น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) คืออะไร สามารถเติมเองได้หรือไม่ ?
ในการดูแลรักษารถยนต์นั้น การล้างรถ และตรวจสภาพตามรอบอาจไม่เพียงพอเสมอไป เพราะยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่หากเรารู้แล้วจะสามารถดูแลรักษารถยนต์ของเราให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานที่สุดได้ วันนี้ แรบบิท แคร์ จึงเลือกหยิบยกเรื่องราวที่เกี่ยวกับ น้ำยาหล่อเย็น Coolant น้ำยาหล่อเย็น รถยนต์ หรือที่หลายคนเรียกว่าน้ำยาหล่อเย็น หม้อน้ำมาฝากให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจ เพื่อที่จะได้นำไปดูแลรถยนต์คู่ใจของตนเองได้ในชีวิตประจำวัน
น้ําหล่อเย็น คืออะไร ?
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักว่าน้ำยาหล่อเย็น coolant คืออะไร น้ำยาหล่อเย็น คือ ส่วนสำคัญของระบบระบายความร้อนในเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ในการช่วยระบายความร้อนที่สะสมในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ไม่ว่าจะในตอนที่เดินเครื่องปกติเบา ๆ หรือจังหวะที่เร่งเครื่อง ใช้เติมในหม้อน้ำ (บางคนจึงเรียกว่าน้ำยาหม้อน้ำ) เพื่อเสริมประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อน ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น โดยน้ำยาหล่อเย็นทำหน้าที่ถ่ายเทความร้อนส่วนเกินออกจากเครื่องยนต์เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมสำหรับการทำงานของรถอยู่เสมอ
น้ำยาหล่อเย็น แต่ละสีต่างกันอย่างไร ?
แน่นอนว่าตามท้องตลาดก็จะมีน้ำยาหล่อเย็นหลากยี่ห้อ หลากสีให้เลือกซื้อ โดยผู้ใช้รถยนต์ที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญก็อาจรู้สึกสับสนกันได้ง่าย ๆ ว่าน้ำยาหล่อเย็นที่มีสีสันแตกต่างกันมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แรบบิท แคร์ มีคำตอบให้ ซึ่งจะอธิบายให้เข้าใจในหัวข้อถัดไปนั่นเอง
น้ำยาหม้อน้ำ สีเขียว กับ สีชมพูต่างกันอย่างไร ?
ในส่วนความแตกต่างของน้ำยาหล่อเย็นสีเขียวกับสีชมพูนั้น น้ำยาหล่อเย็นสีชมพูกับสีเขียวมีความแตกต่างกันเพียงแค่สีเท่านั้น ส่วนผสมหลักของน้ำยาหล่อเย็นทั้งสองสีเป็นสูตรเดียวกันแทบทั้งหมด แต่มีการใช้สีที่แตกต่างกันเพื่อช่วยในการตรวจสอบการรั่วไหลในห้องเครื่องได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ทั้งสองสีสามารถใช้ผสมกันได้ แต่โดยทั่วไปแล้วไม่นิยมทำ เนื่องจากหากจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็น ก็มักจะล้างของเก่าออกให้หมดก่อนเพื่อให้ระบบระบายความร้อนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดนั่นเอง
น้ำยาหล่อเย็น สีเขียว กับ สีฟ้าต่างกันยังไง ?
แม้ว่าน้ำยา Coolant สีเขียว และสีชมพูจะไม่มีความแตกต่างกัน แต่ในส่วนของน้ำยา Coolant สีเขียวกับสีฟ้านั้นมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง นั่นก็คือ น้ำยาหล่อเย็นสีเขียวเป็นสูตรธรรมดาที่มีอายุการใช้งานประมาณ 40,000 กิโลเมตร ส่วนสีฟ้าเป็นสูตร Long Life ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า สามารถใช้ได้ถึง 100,000 กิโลเมตรนั่นเอง
น้ำยาหล่อเย็น เติมเองได้ ไหม ?
สำหรับคำถามที่ว่าน้ำยาหล่อเย็น เติมเองได้ไหม ทั้งนี้น้ำยาหม้อน้ำเป็นผลิตภัณฑ์เคมีที่มีความเสี่ยง ดังนั้นหากต้องการเติมเองสามารถทำได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัยให้มิดชิด
น้ำยาหล่อเย็น Coolant เติมยังไง ?
หลังจากที่ทราบกันไปแล้วว่าแม้จะค่อนข้างมีความเสี่ยงอันตราย แต่หากเราระมัดระวัง และสวมอุปกรณ์ป้องกันก็สามารถเติมเองได้ หลายคนคงสงสัยว่าจะมีวิธีในการเติมอย่างไร โดยวิธีการเติม Coolant ด้วยตนเองจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เริ่มต้นด้วยการถ่ายน้ำในหม้อน้ำเดิมออกจากก๊อกที่อยู่ใต้หม้อน้ำให้หมด แล้วล้างหม้อน้ำด้วยน้ำยาล้างหม้อน้ำเพื่อกำจัดสนิมและสิ่งสกปรกออกให้สะอาด
- เติม Coolant ตามอัตราส่วนที่ระบุบนขวด ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ (เช่น อัตราส่วน 1:1 หรือ 1:3)
- จากนั้นให้เติมน้ำสะอาดหรือน้ำกลั่นลงไปเพื่อให้ได้ระดับน้ำในหม้อน้ำอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ (บางสูตร Coolant สามารถเติมได้เลยโดยไม่ต้องผสมน้ำ ซึ่งทำให้สะดวกมากขึ้น)
จะเห็นได้ว่าการเติมน้ำยาหม้อน้ำนั้นมีขั้นตอนไม่มาก และไม่ได้ยาก แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องทำด้วยความระมัดระวังรอบคอบนั่นเอง
น้ำยาหล่อเย็น ควรเติมเท่าไหร่ ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าการเติม Coolant นั้นจะต้องเติมเท่าไหร่ น้ำยาหล่อเย็น ใช้กี่ลิตร ต่อการเติมหนึ่งครั้ง ปริมาณน้ำยาหม้อน้ำที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบหล่อเย็นในรถยนต์แต่ละคัน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์ทั่วไปจะใช้น้ำยาในการหล่อเย็นประมาณ 6-12 ลิตร ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทของรถ แต่หากต้องการทราบปริมาณที่แน่นอน ควรตรวจสอบคู่มือใช้รถยนต์ หรือสอบถามจากช่างผู้ชำนาญเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับรถของเราที่สุด
น้ำยาหล่อเย็น อยู่ได้นานแค่ไหน ?
โดยปกติแล้วเมื่อพูดถึงอายุการใช้งานของ Coolant น้ำยาหล่อเย็นจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำยาที่ใช้ ดังนี้
- น้ำหล่อเย็นแบบธรรมดา (สีเขียว) มักมีอายุการใช้งานประมาณ 40,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 2 ปี
- น้ำยาหม้อน้ำแบบ Long Life (สีฟ้า) สามารถใช้งานได้ถึง 100,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 5 ปี
*ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ละบุคคล
น้ำยาหล่อเย็น เติมบ่อยแค่ไหน ?
ในส่วนของผู้ที่สงสัยว่า น้ำหล่อเย็นควรเติมบ่อยแค่ไหน คำตอบคือควรเติมตามความจำเป็น โดยปกติแล้วควรตรวจสอบระดับน้ำยาหม้อน้ำเป็นระยะทุกๆ 1-3 เดือน หรือทุกครั้งที่ทำการตรวจสอบสภาพรถ
ทั้งนี้ควรเติมน้ำยา หล่อเย็นเมื่อพบว่าระดับน้ำยาอยู่ต่ำกว่าขีด MIN ในหม้อน้ำ หรือเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น เครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินไป หรือมีการรั่วไหลเกิดขึ้น
หากน้ำยาหม้อน้ำหมดบ่อยครั้ง อาจแสดงถึงปัญหาที่ต้องแก้ไข เช่น การรั่วซึมในระบบหล่อเย็น หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหม้อน้ำ ควรให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาต่อไป
น้ำยาหม้อน้ำ เปลี่ยนทุกกี่กิโล ?
น้ำยาหม้อน้ำควรเปลี่ยนทุก ๆ 40,000 กิโลเมตรสำหรับน้ำยาหม้อน้ำแบบธรรมดา (สีเขียว) และทุก ๆ 100,000 กิโลเมตรสำหรับน้ำยาหม้อน้ำแบบ Long Life (สีฟ้า) อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบระดับและสภาพของน้ำยาหม้อน้ำเป็นระยะ และเปลี่ยนตามความจำเป็น เช่น เมื่อพบว่าน้ำยาหม้อน้ำมีสีเปลี่ยนไปหรือมีการปนเปื้อนต่าง ๆ เช่น สนิมหรือสิ่งสกปรก เพื่อให้ระบบหล่อเย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
น้ำยาหล่อเย็น ผสมกันได้ไหม ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าสามารถนำน้ำยาหม้อน้ำมาผสมกันได้ไหม คำตอบคือสามารถทำได้ หากเช็คแล้วว่าเป็นยี่ห้อเดียวกัน และมีส่วนผสมที่เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ทำ และไม่นิยมทำกันเพราะอาจะทำให้น้ำยาที่ใช้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
น้ำยาหล่อเย็น ต้องผสมน้ำไหม ?
น้ำยาหม้อน้ำบางประเภทต้องผสมน้ำ ในขณะที่บางประเภทสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องผสม น้ำยาหม้อน้ำแบบธรรมดา (สีเขียว) มักต้องผสมน้ำสะอาด หรือน้ำกลั่นตามอัตราส่วนที่ระบุบนขวด เช่น ผสมตามอัตราส่วนอัตราส่วน 1:1 หรือ 1:3
ส่วนน้ำยาหม้อน้ำแบบ Long Life (สีฟ้า) บางสูตรอาจสามารถเติมได้โดยไม่ต้องผสมน้ำ ทั้งนี้ควรตรวจสอบคำแนะนำบนฉลากเพื่อความถูกต้องและเหมาะสมในการใช้งาน
น้ำยาหล่อเย็น ใส่ต่างยี่ห้อได้ไหม ?
น้ำยาหม้อน้ำจากยี่ห้อต่าง ๆ สามารถใส่ร่วมกันได้ แต่ควรระมัดระวังในการทำ รวมถึงไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากน้ำยาหม้อน้ำแต่ละยี่ห้ออาจมีสูตร และส่วนผสมที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหรือความไม่เข้ากันได้ในระบบหล่อเย็นของรถยนต์
เติมน้ำเปล่าแทน น้ำยาหล่อเย็น ได้ไหม ?
ถ้าน้ำยาหล่อเย็น ลดลง เติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหม้อน้ำได้ไหม คำตอบคือไม่สามารถเติมแทนได้ เนื่องจากน้ำเปล่าไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดสนิม การกัดกร่อน และการเยือกแข็งเหมือนกับน้ำยาหม้อน้ำ อีกทั้งน้ำเปล่าอาจทำให้ระบบหล่อเย็นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และอาจส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปได้
สรุป
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวกับน้ำหล่อเย็นซึ่ง แรบบิท แคร์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนรักรถ และต้องการจะดูแลรถยนต์คันโปรดของตัวเอง นอกจากนี้อีกสิ่งสำคัญที่ควรทำเพื่อการดูแลรถยนต์ของเราก็คือ การทำประกันรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ เอาไว้ เพื่อการดูแลรักษารถอย่างครอบคลุม และความอุ่นใจ เพราะการใช้รถใช้ถนนนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อยู่เสมอนั่นเอง
ที่มา
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology