น้ำมันเครื่อง เรื่องที่นักขับ ไม่ควรพลาด
การดูแลรักษาเครื่องยนต์ถือเป็นหัวใจหลักของการดูแลรถยนต์ หากเลือกใช้น้ำมันเครื่องยนต์คุณภาพดี ก็จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ แต่นอกจากคุณภาพของน้ำมันเครื่องแล้ว การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ว่าแต่ เราจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนนะ จำเป็นยังไงต้องเปลี่ยน ทำไมเป็นเรื่องที่ควรรู้ ไปหาคำตอบกันดีกว่า!
น้ำมันเครื่อง เรื่องที่นักขับ ไม่ควรพลาด
จำเป็นแค่ไหน ทำไมต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การทำงานเครื่องยนต์ต้องผ่านการสันดาปและการเสียดสี และตัวน้ำมันเครื่องยนต์ ก็ทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นที่จะช่วยยืดการใช้งานของเครื่องยนต์ เพื่อลดการสึกหรอต่างๆ ของเครื่องยนต์
เนื่องจาการสะสมสิ่งสกปรกจากการเผาไหม้และสึกหรอในเครื่องยนต์ ที่น้ำมันเครื่องไปชะล้างออกมา และมีการปนเปื้อนมาจากตะกอน คราบเขม่าต่างๆ ที่ปะปนมาระหว่างช่วยหล่อลื่นการทำงานของเครื่องยนต์
เมื่อน้ำมันเครื่องถูกใช้งานนานๆ เข้า ก็อาจเสื่อมสภาพลง มีความข้นเหนียว และทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพที่จะต้องหล่อลื่นนั่นเอง
ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ หากอยากลดการสึกหรอของเครื่องยนค์ ก็เพียงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ โดยการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยรักษาเครื่องยนต์ให้สะอาด และช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์ได้เป้นอย่างดี
นอกจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สิง่ที่คุณไม่ควรละเลยเลย คือ การเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องนั่นเอง เพราะไส้กรองเป็นตัวดักเก็บสิ่งเจือปนต่างๆ ที่อยู่ในน้ำมันเครื่อง รวมทั้งเศษโลหะของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ หากไส้กรองอุดตัน ก็อาจทำให้มีการปล่อยน้ำมันเครื่องไหลออกมาโดยไม่ผ่านการกรอง และทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติอีกด้วย
สัญญาณอันตราย ที่เตือนให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
หลักๆ แล้ว เราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เมื่อเกิดอาการดังนี้ขึ้น
- เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นเมื่อสตาร์ท แม้ตัวชดเชยรอบจะหยุดการทำงานเมื่ออุณหภูมิของเครื่องยนต์อยู่ในระดับปกติหลังจากสตาร์ทและเดินเบาไปแล้ว 5 นาที แต่เครื่องยนต์ก็ยังคงมีเสียงดังตลอดเวลา
- อัตราเร่งย่ำแย่ กดคันเร่งแล้วไม่พุ่งตามเท้าเหมือนเดิม อาการดังกล่าวอาจมีตัวแปรหลายสาเหตุ เช่น ระบบส่งกำลังหรือเกียร์มีปัญหา กรองเชื้อเพลิงหรือกรองน้ำมันเครื่องยนต์สกปรกอุดตัน
- กินน้ำมัน เคยวิ่งใช้งาน และมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ 13-15 กิโลเมตรต่อลิตร กลับกินจุดุเดือดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองหล่นลงมามาก ทำให้รถกินเชื้อเพลิงมากกว่าเดิม
- สีของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไป สีของน้ำมันเครื่องยนต์เมื่อใช้งานไปสักระยะ ความร้อนจากการเสียดสีของโลหะชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ทำงานทำให้เกิดละอองอณูโลหะปะปนทำให้น้ำมันเครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องยนต์มานานมากแล้วจนสีของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ
แล้วแบบนี้ จะเลือกเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ที่ระยะทางเท่าไหร่ดี ?
โดยทั่วไปแล้ว น้ำมันเครื่องจะมีระะยทางที่ควรเปลี่ยนอยู่ตามแต่ประเภทน้ำมันเครื่อง ซึ่งมีระยะเวลาการใช้งานที่ไม่เท่ากัน โดยปกติแล้วจะเฉลี่ยอยู่ประมาณต่อไปนี้
- น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา เปลี่ยนถ่ายที่ 5,000 – 7,000 กิโลเมตร
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนถ่ายที่ 7,000 – 10,000 กิโลเมตร
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เปลี่ยนถ่ายที่ 10,000 -15,000 กิโลเมตร
น้ำมันเครื่อง คือเรื่องที่คนรักรถ หรือมีรถในครอบครองควรรู้ เพราะการเปลี่ยนถ่ายตามระยะทางที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงต่างๆ ได้ดี และยังช่วยถนอมเครื่องยนต์ของเราให้ใช้งานได้นานมากขึ้นอีกด้วย!
แต่ถ้าอยากอัปเดทรถยนต์ใหม่ ราคาโดน ๆ พร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ต้องนึกถึง one2car.com และ ประกันรถยนต์สุดเจ๋ง จาก Rabbit Care
สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn และติดตามเรื่องรถใหม่ก่อนใคร
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct