ไดนาโม คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อรถของคุณ ?
สำหรับคนที่รักรถและให้ความสำคัญในการดูแลรถยนต์ของตนเองนั้น การรู้จักเพียงอุปกรณ์พื้นฐานภายในรถยนต์อาจไม่เพียงพอเสมอไป วันนี้ แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้รู้จักกับ ‘ไดนาโม’ หนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ที่ควรรู้จักกันเอาไว้ ว่าไดนาโมนั้นคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ? รวมถึงจะทราบได้อย่างไรหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับไดนาโม
ไดนาโม คืออะไร ?
ไดนาโม หรือ อัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) คือ อุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อรถยนต์ของเราเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการช่วยในการผลิตกระแสไฟฟ้าหรือปั่นไฟภายในรถยนต์ (อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถไม่ได้ใช้ไฟที่ผลิตจากแบตเตอรี่อย่างที่ทุกคนมักเข้าใจผิดกัน) จึงอาจกล่าวได้ว่า ไดนาโมนั้นคืออุปกรณ์ที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักในการผลิตไฟฟ้าเพื่อมาใช้ในรถยนต์ของเราเลยนั่นเอง
ไดนาโม สำคัญอย่างไร ?
อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่าได นาโมนั้นเป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ภายในรถยนต์ของเรา โดยได นาโมนั้นจะทำการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งไปยังแบตเตอรี่เพื่อกักเก็บเอาไว้ ก่อนที่จะจ่ายไฟไปยังส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าภายในรถยนต์ ส่วนมากคนจึงคิดว่าไฟฟ้าภายในรถยนต์นั้นถูกผลิตมาจากแบตเตอรี่ แต่ความจริงแล้วถูกผลิตมาจากได นาโม แบตเตอรี่เป็นเพียงภาชนะสำหรับกักเก็บเพียงเท่านั้น
ดังนั้นไดนาโมจึงมีความสำคัญมากในฐานะอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า หรือปั่นไฟฟ้าไว้ใช้ภายในรถยนต์ของเรานั่นเอง
ไดนาโมกับไดสตาร์ท ต่างกันอย่างไร ?
ปัจจุบันมีความเข้าใจผิด ๆ มากมายเกี่ยวกับไดนาโมมากมาย ตั้งแต่การที่เข้าใจว่าแบตเตอรี่ต่างหากที่เป็นตัวผลิตกระแสไฟไม่ใช่ไดนาโมอย่างที่ได้กล่าวไป จนไปถึงความเข้าใจผิด ๆ ว่าไดนาโมและไดสตาร์ทคืออุปกรณ์ชนิดเดียวกันทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ ในแง่ของหน้าที่การใช้งานแล้วไดนาโมและไดสตาร์ทไม่ได้ทำหน้าที่เหมือนกันแต่อย่างใด เพียงแต่ที่คำว่าไดนำหน้าเหมือนกันจึงทำให้หลายคนเข้าใจผิดกันไปไกล โดยไดนาโมนั้นจะมีหน้าที่หลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่จะต้องนำมาใช้ ส่วนไดสตาร์ทนั้น คือ อุปกรณ์มอเตอร์ที่ใช้สำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ มีหน้าที่สำหรับส่งกำลังฉุดให้เครื่องยนต์ของรถยนต์ทำงาน และจะหยุดทำงานโดยทันทีเมื่อเครื่องยนต์ทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กล่าวได้ว่าไดสตาร์ทนั้นจะทำงานเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เปรียบให้เห็นภาพได้ง่าย ๆ ก็คือได้สตาร์ทเหมือนไม้ขีดที่เอาไว้จุดเตาถ่าน เมื่อไฟเริ่มติดแล้วก็จะเป็นหน้าที่ของไดนาโมที่ต้องผลิตพลังงานไฟฟ้าต่อไปเรื่อย ๆ นั่นเอง
ไดนาโม ทำงานอย่างไร ?
สำหรับการทำงานของได นาโม หรือ อัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) นั้น ได นาโมจะเริ่มทำงานได้ต่อเมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์เกิดขึ้นเท่านั้น โดยหลักการทำงานของได นาโมนั้นจะเป็นการอาศัยกำลังส่งจากลูกรอกและสายพาน มาทำให้ไดนาโมหมุนเหนี่ยวนำจนเกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นมา (ทำงานเหมือนกับเครื่องปั่นไฟ) โดยจะสามารถกล่าวให้เข้าใจได้ง่าย ๆ คือ เครื่องยนต์จะทำงานโดยใช้น้ำมันเป็นตัวจุดระเบิดให้กลไกต่าง ๆ หมุน ซึ่งหลัก ๆ ก็คือหมุนล้อรถยนต์ และทำการหมุนไดนาโมไปพร้อมกัน ซึ่งถ้าหากเสียแปลว่าเครื่องปั่นไฟหรือเครื่องผลิตไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้ แบตเตอรี่จะทำหน้าที่จ่ายไฟอย่างเดียว ไม่ได้รับกระแสไฟฟ้ามาจากได นาโม ทำให้ไฟฟ้าในแบตเตอรี่จะค่อย ๆ หมดลง จนส่งผลให้สตาร์ทเครื่องยนต์ในครั้งต่อไปไม่ได้ เพราะแบตหมดก่อนเวลาอันควร
ในกรณีที่แบตเตอรี่หมดลงเพราะไดนาโมเสียนั้นสามารถใช้งานแบตเตอรี่เดิมต่อได้โดยชาร์จไฟเข้าได้เหมือนเดิมไม่ต้องไปซื้อใหม่ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เพราะแบตเตอรี่รถยนต์นั้นจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมเท่านั้น
ไดนาโมเสีย สามารถสังเกตได้อย่างไร ?
ทราบกันไปแล้วว่าหากไดนาโมรถยนต์ของเราเสียขึ้นมาก็จะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ของเราอย่างใหญ่หลวง ทำให้รถยนต์ไม่มีไฟฟ้าสำหรับการใช้งาน ไปจนถึงสตาร์ทไม่ติดได้ แล้วหากได นาโมเสียจะสามารถสังเกตได้อย่างไร ? โดยทั่วไปแล้วอุปกรณ์ดังกล่าวจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 ปี ทั้งนี้นั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพการผลิต แต่เป็นที่แน่นอนว่าได นาโมนั้นไม่ใช้อุปกรณ์ที่จะเสียหายได้ง่าย ๆ ซึ่งหากเกิดเหตุที่ได นาโมนั้นจะมีความขัดข้องหรือเสียหาย เราจะสามารถสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ ของรถยนต์ดังนี้
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถทำงานผิดปกติ : เมื่อได นาโมเกิดความเสียหายหรือเกิดความผิดปกติ จะสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เมื่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถของเราเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น วิทยุ เครื่องเสียง แอร์ ทำงานผิดปกติ ไฟหน้าหรือไฟท้ายรถยนต์มีอาการติด ๆ ดับ ๆ และไม่สว่างเท่าที่เคย สัญญาณเหล่านี้สามารถเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าไดนาโมของเราอาจกำลังมีปัญหา ดังนั้นหากรถของเรามีอาการเหล่านี้ก็ควรที่จะรีบเอาเข้าศูนย์เพื่อรับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญในทัน และถึงอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจไม่ใช่ไดนาโมผิดปกติก็เป็นอาการที่น่าเป็นห่วงอยู่ดี ควรนำไปเข้าศูนย์เพื่อรับการซ่อมแซมดูแล
- บริเวณหน้าปัดคอนโซลรถยนต์แสดงไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ : จุดนี้ก็เป็นจุดที่สามารถสังเกตถึงความผิดปกติได้ง่ายมากที่สุดจุดหนึ่ง คือเมื่อบริเวณหน้าปัดคอนโซลรถยนต์แสดงไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ สิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ของเรากำลังมีปัญหาซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ตั้งแต่ ไดนาโมเกิดความผิดปกติหรือมีความเสียหายเกิดขึ้น แบตเตอรี่หมด แบตเตอรี่เกิดการเสื่อมสภาพ สายไฟเกิดความเสียหาย ฟิวส์ขาด สายไฟหลวม ดังนั้นหากมีสัญลักษณ์เช่นนี้แสดงขึ้นมา ควรนำรถเข้าอู่หรือศูนย์เพื่อตรวจสภาพในทันที
- แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ : เมื่อไดนาโมเสีย เสื่อมสภาพ มีปัญหาขัดข้อง จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ได้รับไฟฟ้าน้อยลงมากกว่าปกติ เนื่องจากไดนาโมจะไม่สามารถจ่ายไฟไปยังแบตเตอรี่ได้ไม่เพียงพอและส่งผลให้แบตเตอรี่หมดไวผิดปกติ รวมถึงมีอาการคล้ายคลึงกับอาการแบตเตอรี่เสื่อม ดังนั้นหากรถของเรามีอาการแบตเตอรี่หมดไว เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้วอาการก็ยังไม่หาย อาจคาดการณ์ได้ว่าไดนาโมเกิดความเสียหาย ควรนำไปตรวจเช็กทันที
- รถสตาร์ทติดยาก : การที่อัลเทอร์เนเตอร์เสียหรือมีความผิดปกตินั้นถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ของเราสตาร์ทติดยาก เนื่องจากไดนาโมนั้นเป็นแหล่งในการผลิตไฟฟ้าของรถยนต์ ดังนั้นเมื่ออัลเทอร์เนเตอร์ขัดข้องส่งผลให้ความสามารถในการผลิตและจ่ายไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลดลง รถยนต์ของเราก็จะไม่มีกำลังไฟในการสตาร์ทจึงทำให้รถสตาร์ทติดยากหรือสตาร์ทไม่ติดเลยนั่นเอง
- มีเสียงแปลก ๆ หรือเสียงหอนดังออกมาจากใต้ท้องรถ : หากได้ยินเสียงแปลก ๆ หรือเสียงหอนออกมาจากบริเวณใต้ท้องรถยนต์ สิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกความเป็นไปได้ที่ไดนาโมจะเสียหรือมีอาการขัดข้อง เพราะเสียงนี้มักเกิดจากการที่สายพานหมุนไม่ตรงแนว หรือเกิดการเสียดสีกับด้านข้างของรอกบริเวณไดนาโมนั่นเอง
จุดสังเกตเหล่านี้ถือเป็นจุดสังเกตสำหรับสังเกตความผิดปกติหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับไดนาโมได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้รถควรให้ความใส่ใจ และหมั่นสังเกตความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับรถของเราได้เป็นประจำ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นจะได้เข้ารับการซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
วิธีการในการดูแลรักษา ไดนาโม
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะสามารถดูแลไดนาโมของรถเราให้มีสภาพการใช้งานได้ดีอย่างยาวนานได้อย่างไร ความจริงแล้วการดูแลรักษาไดนาโมนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการดูแลดังนี้
- พยายามหลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำในจุดที่น้ำท่วมสูง
- พยายามหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้ในจุดที่จะเกิดน้ำท่วมสูงได้
- ให้ความใส่ใจกับการเลือกเส้นทางการขับรถในช่วงหน้าฝน
- ให้ความสำคัญในการเลือกบริเวณจอดรถในช่วงหน้าฝน
- ตรวจสอบความตึงของสายพานรถเป็นประจำ
- หมั่นตรวจเช็กสภาพโดยรวมของรถอย่างสม่ำเสมอ
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถดูแลรักษาไดนาโมของรถเราให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้ ทั้งนี้เป็นที่แน่นอนว่าไม่ว่าจะส่วนใหญ่ของรถเราก็ล้วนแต่ต้องดูแลด้วยความใส่ใจ หมั่นสังเกตความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ล้วนแต่เกี่ยวพันกันนั่นเอง
และข้อมูลทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลน่ารู้ที่เกี่ยวกับ ‘ไดนาโม’ อีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ของเราที่ แรบบิท แคร์ ได้รวบรวมมาให้ นอกจากนี้สำคัญใครที่รักรถของตนเองสุดหัวใจ ต้องไม่ลืมที่จะทำประกันรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ เอาไว้ เพราะการทำประกันรถยนต์นั้นก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยให้เราดูแลรถยนต์สุดรักของเราได้ในระยะยาวอย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
สรุป
ไดนาโม หรือ อัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) เป็นอุปกรณ์สำคัญในรถยนต์ที่ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งไปยังแบตเตอรี่และจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในรถยนต์ ซึ่งหากไดนาโมเกิดความเสียหาย จะส่งผลให้ระบบไฟฟ้าของรถทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่หมดเร็ว รถสตาร์ทติดยาก หรือเกิดเสียงผิดปกติจากใต้ท้องรถ การดูแลรักษาไดนาโมสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำสูง ตรวจเช็กสายพานและสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย