สแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตทำอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
โดยปกติแล้วร้านค้ารายย่อยขนาดเล็ก มักจะมีทางเลือกในการชำระเงินให้ลูกค้าไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการชำระด้วยเงินสด หรือการจ่ายผ่าน QR Code แต่ถ้าเป็นรับชำระผ่านบัตรเครดิตด้วยเครื่อง EDC ก็มักจะไม่ค่อยเป็นที่นิยม เนื่องจากว่าไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป ดังนั้นบริการ QR Card Scheme จึงถือว่าเป็นช่องทางรับชำระเงินที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้ารายย่อยและลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
บัตรเครดิต สแกนจ่ายได้ไหม?
สำหรับในปัจจุบันนี้ เราสามารถสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต VISA MasterCard หรือ Unionpay โดยการเปิดแอปพลิเคชันของธนาคารแล้วเลือกสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้เลยทันที ซึ่งคิวอาร์โค้ดมาตรฐาน THAI QR PAYMENT ที่จะสามารถสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้นั้นต้องมีสัญลักษณ์ของบัตรเครดิตแสดงอยู่ด้วย เพราะว่ารูปแบบของคิวอาร์โค้ดนั้นจะแตกต่างไปจากแบบ PromptPay ธรรมดานั่นเอง ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรระดับโลก เช่น American Express, JCB, Mastercard, UnionPay และ Visa เปิดตัว “Thai QR Standard - มาตรฐานเดียวทั้งประเทศ ใช้ได้ทั่วโลก” เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับการชำระเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ e-Wallet ดังนั้นผู้ให้บริการทางการเงินจึงสามารถสแกน Thai QR Code ได้เลย จึงทำให้การชำระเงินทั้งในและต่างประเทศนั้นสะดวกสบายและง่ายดายมากยิ่งขึ้น
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิต มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
- ไม่ต้องพกบัตรเครดิตที่เป็นบัตรพลาสติกตัวจริง
- ไม่ต้องลงลายมือชื่อหรือเซ็นชื่อ
- ไม่ต้องมีเซลล์สลิป
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรม
- ชำระเงินแบบไร้สัมผัส ลดการสัมผัส และแพร่เชื้อโรคได้
- ช่วยลดระยะเวลาในการทำธุรกรรมให้สั้นลง
- ช่วยลดโอกาสการสูญหายและเสื่อมสภาพของบัตรเครดิต
- ช่วยป้องกันการฟอกเงิน เพราะสามารถรู้แหล่งที่มาที่ไปของเงินนั้นได้อย่างชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้
- ยังคงได้รับคะแนนบัตรเครดิต หรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ ตามปกติเช่นเดิม
QR Code คืออะไร?
เมื่อปี ค.ศ. 1994 บริษัท Denso-Wave จากประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมขึ้นมาจาก Barcode แบบธรรมดา หรือ Barcode 1 มิติ แบบแท่งที่มีความหนาบางแตกต่างกัน ให้มีความกว้างและความยาวเป็นแบบ 2 มิติ จึงทำให้เก็บข้อมูลได้มากกว่าเดิม 350 เท่า เพราะว่าสามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 7,089 ตัวเลข ซึ่งในขณะที่ Barcode นั้นเก็บได้เพียง 20 ตัวเลขเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภทและทำให้เป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยมีการเรียกสัญลักษณ์นี้ว่า QR Code (Quick Response Code)
QR Payment มีกี่ประเภท?
จากข้อมูลเรื่อง QR Payment ในเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กล่าวไว้ว่า หากแบ่งตามประเภทของบัญชี จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
PromptPay
เป็นระบบการชำระเงินผ่าน QR Code ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยการใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล ในการผูกกับบัญชีของธนาคาร
Thai QR Payment
เป็นระบบการชำระเงินผ่าน QR Code ที่ถูกพัฒนาโดยธนาคารพาณิชย์ในแต่ละแห่ง โดยจะใช้ QR Code เฉพาะของร้านค้าในการชำระเงินเท่านั้น
หากแบ่งด้วยลักษณะของ QR Code จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
Static QR Code
ซึ่งจะเป็น QR Code แบบไม่เปลี่ยนแปลงหรือ Static QR Code นั่นเอง โดยที่รูปของ QR Code จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเจ้าของร้านค้าหรือเจ้าของธุรกิจ จึงสามารถนำรูป QR Code นี้ไปพิมพ์ติดลงบนสินค้า หรือติดบริเวณร้านค้าได้เลย ดังนั้น QR Code รูปแบบนี้ทางลูกค้าจะต้องกรอกจำนวนเงินเองเท่านั้น
ที่มาของรูปภาพ : https://www.bot.or.th
Dynamic QR Code
เป็น QR Code แบบเปลี่ยนแปลงได้หรือ Dynamic QR Code นั่นเอง โดยที่ตัว QR Code นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามราคาสินค้าหรือบริการตามที่ร้านค้าได้มีการตั้งเอาไว้ ดังนั้นลูกค้าจึงไม่ต้องกรอกจำนวนเงินเอง
สแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ที่ไหนบ้าง?
โดยปกติแล้วเรามักจะพบเห็นคิวอาร์โค้ดบัตรเครดิตได้ตามเครื่องรูดบัตร (EDC) ของร้านค้าประเภทนิติบุคคล หรือจากแอปพลิเคชันจัดการร้านค้า และนอกจากนี้ยังมีร้านค้าบางแห่งที่สร้าง THAI QR PAYMENT มาเพื่อรองรับบัตรเครดิตอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น
- BeMerchant Next Gen และ BANGKOK BANK (ธนาคารกรุงเทพ)
- K SHOP (ธนาคารกสิกรไทย)
- SCB แม่มณี และ SCB EASY (ธนาคารไทยพาณิชย์)
- U CHOOSE (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา)
- KTC Mobile (ธนาคารกรุงไทย)
- ICBC (ธนาคารไอซีบีซี ไทย) ใช้ได้เฉพาะบัตรเครดิต Unionpay
- AEON Thai Mobile (บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ จำกัด) ใช้ได้เฉพาะบัตร Mastercard
- TTB TOUCH (ธนาคารทหารไทยธนชาติ)
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
- 1. เปิดแอปพลิเคชัน KTC Mobile
- 2. เลือกเมนูสแกน
- 3. สแกน QR Code ของร้านค้าเพื่อชำระเงิน
- 4. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ชำระเงิน
- 5. กรอกจำนวนเงิน
- 6. ตรวจสอบรายการชำระเงิน และกดยืนยัน
- 7. ได้รับ e-Slip จากในแอปพลิเคชัน KTC Mobile
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิต ktc มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
- 1. เปิดแอปพลิเคชัน K PLUS
- 2. เลือกเมนูสแกนจ่าย/รับ
- 3. สแกน QR Code ของร้านค้าเพื่อชำระเงิน
- 4. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ชำระเงิน ที่มุมด้านบนขวามือ
- 5. ตรวจสอบรายการชำระเงิน
- 6. ใส่รหัส PIN เพื่อยืนยันการชำระ
- 7. ได้รับ e-Slip จากในแอปพลิเคชัน K PLUS
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิต ttb มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
- 1. เปิดแอปพลิเคชัน TTB TOUCH
- 2. เลือกเมนูสแกน QR
- 3. สแกน QR Code ของร้านค้าเพื่อชำระเงิน
- 4. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ชำระเงิน
- 5. กรอกจำนวนเงิน
- 6. กดยืนยัน
- 7. ได้รับ e-Slip จากในแอปพลิเคชัน TTB TOUCH
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิต scb มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
- 1. เปิดแอปพลิเคชัน SCB EASY APP
- 2. เลือกเมนูสแกน QR
- 3. สแกน QR Code ของร้านค้าเพื่อชำระเงิน
- 4. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ชำระเงิน
- 5. กรอกจำนวนเงิน
- 6. กดยืนยัน
- 7. ได้รับ e-Slip จากในแอปพลิเคชัน SCB EASY APP
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตกรุงศรี มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
- 1. เปิดแอปพลิเคชัน U CHOOSE
- 2. เลือกเมนูสแกน QR
- 3. สแกน QR Code ของร้านค้าเพื่อชำระเงิน
- 4. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ชำระเงิน
- 5. กรอกจำนวนเงิน
- 6. กดยืนยัน
- 7. ได้รับ e-Slip จากในแอปพลิเคชัน U CHOOSE
การสแกนจ่ายผ่านบัตรเครดิตกรุงเทพ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
- 1. เปิดแอปพลิเคชัน BANGKOK BANK
- 2. เลือกเมนูสแกน QR
- 3. สแกน QR Code ของร้านค้าเพื่อชำระเงิน
- 4. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ชำระเงิน
- 5. กรอกจำนวนเงิน
- 6. กดยืนยัน
- 7. ได้รับ e-Slip จากในแอปพลิเคชัน BANGKOK BANK
ควรเลือกทำบัตรเครดิตแบบไหนดี เพื่อตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด?
สำหรับบริการ เปรียบเทียบบัตรเครดิต ของแรบบิท แคร์ นั้นเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย สามารถเปรียบเทียบข้อมูลให้คุณได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 วินาที เพียงแค่คุณเลือกธนาคารชั้นนำที่ไว้วางใจ ใส่ฐานเงินเดือน เลือกไลฟ์สไตล์ที่ใช่ และยังสามารถเลือกสิทธิพิเศษที่ต้องการได้อีกด้วย เพียงเท่านี้ก็จะมีการแสดงผลเป็นข้อมูลบัตรเครดิตที่ใช่สำหรับคุณทันที โดยบริการเหล่านี้ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นด้วย
ทำบัตรเครดิตผ่านแรบบิท แคร์ จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
นอกจากสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากการสมัครบัตรเครดิตที่คุณจะได้รับแล้ว แรบบิท แคร์ ยังมีบริการให้คำปรึกษาที่พร้อมให้คำแนะนำต่าง ๆ รวมไปถึงคอยช่วยประสานงาน ยื่นเรื่องสมัครบัตรให้กับคุณตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้นจึงสามารถไว้วางใจได้เลยว่าแรบบิท แคร์ จะเป็นผู้ช่วยที่ดีให้แก่คุณ
บัตรเครดิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ