โอนรถ ยากหรือไม่ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?





การซื้อขายรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่ง หรือรถมือสอง สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย คือ “การโอนรถ” ซึ่งการโอนรถเป็นขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อเปลี่ยนเจ้าของรถอย่างถูกต้อง ทั้งนี้หลายคนอาจมีความกังวลว่าขั้นตอนการโอนรถนั้นยุ่งยากหรือไม่ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร ดังนั้นหาใครกำลังสงสัย หรือมีแผนจะซื้อ-ขายรถยนต์
บทความนี้ แรบบิท แคร์ จะช่วยไขข้อข้องใจให้ พร้อมอธิบายขั้นตอน และรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการโอนรถให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ และครบถ้วน
โอนรถ คืออะไร ?
“โอนรถ” คือ กระบวนการทางกฎหมายในการเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ จากเจ้าของเดิมเป็นเจ้าของใหม่ ซึ่งจะต้องดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบก (ขนส่ง) หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อให้ข้อมูลในทะเบียนรถถูกต้องตรงตามผู้ครอบครองตัวจริง การโอนรถถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของแล้ว ยังช่วยลดปัญหาหากเกิดอุบัติเหตุ หรือมีการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถคันดังกล่าวในอนาคตนั่นเอง
โอนรถยนต์ ยากไหม ?
หลายคนมีความเข้าใจผิดว่าการโอนรถเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องใช้เวลา และเอกสารเยอะ แต่ความจริงแล้ว หากเตรียมเอกสารครบถ้วน และไปดำเนินการที่ขนส่งตามขั้นตอน การโอนรถไม่ยากเลย ใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องมีเอกสารหลักฐานของทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายครบถ้วน เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนรถ และใบโอนรถ รวมถึงกรณีผู้ขายไม่สามารถไปด้วยตัวเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจโอนรถประกอบด้วย
ใบโอนรถ ใบโอนรถยนต์ คืออะไร ?
”ใบโอนรถ” หรือ “หนังสือสัญญาซื้อขาย และโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์” เป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ของเจ้าของรถคนเดิมในการโอนกรรมสิทธิ์รถให้กับบุคคลอื่น ใบโอนรถต้องระบุข้อมูลให้ชัดเจน เช่น รายละเอียดของรถ หมายเลขทะเบียน ชื่อผู้โอน และผู้รับโอน พร้อมลายเซ็นของทั้งสองฝ่าย ใบโอนรถจะต้องแนบไปกับเอกสารอื่น ๆ เพื่อนำไปยื่นที่สำนักงานขนส่งเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
หนังสือมอบอํานาจ โอนรถ คืออะไร ?
“หนังสือมอบอำนาจโอนรถ” คือ เอกสารที่เจ้าของรถยนต์มอบหมายให้บุคคลอื่นสามารถดำเนินการแทนตนเองในการโอนรถที่สำนักงานขนส่ง กรณีเจ้าของรถไม่สะดวกไปดำเนินการด้วยตัวเอง หนังสือมอบอำนาจจะต้องกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน เช่น ชื่อผู้มอบอำนาจ ชื่อผู้รับมอบอำนาจ รายละเอียดรถ และแนบสำเนาบัตรประชาชนของทั้งสองฝ่าย พร้อมลงลายเซ็นกำกับ โดยผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจะสามารถดำเนินการโอนรถแทนเจ้าของได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ขั้นตอนการโอนรถ การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ มีขั้นตอนอย่างไร ?
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าขั้นตอนการโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของนั้นต้องทำอย่างไร ในการโอนรถนั้นจะมีสิ่งที่ต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
- ผู้ซื้อ และผู้ขายตกลงเรื่องราคา และเงื่อนไขให้เรียบร้อย
- เตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับทั้งสองฝ่ายให้ครบ
- นำรถไปตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่ง หากรถมีอายุเกิน 7 ปี หรือเป็นรถยนต์บางประเภทที่กฎหมายกำหนด
- ยื่นเอกสารที่ช่องรับโอนกรรมสิทธิ์ พร้อมใบโอนรถ และเอกสารอื่น ๆ
- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร และคำนวณค่าใช้จ่าย
- ชำระค่าธรรมเนียมโอนรถ
- รับเล่มทะเบียนรถที่มีชื่อเจ้าของใหม่
จะเห็นได้ว่าการโอนรถนั้นไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยากแต่อย่างใด ดังนั้นต้องทำให้ถูกต้องเพื่อความมั่นใจ จะได้ไม่ผิดต่อกฎหมายที่ได้มีการกำหนดไว้นั่นเอง
เอกสารโอนรถ โอนรถใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
ในส่วนของผู้ที่ต้องการจะเตรียมความพร้อมทางด้านเอกสารเพื่อโอนรถแต่ยังไม่ทราบว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง เอกสารที่ต้องเตรียมในการโอนรถ มีดังต่อไปนี้
- เล่มทะเบียนรถ (ตัวจริง)
- ใบโอนรถ (กรอกข้อมูลและลงลายเซ็นครบถ้วน)
- หนังสือสัญญาซื้อขาย (กรณีมี)
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขายและผู้ซื้อ (กรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองบริษัทและบัตรประชาชนผู้มีอำนาจลงนาม)
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมีการมอบอำนาจ)
- ใบตรวจสภาพรถ (กรณีรถอายุเกิน 7 ปี หรือตามที่กฎหมายกำหนด)
ค่าโอนรถยนต์ การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ ราคา โอนรถ ค่าใช้จ่ายแพงไหม ?
ค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์โดยทั่วไปไม่ถือว่าสูงมาก โดยจะแบ่งเป็นอัตราค่าธรรมเนียมโอนรถต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ ประมาณ 100 บาท
- ค่าธรรมเนียมตรวจสภาพรถ (ถ้ามี) ประมาณ 200-500 บาท
- ค่าภาษี หรือค่าปรับ (กรณีค้างชำระภาษี)
- ค่าคัดสำเนาเอกสารหรือค่าถ่ายเอกสาร (ตามจริง)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่หลักร้อยถึงหลักพันต้น ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ และเงื่อนไขเฉพาะแต่ละกรณี

โอนรถ ต้องเอารถไปไหม ?
หลายคนที่กำลังวางแผนจะซื้อขายรถยนต์ หรือเปลี่ยนเจ้าของรถ อาจสงสัยว่า การโอนรถ จำเป็นต้องนำรถไปที่สำนักงานขนส่งด้วยหรือไม่ คำตอบคือ “ต้องเอารถไปด้วย” ในกรณีที่ต้องมีการตรวจสภาพรถ ซึ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐานของการโอนรถยนต์ส่วนใหญ่
ขั้นตอนการตรวจสภาพรถเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบตัวรถจริง เลขตัวถัง และเลขเครื่องยนต์ ว่าตรงกับข้อมูลในเล่มทะเบียนหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหารถถูกขโมย หรือรถที่มีปัญหาทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตามมีบางกรณีที่ไม่จำเป็นต้องนำรถไป เช่น หากเป็นรถใหม่ที่เพิ่งจดทะเบียน หรือมีการโอนรถภายในครอบครัวในบางกรณี แต่เพื่อความแน่นอนควรสอบถามสำนักงานขนส่งล่วงหน้าก่อนวันนัดหมาย
การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ กี่วัน ?
สำหรับคนที่ต้องการโอนรถ และเปลี่ยนเจ้าของ หลายคนอาจสงสัยว่าต้องใช้เวลากี่วัน ในขั้นตอนนี้นั้นหากเตรียมเอกสารครบถ้วน และนำรถเข้าตรวจสภาพตามที่กฎหมายกำหนด การโอนรถสามารถดำเนินการเสร็จภายใน “วันเดียว” ได้เลย
ในทางกลับกันกรณีที่เอกสารไม่ครบถ้วน หรือมีข้อผิดพลาด เจ้าหน้าที่อาจให้กลับมาใหม่ หรือกรณีที่ต้องโอนรถข้ามจังหวัด ขั้นตอนอาจใช้เวลานานขึ้นประมาณ 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับระบบการส่งเอกสารของแต่ละจังหวัด
ดังนั้นหากต้องการให้การโอนรถ และเปลี่ยนชื่อเจ้าของให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว ควรตรวจสอบเอกสารให้ครบ เช่น เล่มทะเบียนรถตัวจริง สำเนาบัตรประชาชนของทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย สัญญาซื้อขายรถ และหลักฐานการตรวจสภาพรถ (ถ้ามี) เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง
การโอนรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน ?
ตามกฎหมายการจราจรทางบกการโอนรถ หรือเปลี่ยนเจ้าของรถยนต์ ผู้ซื้อ และผู้ขายจะต้องดำเนินการแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับจากวันที่มีการซื้อขาย หรือวันที่ทำสัญญาซื้อขายรถจริง หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจมีโทษปรับตามที่กฎหมายกำหนด และการโอนนั้นจะถูกเรียกว่าการโอนลอย

การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ ต้องไปที่ไหน ?
หากต้องการโอนรถ หรือเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ ผู้ซื้อ และผู้ขายจะต้องเดินทางไปดำเนินการที่ สำนักงานขนส่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการจดทะเบียน และโอนรถโดยตรง ทั้งนี้สามารถไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ที่รถจดทะเบียนอยู่ หรือในกรณีที่ต้องการโอนข้ามจังหวัด อาจต้องไปติดต่อสำนักงานขนส่งของทั้งต้นทาง และปลายทางตามขั้นตอนที่กำหนด
สำหรับคนที่ไม่สะดวกไปด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ แต่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของทั้งผู้มอบ และผู้รับมอบอำนาจอย่างครบถ้วน
การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ ผ่อนไม่หมดโอนได้ไหม ?
กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด หรือยังอยู่ระหว่างการชำระค่างวดกับไฟแนนซ์ การโอนรถยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากรถยังถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การจำนองของบริษัทไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงิน
หากผู้ซื้อ และผู้ขายต้องการโอนรถในช่วงที่ยังผ่อนไม่หมด จะต้องดำเนินการปิดบัญชีให้เรียบร้อยก่อน โดยการชำระยอดหนี้ที่คงเหลือทั้งหมดให้กับไฟแนนซ์ก่อน
นี่ก็คือข้อมูลที่ผู้ซึ่งต้องการทำการโอนรถควรทราบ และต้องปฏิบัติตามให้ถูกต้อง ทั้งนี้สำหรับเจ้าของรถคนใหม่ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญนอกจากการทำตามขั้นตอนการโอนรถอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การมองหาประกันรถยนต์ให้กับรถคันใหม่คู่ใจเป็นสิ่งที่จะหลงลืมไปไม่ได้ ดังนั้นต้องไม่ลืม ซื้อประกันรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ ดูแลครอบคลุม รวดเร็ว ทันใจ ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินในอนาคตได้เป็นอย่างดี
สรุป
โอนรถ คือ กระบวนการทางกฎหมายในการเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์จากเจ้าของเดิมเป็นเจ้าของใหม่ โดยใช้ระยะเวลาเพียง 1-2 ชม. เท่านั้น ในทางกลับกันกรณีที่เอกสารไม่ครบถ้วนหรือมีข้อผิดพลาด อาจให้กลับมาใหม่ หรือกรณีที่ต้องโอนรถข้ามจังหวัด ขั้นตอนอาจใช้เวลานานขึ้นประมาณ 3-7 วัน ส่วนกรณีที่รถยังผ่อนไม่หมดหรือยังอยู่ระหว่างการชำระค่างวดกับไฟแนนซ์ จะยังไม่สามารถดำเนินการโอนรถได้ เนื่องจากรถยังถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การจำนองของบริษัทไฟแนนซ์หรือสถาบันการเงินอยู่นั่นเอง

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology