Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

รถไม่มีประกัน ต้องแบกรับภาระหนักแค่ไหนหากเกิดอุบัติเหตุ

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่บางครั้งเราก็ไม่สามารถบังคับควบคุมได้ ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาบนท้องถนน แล้วรถไม่มีประกัน อาจส่งผลให้เกิดความลำบากในการแบกรับภาระในหลาย ๆ ส่วน ซึ่งถ้าใครที่เพิ่งออกรถมาใหม่ คงยังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับรถไม่มีประกันมากเท่าไหร่นัก เพราะรถใหม่จากศูนย์ มักจะมีประกันรถยนต์แถมมาให้อย่างน้อย 1 ปี ส่วนใครที่อยู่ในช่วงรอยต่อ แล้วเกิดสงสัยเกี่ยวกับการที่เราไม่ต่อประกันรถยนต์ได้ไหม หรือรถไม่มี ประกัน มีแต่ พรบ จะเป็นอะไรหรือเปล่า ไปจนถึงหากเกิดอุบัติเหตุแล้วรถไม่มีประกันแต่เป็นฝ่ายถูก กับฝ่ายผิด จะต้องรับผิดชอบแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้นทาง แรบบิท แคร์ ได้เตรียมคำตอบมาให้อย่างละเอียดและครบถ้วน ตามเนื้อหาในหัวข้อย่อยทั้งหมดต่อจากนี้

ความแตกต่างระหว่าง รถชนมีประกัน กับ รถชนไม่มีประกัน

ความแตกต่างระหว่างรถชนมีประกัน กับรถชนไม่มีประกัน จากสถานการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนท้องถนน เพื่อเปรียบเทียบให้ทุกคนได้มองเห็นภาพไปในทิศทางเดียวกัน ว่ามีความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง ที่เราควรรับทราบก่อนตัดสินใจว่าจะต่อ หรือไม่ต่อประกันรถยนต์

  • รถมีประกัน หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนท้องถนน บริษัทประกันรถยนต์จะส่งตัวแทนเข้ามาดูแลในสถานที่เกิดเหตุ พร้อมช่วยพูดคุยไกล่เกลี่ย ดูแลจนกว่าจะจบปัญหาทั้งหมดลงได้ และเรายังสามารถนำรถยนต์ไปเคลมเพื่อซ่อมแซม ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่เราสมัครใช้บริการไว้ได้ด้วย
  • รถไม่มีประกัน กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนไม่มีประกัน เราจะไม่มีการคุ้มครองใด ๆ เลย ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ มีเพียงแค่ตัวเราที่ต้องจัดการปัญหาอย่างโดดเดี่ยว รวมถึงการรับผิดชอบค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ลองนึกภาพง่าย ๆ ว่าถ้าหากรถเราเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ไม่ว่าจะเล็กน้อย ไปจนถึงอุบัติเหตุใหญ่ แล้วเราต้องเป็นผู้รับผิดชอบด้วยตัวเองทั้งหมด แค่คิดก็เหนื่อยแล้วจริงไหม ยิ่งถ้าเหตุการณ์รถชนไม่มีประกัน แถมเกิดการบาดเจ็บ เราต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง รวมถึงค่าทรัพย์สิน ค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมแซมทั้งหมดเลยด้วย

รถไม่มีประกันแต่เป็นฝ่ายถูก

รถไม่มีประกันแต่เป็นฝ่ายถูก เราอาจได้รับความช่วยเหลือจากประกันรถยนต์ขอคู่กรณี ซึ่งทางตัวแทนบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณี จะออกใบเคลมให้กับเรา หรือมีการดูแลเพิ่มเติมเนื่องจากเรายังเป็นฝ่ายถูก ทำให้ในกรณีรถไม่มีประกันแต่เป็นฝ่ายถูกยังพออุ่นใจได้บ้าง ว่าไม่ต้องรับผิดชอบด้วยตนเองทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจาก พรบ ได้ตามเงื่อนไขของการคุ้มครอง

รถไม่มีประกันแล้วเป็นฝ่ายผิด

รถไม่มีประกันแล้วเป็นฝ่ายผิด มีโอกาสสูงมากที่เราต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุด้วยตัวเอง เว้นแต่ว่าคู่กรณีจะมีประกันรถยนต์ชั้น 1 เรายังสามารถขอความช่วยเหลือจากทางคู่กรณีได้ ซึ่งถ้าเราจ่ายค่าซ่อมแซมรถยนต์ให้อีกฝ่ายไม่ไหว ต้องติดต่อขอประนอมหนี้กับบริษัทประกันภัยด้วยตัวเอง เพราะทางบริษัทประกันภัย จะเป็นผู้ติดตามเก็บค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากเราแทนคู่กรณี

ไม่ต่อประกันรถยนต์ได้ไหม

ไม่ต่อประกันรถยนต์ได้ไหม คำตอบ คือ สามารถเลือกได้ตามความต้องการ เพียงแต่ว่าประกันรถยนต์นั้นมีส่วนช่วยในการดูแลเราอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนน ซึ่งบางประเภทของประกันรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบนท้องถนน เราก็สามารถขอความช่วยเหลือได้ เช่น รถดับ ก็ยังมีความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น ฉะนั้นการตัดสินใจเลือกต่อประกันรถยนต์ จึงถือเป็นการยกระดับการดูแลรถยนต์ ทรัพย์สิน และผู้โดยสารของเราด้วยความใส่ใจอย่างมากเลยทีเดียว

รถไม่มี ประกัน มีแต่ พรบ

รถไม่มี ประกัน มีแต่ พรบ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วมีการบาดเจ็บเกิดขึ้น พรบ จะมีเกณฑ์ในการออกค่าสินไหมทดแทนเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลได้ตามกำหนด ซึ่งเราสามารถยื่นขอเบิกได้ตามเกณฑ์ แต่ในส่วนของความเสียหายตัวรถยนต์ หรือทรัพย์สินของเรา ทาง พรบ จะไม่ได้คุ้มครองแต่อย่างใด แน่นอนว่าไม่มีการเยียวยา หรือช่วยเหลือคู่กรณีแทนเราด้วย ดังนั้นการมีประกันรถยนต์ไว้คอยดูแลรอบด้าน จึงเป็นอะไรที่ครอบคลุมที่สุด

คำแนะนำเพิ่มเติม พรบ รถยนต์เป็นสิ่งที่กฎหมายในประเทศไทย มีการบังคับผู้ใช้งานรถยนต์ให้ต้องมีการต่อเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองขั้นพื้นฐานตามกำหนด หากไม่มีการต่อ พรบ จะไม่สามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ได้ และมีโอกาสถูกปรับได้เหมือนกัน

แนวทางการตกลงกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เพื่อเป็นแนวทางการตกลงกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยจำแนกเหตุการณ์พื้นฐานเป็น รถชนแล้วมีประกันทั้ง 2 ฝ่าย กับ รถมีประกันชนกับรถที่ไม่มีประกัน จะสามารถพูดคุยกันอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วที่สุด

รถชนมีประกันทั้ง 2 ฝ่าย

  • ตกลงกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย ว่าใครเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายถูก แล้วจึงโทรหาบริษัทประกันรถยนต์ของแต่ละฝ่าย เพื่อให้ตัวแทนเข้ามาดูที่เกิดเหตุ แล้วออกใบเคลมให้ทั้งสอง เพื่อนำรถยนต์ไปเคลมตามเงื่อนไข
  • ไม่สามารถตกลงกันได้ ต้องแจ้งตำรวจเข้ามาช่วยตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม แล้วตัดสินว่าใครเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายถูก เพื่อให้ทางตัวแทนนำเรื่องไปดำเนินการเคลมต่อไป
  • หากฝ่ายถูกไม่ได้ติดต่อประกันรถยนต์ ทางฝ่ายผิดจะออกใบเคลมให้กับฝ่ายถูกด้วย ทั้งนี้ฝ่ายถูกยังสามารถเรียกค่าขาดประโยชน์จากบริษัทประกันภัยรถยนต์ของฝ่ายได้ด้วย

รถมีประกันชนกับรถที่ไม่มีประกัน

  • ตกลงกันได้ ว่าใครเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก กรณีที่รถมีประกันผิด ต้องโทรเรียกตัวแทนเข้ามาดูแลออกใบเคลมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้นคนรถไม่มีประกันแต่เป็นฝ่ายถูก จึงสบายใจได้ในกรณีนี้ เว้นแต่เป็นฝ่ายผิด ต้องรับผิดชอบตามข้อมูลที่เราได้ให้ไว้ในหัวข้อด้านบน
  • กรณีที่เป็นสถานการณ์ประมาทร่วม ถือเป็นความผิดของทั้งคู่ ต้องแยกย้ายกันไปจัดการค่าเสียหายเอง หากมีประกันก็ได้รับการดูแลคุ้มครองตามกำหนด แต่ถ้าไม่มีประกัน จะต้องจัดการค่าเสียหายเองทั้งหมด เว้นแต่ค่ารักษาพยาบาลที่มี พรบ คุ้มครองตามเงื่อนไข

สรุปข้อควรรู้ถ้าหากรถไม่มีประกัน

สรุปข้อควรรู้ถ้าหากรถยนต์ของเราไม่ได้สมัครประกันเอาไว้ คือ ไม่มีคนให้คำปรึกษาหรืคอยดูแลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ, จ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด, ทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง เกิดเหตุน้ำท่วม รถไฟไหม้ รถหาย ไม่ได้อะไรคืนและรถอาจเข้าไฟแนนซ์ไม่ได้ โดยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับข้อควรรู้ที่กล่าวมา จะมีดังนี้

  • ไม่มีคนให้คำปรึกษาหรืคอยดูแลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เราต้องเป็นคนคิด คนพูดคุย ไกล่เกลี่ย จัดการปัญหาหน้างานเองทั้งหมด ตัดสินใจเองโดยที่ไม่มีใครให้คำปรึกษา หรือช่วยเหลือเลย
  • จ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด เช่น ค่าซ่อมแซมรถยนต์ทั้งของเรา และคู่กรณี ไปจนถึงค่าทรัพย์สินที่เสียหาย ค่ารักษาพยาบาล
  • ทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง การขอไกล่เกลี่ย การจ่ายค่าหนี้เพื่อเป็นสินไหมทดแทนสำหรับการซ่อมแซมรถยนต์คู่กรณี (หากเป็นฝ่ายผิด) และต้องขึ้นศาลด้วยตัวเองถ้ามีการฟ้องร้องเกิดขึ้น
  • เกิดเหตุน้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย ไม่ได้อะไรคืน เพราะไม่มีการคุ้มครองจากอะไรเลย พรบ ก็จะช่วยคุ้มครองแค่ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุเท่านั้นด้วย
  • รถอาจเข้าไฟแนนซ์ไม่ได้ เนื่องจากบริษัทสินเชื่อบางแห่ง อาจมีการบังคับให้เราต้องทำประกันรถยนต์ตลอดระยะเวลาสินเชื่อ จึงต้องเลือกทำประกันรถยนต์อย่างสม่ำเสมอตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้

เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกอยากต่อประกันรถยนต์กันขึ้นมาบ้างหรือยัง เพราะถ้าหากรถของเรามีประกัน พอเกิดอุบัติเหตุขึ้นต่อให้เป็นฝ่ายผิดหรือถูก เราจะยังได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เราสมัครใช้บริการไว้ ซึ่งประกันรถยนต์บางประเภท จะช่วยดูแลคู่กรณีของเราให้ด้วย โดยที่เราไม่ต้องรับผิดชอบเอง ซึ่งแตกต่างจากกรณีที่รถชนไม่มีประกันเป็นอย่างมาก หรือเว้นแต่ว่าจะรถชนไม่มีประกันแต่เป็นฝ่ายถูก

ประกันรถยนต์สำคัญขนาดนี้ ถ้าใครเป็นคนรักรถยนต์ และต้องดูแลทรัพย์สิน ผู้โดยสารบนรถให้ครอบคลุมที่สุด ควรเลือกประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองได้ตามต้องการ สามารถโทรหา แรบบิท แคร์ เพื่อขอคำปรึกษาโดยตรงได้ที่เบอร์ 1438 (โทรได้ 24 ชม.) พร้อมรับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70%

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ความคุ้มครองรถผู้ทำประกัน
ประเภทประกันภัย
ชั้น 1
ชั้น 2+
ชั้น 2
ชั้น 3+
ชั้น 3
ชนแบบมีคู่กรณีชนแบบมีคู่กรณี
x
x
ชนแบบไม่มีคู่กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
x
x
x
x
ไฟไหม้ไฟไหม้
x
x
รถหายรถหาย
x
x
ภัยธรรมชาติภัยธรรมชาติ
x
x
ช่วยเหลือ 24 ชม. ช่วยเหลือ 24 ชม.
x
x
x
ซื้อประกันรถยนต์   
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
ความคุ้มครองอื่นๆ ครอบคลุมทุกชั้นประกัน
คุ้มครองคู่กรณี และทรัพย์สินคู่กรณี
อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลบุคคลที่สาม
คุ้มครองชิวิตบุคคลที่สาม
คุ้มครองชีวิตผู้ขับขี่
ค่ารักษาพยาบาลตัวผู้ขับขี่
การประกันตัวผู้ขับขี่

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา