เติมน้ำกลั่นด้วยตัวเองได้ไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

ผู้เขียน : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
แก้ไขโดย : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
ตรวจทาน : คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct

close
linkedin icon
Published: December 26,2024
  
Last edited: December 26, 2024
  
Reviewed: December 26, 2024
เติมน้ำกลั่นด้วยตัวเองได้ไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

เจ้าของรถมือใหม่ต้องอ่าน เติมน้ำกลั่นด้วยตนเองต้องทำอย่างไร ? มีเรื่องอะไรที่จะต้องระวังในการเติมน้ำกลั่นด้วยตนเองบ้างหรือไม่ ? แรบบิท แคร์ รวบรวมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับการเติมน้ำกลั่นมาให้ ลองอ่านทำความเข้าใจและนำไปใช้ได้เลย!

น้ำกลั่น คืออะไร ?

น้ำกลั่น (Distilled Water) คือ น้ำซึ่งผ่านกระบวนการทำความร้อนโดยเครื่องกลั่นน้ำเพื่อทำให้น้ำและสิ่งเจือปนต่าง ๆ ระเหยกลายเป็นไอน้ำ จากนั้นเมื่อไอน้ำกระทบกับความเย็นก็จะเกิดการควบแน่นเป็นหยดน้ำบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปน ส่งผลให้น้ำกลั่นนั้นเป็นน้ำชนิดเดียวที่สามารถนำมาเติมแบตเตอรี่ได้ เพราะน้ำที่จะใช้เติมแบตเตอรี่นั้นต้องไม่มีส่วนผสมที่เป็นแร่ธาตุ โลหะหนัก หรือสิ่งเจือปนใด ๆ ปะปนอยู่แต่อย่างใด หรือหากมีแร่ธาตุผสมอยู่ก็ต้องมีในปริมาณที่ไม่เกินกำหนดนั่นเอง

น้ำกลั่นรถยนต์มีกี่แบบ ?

ในปัจจุบันนั้นมีน้ำกลั่นรถยนต์ให้เลือกซื้อมาใช้มากมายหลากหลายยี่ห้อด้วยกัน โดยจะมีความแตกต่างกันที่ค่าความเป็นกรด ค่าความเป็นด่าง และค่าการนำไฟฟ้า แต่จะสามารถแบ่งเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ด้วยกัน คือ น้ำกลั่นรถยนต์แบบไม่มีสี และน้ำกลั่นรถยนต์สีชมพู ซึ่งน้ำกลันทั้ง 2 แบบจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • น้ำกลั่นแบบไม่มีสี : เป็นน้ำกลั่นธรรมดาที่เน้นใช้ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงสามารถนำมาใช้ในรถยนต์ได้เช่นกัน
  • น้ำกลั่นสีชมพู : เป็นน้ำกลั่นที่มีคุณสมบัติในการลดความร้อนให้กับแบตเตอรี่ ช่วยให้แบตเตอรี่มีความสามารถในการเก็บกำลังไฟได้ดีมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการใช้ในการเติมรถที่ถูกจอดทิ้งไว้นาน ๆ เป็นพิเศษ

ควรเติมน้ำกลั่นเมื่อไหร่ ?

ใครที่กำลังสงสัยว่าจะต้องเติมน้ำกลั่นเมื่อไหร่ สำหรับการใช้งานแบตเตอรี่แบบแห้งนั้นจะไม่ต้องทำการเติมน้ำกลั่นแต่อย่างใด แต่สำหรับแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นจะต้องเติมน้ำกลั่นในทุก ๆ 6 เดือน หรือวิ่งได้ระยะครบ 10,000 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่แบบน้ำควรเติมน้ำกลั่นทุก ๆ 1,000 กิโลเมตร หรือเติมทุกๆ 1-2 สัปดาห์

ทั้งนี้ควรเปิดเช็กระดับน้ำกลั่นด้วยตนเองเป็นระยะ ว่าระดับน้ำกลั่นลดลงจนสมควรที่จะเติมเพิ่มแล้วหรือยังอยู่เสมอนั่นเอง

เติมน้ำกลั่นด้วยตัวเองได้หรือไม่ ?

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนเองนั้นจะสามารถเติมน้ำกลั่นด้วยตนเองได้หรือไม่ หรือต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเติมให้เท่านั้น คำตอบคือเราสามารถเติมน้ำกลั่นด้วยตนเองได้ ไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากหรือความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ก็จะต้องเลือกใช้น้ำกลั่นที่ถูกต้องและเติม น้ำกลั่นด้วยวิธีที่ถูกต้องตามที่ แรบบิท แคร์ ได้นำมาให้ สามารถอ่านวิธีการเติมน้ำกลั่นที่ถูกต้องในหัวข้อถัดไปได้เลย

วิธีเติมน้ำกลั่น เติมน้ำกลั่นอย่างไรให้ถูกวิธี ?

ในส่วนของผู้ที่ต้องการเติมน้ำกลั่นให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตนเองแต่ยังไม่รู้ว่าวิธีที่ถูกต้องในการเติมน้ำกลั่นต้องทำอย่างไรนั้นก็ไม่ต้องกังวลใจ โดยขั้นตอนในการเติมน้ำกลั่นให้ถูกต้องปลอดภัย มีดังนี้

  • ทำความสะอาดแบตเตอรี่ : ก่อนที่จะทำการเติมน้ำกลั่น ขั้นตอนแรกที่จะเป็นต้องทำก็คือการเช็ดทำความสะอาดบริเวณภายนอกของแบตเตอรี่ โดยในการทำความสะอาดแบตเตอรี่นั้น จะสามรถใช้น้ำยาทำความสะอาดและผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดบริเวณแบตเตอรี่และบริเวณช่องเติมน้ำกลั่นได้โดยตรง
  • ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น : แน่นอนว่าขั้นตอนสำคัญมากอย่างหนึ่งก่อนที่จะเติมน้ำกลั่นก็ย่อมเป็นการตรวจสอบระดับน้ำกลั่นว่าอยู่ในปริมาณที่จะต้องเติมแล้วหรือไม่ ซึ่งสำหรับแบตเตอรี่รุ่นใหม่นั้นผู้ใช้งานรถจะสามารถตรวจสอบระดับน้ำกลั่นจากสัญลักษณ์ตาแมว (Indicator Sign) ได้ และสำหรับแบตเตอรี่รุ่นเก่าจะสามารถสังเกตปริมาณน้ำกลั่นบริเวณแผ่นทองแดงได้นั่นเอง
  • เติมน้ำกลั่น : ในการเติมน้ำกลั่นนั้น จะต้องทำการเปิดฝาแบตเตอรี่ออกทั้งหมดให้ครบจำนวน 6 ฝา เมื่อเช็กระดับน้ำกลั่นแล้วพบว่าระดับน้ำกลั่นของแบตเตอรี่ต่ำกว่ามาตรฐานก็ค่อย ๆ เติมน้ำกลั่นเพิ่มเข้าไปทีละนิด โดยระวังไม่เติมจนล้นแบตเตอรี่ (สำหรับแบตเตอรี่รุ่นเก่าให้เติมน้ำกลั่นลงไปจนท่วมแผ่นทองแดงตามเกณฑ์ที่กำหนด)
  • ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นอีกครั้ง : เมื่อทำการเติมน้ำกลั่นจนครบทุกช่องแล้วให้ทำการตรวจสอบอีกครั้งว่าระดับน้ำกลั่นอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ เมื่อพบว่าระดับของน้ำกลั่นอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมแล้วก็ให้ทำการปิดฝาและทำการเช็ดแบตเตอรี่ด้วยผ้าแห้งในทันที

ขั้นตอนเหล่านี้ถือเป็น 4 ขั้นตอนในการเติมน้ำกลั่นที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำด้วยตัวเองได้ สิ่งสำคัญคือต้องมีความระมัดระวังและรู้จักสังเกตระดับของน้ำกลั่นให้แม่นยำ ไม่เติมน้ำกลั่นในปริมาณที่มากหรือน้อยจนเกินไปนั่นเอง

ข้อควรระวังในการเติมน้ำกลั่น

ทราบวิธีในการเติมน้ำกลั่นกันไปแล้วก็มาดูข้อควรระวังที่ต้องรู้ไว้ในการเติมน้ำกลั่นกันบ้าง โดยสิ่งที่ต้องระวังในการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ด้วยตนเอง มีดังนี้

  • ไม่ควรเติม น้ำกลั่นในปริมาณมากจนเกินไป
  • ไม่ควรเติม น้ำกลั่นในปริมาณน้อยจนเกินไป
  • ต้องตรวจเช็กระดับน้ำในแบตเตอรี่ทุกช่อง
  • เมื่อเติมน้ำกลั่นเรียบร้อยแล้วต้องปิดฝาแบตเตอรี่ให้แน่น
  • ระวังไม่ให้น้ำกลั่นล้นหรือหกเลอะออกมาด้านนอก
  • อย่าทำให้เกิดประกายไฟใกล้กับแบตเตอรี่เป็นอันขาด
  • ควรสวมถุงมือและแว่นตาเพื่อป้องกันขณะเติม น้ำกลั่น

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องระวังเมื่อทำการเติม น้ำกลั่น เพราะนอกจากจะทำให้สามารถเติม น้ำกลั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังช่วยในด้านความปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับตัวเอง

ใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำกลั่นได้ไหม ?

หลายคนเห็นน้ำกลั่นเป็นลักษณะสีใส ๆ เหมือนน้ำเปล่าที่สะอาดบริสุทธิ์ก็คงนึกสงสัยว่าจะสามารถใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำกลั่นได้หรือไม่ คำตอบคือไม่สามารถใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำกลั่นได้ เนื่องจากการเติมน้ำเปล่าแทนน้ำกลั่นรถยนต์นั้นจะส่งผลให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ของรถยนต์โดยรวมสั้นลง ทั้งในด้านของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ แรงดันแบตเตอรี่ลดลง สาเหตุก็เป็นเพราะในน้ำเปล่านั้นจะมีแร่ธาตุเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความเป็นด่าง ในขณะที่ของเหลวที่อยู่ในแบตเตอรี่รถยนต์ของเรานั้นเป็นน้ำกรดซึ่งมีความเป็นกรด เมื่อเติมน้ำเปล่าที่มีความเป็นด่างเข้าไปก็จะทำให้ส่งผลต่อปฏิกิริยาทางเคมีภายในแบตเตอรี่ได้ และส่งผลต่อการทำงานของแบตเตอรี่โดยรวมดังที่กล่าวไปก่อนหน้า

เติมน้ำกลั่นไม่เป็นต้องทำอย่างไร ?

สำหรับใครที่เติม น้ำกลั่นไม่เป็นแม้จะลองอ่านทำความเข้าใจวิธีการเติม น้ำกลั่นไปแล้วก็ยังไม่กล้าที่จะเติมน้ำกลั่นด้วยตนเองก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะสำหรับคนที่ไม่สามารถเติมด้วยตนเองได้ ก็สามารถนำรถไปเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมรถเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญช่วยเช็กระดับน้ำกลั่นและทำการเติมให้ เพียงแต่ต้องหมั่นเตือนตัวเองตามระยะเวลาที่ แรบบิท แคร์ ได้บอกเอาไว้ เมื่อถึงกำหนดครบที่ควรจะเติมน้ำกลั่นเมื่อไหร่ก็ควรนำไปเช็กระดับน้ำกลั่นและเข้ารับการเติมนั่นเอง

และนี่ก็คือข้อมูลน่ารู้ที่เกี่ยวกับการเติมน้ำกลั่นที่เจ้าของรถทุกคนควรทราบเอาไว้ เพื่อเป็นการดูแลรักษารถยนต์ของเราให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดในการใช้งาน ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ และนอกจากจะต้องเรียนรู้วิธีในการดูน้ำกลั่น เติมน้ำกลั่นด้วยตัวเองดังที่กล่าวไป ก็ต้องไม่ลืมว่าควรที่จะทำประกันรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยดูแลรถยนต์ของเราได้ในระยะยาวนั่นเอง


สรุป

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับการเติมน้ำกลั่นในแบตเตอรี่รถยนต์ โดยเริ่มจากการแนะนำว่าน้ำกลั่นคืออะไร และความสำคัญของการใช้น้ำกลั่นที่ปราศจากสิ่งเจือปนในแบตเตอรี่รถยนต์ พร้อมแนะนำประเภทของน้ำกลั่นที่มีทั้งแบบไม่มีสีและแบบสีชมพูซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกัน การเติมน้ำกลั่นควรทำตามระยะเวลาที่กำหนดสำหรับแบตเตอรี่แต่ละประเภท และสามารถเติมได้ด้วยตนเองโดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เช่น ทำความสะอาดแบตเตอรี่ ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น และเติมในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงข้อควรระวัง เช่น หลีกเลี่ยงการเติมน้ำกลั่นมากหรือน้อยเกินไป และการใช้น้ำเปล่าแทนไม่ได้เพราะอาจส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ หากไม่มั่นใจสามารถนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลได้ บทความยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานและแนะนำการทำประกันรถยนต์เพื่อความมั่นใจในระยะยาว

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 99327

แคร์รถยนต์

รถกินน้ำมัน เกิดจากอะไร มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน

รถกินน้ำมัน สิ่งที่ทำให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันต่างก็ต้องกุมขมับเพราะถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์ ทั้งค่าน้ำมันที่แพงแสนแพง
Natthamon
23/01/2025
Rabbit Care Blog Image 99317

แคร์รถยนต์

รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง ทำความเข้าใจอีกครั้งในทุกเรื่องที่ควรรู้!

ทุกคนต่างรู้ดีว่าส่วนมากรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง เป็นยานพาหนะที่ถูกใช้งานมากที่สุดบนท้องถนน ถึงแม้จะมีรถยนต์ที่ใช้งานพลังไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาก็ตามที
Natthamon
22/01/2025
Rabbit Care Blog Image 99307

แคร์รถยนต์

รถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ ไฟหน้าปัดรถยนต์ ไม่ติด แบบนี้เป็นเพราะอะไรได้บ้าง?

สุดยอดปัญหาที่สร้างความสับสน กระวนกระวายใจให้ผู้ใช้งานรถมาหลายครั้งกับรถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่มีไฟ หรือไฟหน้าปัดรถยนต์ ไม่ติด แบบนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?
Natthamon
21/01/2025