บัตร Visa คือบัตรอะไร?
บัตร Visa คือบัตรต่าง ๆ ที่มีเครือข่ายการชำระเงินเป็นบริษัท Visa ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการเครือข่ายการชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์จากสหรัฐอเมริกา บัตรวีซ่ามีทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) ซึ่งแต่ละบัตรจะใช้เทคโนโลยีการชำระเงินในการเชื่อมโยงร้านค้าต่าง ๆ กับธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระค่าใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลแทนการใช้เงินสด เครือข่ายบัตร Visa คือเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศรวมกันมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีร้านค้ามากถึง 28 ล้านแห่งอยู่ในเครือข่าย
ถึงแม้ว่าบัตรวีซ่าจะมีสัญลักษณ์ Visa อยู่บนตัวบัตร แต่บัตรเครดิต Visa และบัตร Visa อื่น ๆ จะไม่ได้ออกโดยบริษัทโดยตรง แต่บริษัทจะร่วมมือกับสถาบันทางการเงินต่าง ๆ เพื่อออกบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน และบัตรของขวัญ แล้วสถาบันทางการเงินเหล่านั้นก็จะร่วมมือกับสายการบิน โรงแรม หรือบริษัทอื่น ๆ ในการออกบัตรอีกทีหนึ่ง ทำให้บัตรเครดิต Visa แต่ละใบมีสิทธิประโยชน์ ค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ย และรายละเอียดอื่น ๆ แตกต่างกันไปตามเงื่อนไขที่สถาบันทางการเงินผู้ออกบัตรกำหนด และไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Visa โดยตรง
บัตรวีซ่าถูกสร้างขึ้นโดยธนาคาร Bank of America ในปี 1958 หลังจากเปิดตัว BankAmericard ซึ่งเป็นบัตรเครดิตสำหรับผู้บริโภคใบแรกโดยมีวงเงินอยู่ที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อมาจึงเปิดตัวระบบอนุมัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก ตามมาด้วยการโอนเงินผ่านทางบัญชีอิเล็กทรอนิกส์และระบบการชำระบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นบัตร Visa เหมือนกันทั่วโลกในปี 1976 และทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตทั่วโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
บัตร Visa ต่างจากบัตร Mastercard อย่างไร?
ทั้งบัตร Visa และบัตร Mastercard เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินขนาดใหญ่เหมือนกัน โดยจำนวนร้านค้าในเครือข่ายของวีซ่าจะอยู่ที่ 28 ล้านแห่ง ส่วนจำนวนร้านค้าในเครือข่ายของมาสเตอร์การ์ดอยู่ที่ 30 ล้านแห่ง ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้ทั้งบัตร Mastercard และบัตร Visa รูดซื้อสินค้าและชำระเงินได้ทั่วโลกเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังใช้กดเงินในตู้ ATM ได้หลายธนาคารทั่วโลกเหมือนกัน ทำให้โดยรวมแล้วบัตร Visa ไม่ต่างจากบัตร Mastercard มากนัก
อย่างไรก็ตาม บัตร Visa และ Mastercard จะมีข้อแตกต่างหลัก ๆ คือโปรโมชันกับร้านค้าต่าง ๆ และโครงสร้างค่าธรรมเนียมการให้บริการ ในส่วนของโปรโมชันต่าง ๆ ของบัตรวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดจะมีโปรโมชันที่แตกต่างกัน เช่น บัตรเครดิต Visa จะมีส่วนลดในการเช่ารถกับบริษัทรถเช่าชั้นนำอย่าง Hertz แคชแบ็กจากการจองโรงแรมกับ Booking.com ดังนั้น เราจึงควรพิจารณาโปรโมชันของผู้ให้บริการเครือข่ายบัตร ร่วมกับโปรโมชันที่ทางธนาคารนำเสนอ เพื่อเลือกบัตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้มากที่สุด สำหรับในส่วนของค่าธรรมเนียมการให้บริการจะเป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากร้านค้า จึงไม่ได้มีผลต่อผู้บริโภคโดยทั่วไปมากนัก
นอกจากบัตร Visa ยังมีบัตรอื่น ๆ ที่เป็นที่นิยมไม่ต่างกัน ดังนี้
บัตร Visa ใช้ที่ไหนได้บ้าง?
บัตร Visa คือบัตรที่ได้รับการยอมรับโดยร้านค้ากว่า 30 ล้านแห่งในประเทศต่าง ๆ กว่า 200 ประเทศ จึงสามารถใช้ได้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะต้องการรูดซื้อสินค้า ชำระเงินค่าบริการ รวมถึงกดเงินจากตู้ ATM ก็สามารถทำได้ เพียงแค่มองหาสัญลักษณ์ Visa ที่หน้าร้านค้าหรือตู้ ATM เพื่อดูว่าร้านค้าดังกล่าวรับบัตรวีซ่าหรือไม่
สำหรับประเทศไทย บัตร Visa ถือว่าได้รับความนิยมมากพอ ๆ กันกับบัตร Mastercard โดยสามารถใช้ได้ในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน ปั๊มน้ำมัน แพลตฟอร์มออนไลน์ และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงมีสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานมากมาย เช่น ความคุ้มครองกรณีการซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วนลดในการเช่ารถกับบริษัทรถเช่าชั้นนำอย่าง Hertz และแคชแบ็กจากการจองโรงแรมกับ Booking.com
บัตร Visa มีบัตรอะไรบ้าง?
บัตร Visa ให้บริการเครือข่ายชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
• บัตรเครดิต Visa
คือ บัตรที่สถาบันการเงินออกให้แก่ลูกค้าเพื่อใช้แทนเงินสดตามวงเงินที่กำหนดและจ่ายเงินคืนในภายหลังเมื่อครบกำหนด หรือจะเลือกผ่อนชำระโดยจ่ายเงินขั้นต่ำก็ได้ นอกจากนี้ บัตรเครดิต Visa ยังมอบบริการ รางวัล และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าอีกด้วย
• บัตรเดบิต
คือ บัตร Visa ที่สามารถใช้ซื้อสินค้าและชำระค่าบริการได้เหมือนกัน แต่จะหักลบเงินออกจากบัญชีออมทรัพย์/กระแสรายวันโดยตรง
• บัตรเติมเงิน
คือ บัตรที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องผูกบัตรกับบัญชีออมทรัพย์/กระแสรายวัน และสามารถเติมเงินเข้าบัตรเพื่อใช้จ่ายตามต้องการได้ในทุกที่ที่รับบัตร Visa
บัตรเครดิต Visa มีกี่ประเภท?
บัตรเครดิต Visa คือบัตรที่สถาบันการเงินออกร่วมกับ Visa โดยใช้เครือข่ายการชำระเงินของ Visa บัตรเครดิต Visa มีทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกันซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีสิทธิประโยชน์แตกต่างกันไป ดังนี้
• บัตร VISA Classic
เป็นบัตรพื้นฐานของวีซ่าที่คนส่วนใหญ่มี ซึ่งมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับผู้ถือบัตร เช่น การให้บริการความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก (Global Customer Assistance) โดยผู้ถือบัตรสามารถรับบัตรทดแทนในกรณีสูญหายหรือสามารถเบิกเงินสดฉุกเฉินได้
• บัตร VISA Gold
ผู้ถือบัตรประเภทนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกันกับบัตร Visa Classic และมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงสถานบันเทิงชั้นนำของโลก
• บัตร VISA Platinum
ให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางซึ่งคุ้มครองทั้งผู้ถือบัตร คู่สมรส และบุตร รวมไปถึงการให้บริการผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง และสิทธิประโยชน์ในการเดินทาง การสะสมคะแนนแลกรางวัล และการรับประทานอาหารค่ำสุดหรูอีกด้วย
• บัตร VISA Signature
ให้สิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าบัตรแพลตทินัม ทั้งคะแนนสะสมเพื่อแลกรับรางวัลพิเศษ ประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง สิทธิพิเศษแบบ VIP ที่สนามบินและโรงแรมทั่วโลก รวมไปถึงผู้ดูแลส่วนตัวอีกด้วย
• บัตร VISA Infinite
เป็นบัตรระดับสูงสุดของวีซ่า ให้สิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บริการผู้ดูแลส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ห้องรับรองพิเศษของสนามบินทั่วโลก รวมไปถึงส่วนลดมากถึง 75% จากโรงแรมกว่า 55,000 แห่งทั่วโลก
บัตรเครดิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ