แห้ง

อาการ น้ำกลั่นแบตเตอรี่แห้ง ได้แก่ สตาร์ตรถไม่ติด ไฟในระบบดูอ่อน เหมือนจะดับลงอยู่ตลอดเวลา หากรู้ตัวว่ารถยนต์ของเราใช้งานแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง หรือแบบน้ำ พอเจออาการดังกล่าว ให้ลองเปิดฝากระโปรงรถเพื่อเช็กดูได้เลยว่า น้ำกลั่นแบตเตอรี่ภายในแบตเตอรี่รถยนต์ของเรา อยู่ในระดับปกติหรือไม่ ถ้าหากเราปล่อยให้แห้ง อาจเกิดความเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง ถึงขั้นต้องเปลี่ยนแบตใหม่ทั้งก้อนเลยก็ว่าได้

คำแนะนำเพิ่มเติม ถึงแม้เราจะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยการ เติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่เข้าไปในระบบแล้วหารถยนต์คันอื่นมาช่วยจั๊มพ์แบตเตอรี่ให้ หากเราสามารถสตาร์ตรถติดได้ แต่อนาคตอันสั้นแบตเตอรี่ที่เคยแห้งสนิทไปแล้ว อาจไม่สามารถกักเก็บไฟได้ดีเท่าเดิม เสี่ยงเจออาการรถดับกลางอากาศ หรือจอดแล้วสตาร์ตไม่ติดได้เช่นกัน จึงควรระมัดระวังเรื่องการลืมเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่จนแบตเตอรี่แห้งให้มากที่สุดสำหรับผู้ที่ใช้งานแบตเตอรี่ แบบน้ำและแบบกึ่งแห้ง

วิธีเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างถูกต้อง

วิธีการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างถูกต้อง คือ เริ่มต้นที่การทำความสะอาดโดยรอบแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย, เช็กระดับน้ำกลั่นก่อนเติมทุกครั้ง, เตรียมการเปิดฝาแบตเตอรี่ให้พร้อม และเช็กปริมาณหลังเติมอีกครั้ง เพียงเท่านี้ทุกคนจะสามารถดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ทั้งแบบน้ำ หรือแบบกึ่งแห้งได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ทั้งหมด สามารถเลื่อนลงไปอ่านเพิ่มเติมได้จากลิสต์รายหัวข้อด้านล่างนี้เลย

  1. ทำความสะอาดโดยรอบแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย เพียงแค่ใช้น้ำยาทำความสะอาด ฉีดลงบนผ้าแห้ง เพื่อทำความสะอาดรอบตัวแบตเตอรี่ หรือแม้แต่ผ้าที่เปื้อนน้ำมันเครื่อง ก็สามารถเอาเช็ดทำความสะอาดได้เช่นเดียวกัน แต่ห้ามไม่ให้เศษกระดาษทิชชู่ เศษผ้า เศษสิ่งสกปรกอะไรก็ตามหล่นเข้าไปในช่องเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างเด็ดขาด
  2. เช็กระดับน้ำกลั่นก่อนเติมทุกครั้ง ถ้าหากเป็นแบตเตอรี่รุ่นเก่า ให้เราใช้แผ่นทองแดงเป็นตัวช่วยสังเกตระดับของน้ำกลั่นที่ต้องเติมเพิ่มลงไป ทางด้านแบตเตอรี่รุ่นใหม่จะมีตัวช่วยที่เรียกว่า สัญลักษณ์ตาแมว (Indicator Sign) ทำให้เราสังเกตเห็นปริมาณคงเหลือได้ง่ายกว่า
  3. เตรียมการเปิดฝาแบตเตอรี่ให้พร้อม ทั้งหมด 6 ฝา หลังจากนั้นลองเช็กดูถึงระดับน้ำกลั่นปัจจุบัน ว่าเราควรเติมเพิ่มเข้าไปเท่าไหร่ถึงจะพอดี หากเป็นแบตเตอรี่รุ่นเก่า ต้องเติมให้ท่วมแผ่นทองแดงเล็กน้อย ส่วนรุ่นใหม่ก็สามารถเติมได้จากระดับความพอดีที่มีกำหนดมาให้ และที่สำคัญห้ามเติมทีเดียวแบบเร็ว ๆ โดยเด็ดขาด ไม่งั้นอาจล้นจนเจือปนสิ่งสกปรกภายนอกได้
  4. เช็กปริมาณหลังเติมอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจถึงการเติมน้ำกลั่นที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จนแบตเตอรี่รถยนต์ของเราทำงานได้ตามปกติ สุดท้ายหลังจากปิดฝาแบตเตอรี่แล้ว อย่าลืมเช็ดทำความสะอาดให้แห้งอีกครั้ง

เพียงเท่านี้ทุกคนคงสามารถเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย ขอแค่เราสามารถหาซื้อเจ้าตัวน้ำกลั่นแบตเตอรี่ตามทึ่ต้องการใช้งานมาให้ได้ก่อน แล้วเติมตามรายละเอียดวิธีด้านบนทั้งหมดได้เลย รับประกันความปลอดภัย รวมถึงวิธีการที่ถูกต้อง ยังช่วยให้แบตเตอรี่สามารถทำงานได้เหมือนเดิมด้วย

น้ำกลั่นแบตเตอรี่ คือ

ทำไมถึงไม่ควรเติมน้ำเปล่าแทนน้ำกลั่นแบตเตอรี่

เหตุผลที่เราไม่ควรใช้งานน้ำเปล่าแทนน้ำกลั่นแบตเตอรี่ คือ น้ำเปล่าหรือน้ำดื่มทั่วไปมีความเป็นกรดด่างที่แตกต่างกัน และแน่นอนว่าบางกรณีมันยังมีแร่ธาตุเสริมเพิ่มเติมอีกมากมาย ในทางทฤษฎีแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลยต่อแบตเตอรี่ แถมยังเป็นข้อเสียที่ลดอายุการใช้งาน ลดประสิทธิภาพการเก็บประจุไฟอย่างต่อเนื่อง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่าต่อให้จำเป็นมากแค่ไหน สถานการณ์ขับขันมากเพียงใด ก็ไม่ควรเอาน้ำเปล่ามาเติมแทนน้ำกลั่นแบตเตอรี่อยู่ดี คุณจะได้ไม่คุ้มเสียในท้ายที่สุด

อยากดูแลรถยนต์ให้เนี้ยบเหมือนกับการศึกษาข้อมูลเรื่องน้ำกลั่นแบตเตอรี่ แรบบิท แคร์ อยากแนะนำให้ทุกคนเลือกสมัครประกันรถยนต์ที่เหมาะสมต่อการใช้งานติดไว้ เพื่อช่วยให้ประกันรถยนต์ได้มีส่วนร่วมการดูแลคุ้มครองทุกเส้นทางที่คุณไป ให้อุ่นใจได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองค่าซ่อมแซม, ค่าสินทรัพย์, ค่าสินไหมทดแทน, ค่ารักษาพยาบาล และอื่น ๆ อีกหลายรายการ

หากสนใจอยากเลือกประกันรถยนต์ให้คุ้มค่าที่สุด ติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้โดยตรงที่เบอร์ 1438 โทรได้ทุกเวลา ตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์เมื่อไหร่ แรบบิท แคร์ ยินดีมอบส่วนลดให้สูงสุดถึง 70%!


สรุป

สรุปบทความ

น้ำกลั่นแบตเตอรี่ คือ น้ำที่ผ่านกระบวนการความร้อนจากเครื่องกลั่น ทำให้น้ำระเหยกลายเป็นไอ ควบแน่นจนกลายเป็นน้ำบริสุทธิ์แบบไม่มีสิ่งใด ๆ เข้ามาเจือปน มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำไฟฟ้าได้ดี จึงเหมาะนำมาเติมลงในแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง ช่วยให้รถสตาร์ตติดได้ง่าย กลับกัน น้ำเปล่าหรือน้ำดื่มทั่วไปไม่ควรนำมาเติมลงในแบตเตอร์รี่แบบกึ่งแห่ง เพราะในน้ำทั่วไปมีความเป็นกรดด่างจากน้ำกลั่น ทำให้เกิดผลเสียมากกว่านั่นเอง

จบสรุปบทความ

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 97818

แคร์รถยนต์

ป้ายทะเบียนรถหายทํายังไง 2567 ขอใหม่ได้ที่ไหน มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

อุบัติเหตุเกี่ยวกับการที่ป้ายทะเบียนรถหาย สามารถเกิดขึ้นได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะกรอบชำรุดเสียหาย ทำให้ป้ายทะเบียนของเราร่วงหายระหว่างทาง
Natthamon
18/12/2024
Rabbit Care Blog Image 97312

แคร์รถยนต์

เปลี่ยนยาง 2 เส้นได้ไหม ต้องเลือกใส่ไว้ล้อไหนถึงจะเหมาะสม

พอถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ บางคนอาจสงสัยว่าเปลี่ยนยาง 2 เส้นก่อนได้หรือไม่ เพราะบางครั้งงบประมาณของแต่ละคนไม่เท่ากัน
Natthamon
10/12/2024
Rabbit Care Blog Image 97291

แคร์รถยนต์

ถ้าคันเร่งค้างทำยังไงดี สาเหตุเกิดขึ้นได้จากอะไร มีเรื่องไหนที่ควรระมัดระวัง

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นมา แต่เมื่อเราต้องเจอสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ ดังเช่นเหตุการณ์คันเร่งค้าง
Natthamon
02/12/2024