รถมอเตอร์ไซค์ Ducati Panigale

ถ้าให้นึกถึงสปอร์ตไบค์ หน้าตาดุดัน ดูโฉบเฉี่ยว และแรงเกินต้าน ต้องยกให้ “ducati panigale” ที่สายซิ่งเห็นครั้งแรก ต่างก็หลงรักและยกให้เป็นมอเตอร์ไซค์ในฝัน ยิ่งเป็น ducati panigale V4 บอกเลยว่าสวยเกินต้านมากๆ เรื่องเครื่องยนต์ สมรรถนะไม่ต้องพูดถึง เพราะแรงเป็นอันดับต้นๆ หากเทียบกับคู่แข่งใน Sec เดียวกัน นิยมใช้ในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์บางประเภทด้วย ใครที่เป็นนักสะสมก็ไม่ควรพลาดอย่างแรง เราเลยจะพาไปทำความรู้จัก ducati panigale รีวิวแต่ละจุดกันให้เห็นชัดๆ ไปเลย พร้อมแนะนำประกันภัยให้ด้วย เผื่อใครอยากซื้อจะได้ตัดสินใจถูกต้อง

ก่อนจะพูดถึง ducati panigale ต้องเล่าย้อนไปสู่จุดเริ่มต้น ในปี 1926 Antonio Cavalieri Ducati ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ Ducati ที่เมือง Comacchio ได้ฐานการผลิตถาวรไปยังเมือง Bologna จนถึงปัจจุบัน และเขายังเป็นผู้ให้กำเนิดอัจฉริยะทั้งสามคน ซึ่งเป็นผู้สร้างสิ่งประดิษฐ์อันล้ำค่า และร่วมสร้างโรงงานผลิตตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสารทางวิทยุ ไปจนถึงกำเนิดโรงงานและรถ Ducati คันแรก การบริหารงานโดยลูกชายทั้ง 3 คนทำให้ Ducati เป็นแบรนด์ที่เน้นความเป็นผู้นำทางอนาคต และยังคงแนวคิดนี้ไว้จนปัจจุบัน

โดยจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ในการทำ ducati panigale คือต้องการขึ้นสู่จุดสูงสุดของ Superbike ในสายการผลิตของ Ducati โดยการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถของตัวรถ และสร้าง ducati panigale ออกมา จนกลายมาเป็น Panigale V4 ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และใช้เทคโนโลยีจากการแข่งขันสู่มอเตอร์ไซค์แบบจริงๆ เพื่อให้ได้อารมณ์ในการขับขี่มากที่สุด และใกล้เคียงกับรถในการแข่งขัน MotoGP มากที่สุดด้วย หัวข้อถัดไปลองมาดู ducati panigale ราคาของแต่ละรุ่น

• Ducati Panigale V4 Standard 2020 : 999,000 บาท
• Ducati Panigale V4S 2020 : 1,264,000 บาท
• Ducati Panigale V2 2019 : 799,000บาท
  

*หมายเหตุุราคาข้างต้นเป็นราคาเปิดตัว

สำหรับ Ducati Panigale ราคาทั้งสามรุ่น จะแตกต่างกันพอสมควร แต่ราคาอยู่ในระดับมอเตอร์ไซค์ยุโรป ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและสมรรถนะที่แรงกว่าเดิม เหมาะแก่นักสะสม หรือนักลงทุนที่อยากจะซื้อรถเก็บไว้ขายในอนาคตได้ รวมไปถึงสายรถแข่งน่าจะชื่นชอบทั้ง 3 รุ่น โดยเราจะพาไปดู Ducati Panigale รีวิวเครื่องยนต์กันในหัวข้อถัดไป

มาดูดีไซน์ตัว Ducati Panigale กับรุ่น Ducati Panigale V4 Standard 2020 กันก่อน หน้าเฟรมปรับใหม่ให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นจุดเด่นที่ต่างจาก Ducati Panigale V4 รุ่นอื่นๆ ระบบช่วงล่างที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูงขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดขององศาการเอียงรถในขณะเข้าโค้งเช่นเดียวกันกับ V4 R ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าโค้งได้ง่าย และเพิ่มความเร็วได้ดีกว่าเดิม มาถึงโช้คอัพใช้ Showa ขนาดลูกสูบ 43 มิลลิเมตร และก้นสะบัดจาก Sachs พร้อมทั้งโช้คอัพหลัง Sachs

โดยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สามารถปรับระดับแรงกดสปริง, ความแข็งและความหนืดได้ อีกทั้งมีการปรับช่วงล่างให้มีความแข็งแรงมากขึ้น มีการปรับใช้ไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ IMU ( Initial Measurement Unit ) 6 แกน ทำให้ Ducati Panigale รุ่นนี้สามารถควบคุมทิศทางได้ง่าย และยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้นด้วย

ต่อด้วย Ducati Panigale รุ่น V4S 2020 จะมีความแตกต่างกับ V4 แบบธรรมดา ตั้งแต่โช้คหน้าเป็น Ohlins NIX30 ขนาด 43 มิลลิเมตร และโช้คหลัง Ohlins TTX36 ระบบเบรก V4S ใช้จานดิสก์คู่ ขนาด 330 มิลลิเมตร ปั๊ม Brembo monobloc M4.30 4 ลูกสูบ

ส่วนเบรกหลักจานดิสก์ขนาด 245 มิลลิเมตร 2 ลูกสูบ มาพร้อมระบบ ABS Cornering EVO สำหรับล้อของโมเดล V4S ล้อหน้าขอบ 17 นิ้ว จาก Marchesini มาพร้อมยาง Pirelli Diablo Rosso Corsa 2 120/70 ZR17 ส่วนล้อหลัง ขอบ 17 นิ้ว พร้อมยาง Pirelli Diablo Rosso Corsa 2 200/60 ZR17 เฟรมทั้งสองโมเดล ข้างหน้าเป็นอะลูมิเนียม หน้าตาความหล่อยังคงได้ 10 คะแนน ไฮไลต์ของตัวรถ อยู่ตรงที่ปีก (Winglet) ทั้งสองข้าง ซึ่งรุ่นก่อนๆ นั้นทาง Ducati ไม่ได้ใส่มาให้ จะใส่ให้เพียงรุ่น V4R เท่านั้น แต่สำหรับ Panigale V4S ทางแบรนด์จัดมาให้เต็มที่

ปิดท้ายด้วย Ducati Panigale V2 2019 มาพร้อมดีไซน์ใหม่ ใครเห็นต่างก็ชื่นชอบในสีแดงอันสวยงาม มีการปรับเซตช่วงล่างใหม่ ให้การขับขี่แบบสปอร์ตสนุกเร้าใจมากขึ้น อีกทั้งมีเบาะนั่งใหม่ ที่ถูกออกแบบให้นั่งสะดวกสบายมากขึ้น ไฮไลต์ คือ แฟริ่งใหม่ที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวกับเฟรม monocoque โฉบเฉี่ยวกับสวิงอาร์มเดี่ยวและปลายท่อไอเสียด้านเดียว มาพร้อมตัวเก็บเสียงใต้เครื่องยนต์ ให้เส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยว ตามสไตล์ของ Ducati Superbikes