Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

เลือกประกันสุขภาพที่ใช่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา

เปรียบเทียบแผนง่าย
ไม่ต้องติดต่อตัวแทนขายประกัน

ข้อมูลส่วนตัวของท่านปลอดภัยแน่นอน

โรคที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครองมีอะไรบ้าง
user profile image
เขียนโดยNok Srihongวันที่เผยแพร่: Dec 15, 2023

อาการปวดท้องแบบไหนต้องพบแพทย์?

อาการปวดท้องเป็นอาการเจ็บป่วยที่หลายคนอาจจะเคยพบเจอมา ว่าแต่อาการปวดท้องแบบไหนควรไปพบแพทย์ แบบไหนจะหายได้เอง? หรืออาการปวดท้องตรงกลาง ข้างขวา ข้างซ้าย บ่งบอกได้ถึงอะไรบ้าง? ตาม แรบบิท แคร์ มาเช็กอาการต่าง ๆ กันเลยดีกว่า

สาเหตุของอาการปวดท้อง เกิดจากอะไรบ้างนะ?

สาเหตุของอาการปวดท้องนั้นมีหลากหลายสาเหตุ โดยเราอาจจะจำแนกได้ เช่น

  • ความผิดปกติทางเดินอาหาร โดยทั่วไป อาการปวดท้องมักจะเกิดขึ้นจากกระเพาะของคุณกำลังมีปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด, การเป็นกรดไหลย้อน, โรคกระเพาะ, ท้องผูก,


  • โรคต่อมน้ำเหลือง เช่น อัมพฤกษ์, ตับอักเสบ สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องได้


  • สภาวะความตึงเครียด ความตึงเครียดหรือความวิตกกังวลอาจส่งผลต่อระบบเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดท้อง เครียดลงกระเพาะ รวมไปถึงไมเกรนและอาการซึมเศร้า ที่อาจส่งผลต่อการปวดท้องได้


  • ปัญหาทางเดินปัสสาวะ อย่างการติดเชื้อ อาการไตอักเสบ


  • ภาวะเจ็บปวดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งทางเดินอาหาร, โรคไส้ติ่งอักเสบ, อาการติดเชื้อปอด อย่าง ปอดบวม ปอดอักเสบ

ทั้งนี้การเกิดอาการปวดท้องอาจเกิดได้จากปัจจัยที่หลากหลาย หากคุณมีอาการปวดท้องรุนแรงหรือระยะเวลาการปวดยาวนาน เรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุของปัญหาอาการปวดท้องของคุณ

ปวดท้องข้างซ้ายเป็นโรคอะไรได้บ้าง?

ปวดท้องข้างซ้ายสามารถเป็นสัญญาณของหลายโรคและสภาวะ ได้แก่

  • โรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็น โรคกระเพาะอาหาร อาจมาจากการทานอาหารที่เป็นกรดสูง หรือท้องว่าง ทานข้าวไม่ตรงเวลา สามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดท้อง รวมไปถึง โรคท้องผูก, โรคในกระเพาะลำไส้ส่วนต้น


  • การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปวดท้อง แต่อาการนี้จะมีลักษณะเป็นชั่วคราวและอาจร่วมกับอาการท้องเสีย รวมไปถึงอาการอาหารเป็นพิษ


  • บางครั้งปวดท้องข้างซ้ายอาจมาจากกล้ามเนื้อท้องที่อักเสบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังจากการกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อท้องมาก เช่น การออกกำลังกายหรือการยกของหนัก


  • ภาวะไส้เลื่อน ป็นสภาวะที่ไส้ใหญ่ทรุดลงมาต่ำกว่าปกติ ส่วนมากจะเกิดขึ้นที่ด้านซ้ายของท้อง


  • โรคไส้ติ่งอักเสบ แม้ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดท้องด้านขวาล่างเป็นสัญญาณของไส้ติ่งอักเสบ แต่ในบางกรณีอาจมีอาการปวดท้องด้านซ้ายร่วมด้วย


  • โรคที่เกี่ยวข้องกับไต อาจเป็นสาเหตุของปวดท้องข้างซ้ายเมื่อมีปัญหาในระบบไต เช่น นิ่วในไต, ไตมีปัญหา และบางครั้งอาจเป็นปัญหาที่กระเพาะปัสสาวะอักเสบ


  • ภาวะไข้เลือดออก ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดใหญ่ในท้องแตก ทำให้สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องได้

ทั้งนี้เป็นเพียงการคาดเดาโรคเท่านั้น หากต้องการหาสาเหตุที่แท้จริง ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและหาหนทางรักษาต่อไป

ปวดท้องตรงกลางเป็นโรคอะไรได้บ้าง?

ปวดท้องตรงกลางสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ อาจเกี่ยวกับโรคที่เกิดในหลายอวัยวะ ดังนี้

  • ระบบทางเดินอาหารมีปัญหา เช่น แผลในกระเพาะอาหาร, โรคลำไส้อักเสบ, โรคท้องผูก, โรคท้องเสีย, โรคขาดเลือดในหลอดอาหาร รวมไปถึงสาเหตุอย่างการทานอาหารรสจัดมากเกินไป การดื่มแอลกอฮอล์


  • โรคเกี่ยวกับตับ เช่น ตับอักเสบ, โรคไต้อักเสบ สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องตรงกลาง


  • โรคตับและถุงน้ำดี


  • ภาวะเครียดหรือวิตกกังวลสามารถมีผลทำให้เกิดปวดท้องได้


  • โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคไต, โรคเบาหวาน หรือโรคลมชัก อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง

ทั้งนี้เป็นเพียงการคาดเดาโรคเท่านั้น หากต้องการหาสาเหตุที่แท้จริง ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและหาหนทางรักษาต่อไป อย่าพยายามวินิจฉัยหรือรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน

ปวดท้องข้างขวาเป็นโรคอะไรได้บ้าง?

ปวดท้องข้างขวาสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

  • โรคไส้ติ่งอักเสบ โดยโรงพยาบาลกรุงเทพได้ให้ข้อสังเกตการเกิดไส้ติ่งอักเสบ ไว้ว่าจะมีเกิดอาการปวดท้องข้างขวาด้านล่างลามไปถึงช่วงท้องน้อย อาการปวดท้อง คลื่นไส้ พะอืดพะอม เบื่ออาหาร เรื้อรังเกิน 6 ชั่วโมง


  • ปวดท้องข้างขวาในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่มีอาการเรื้อรัง อาจมาจากการกินอาหารที่ไม่เหมาะสมหรือการกินในปริมาณมากทำให้กระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบชั่วคราว รวมไปถึงปัญหาท้องผูก, ท้องอืด แต่ถ้าหากเกิดอาการปวดท้องข้างขวาร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น อาการท้องเสีย, อาการอาเจียน หรือมีไข้ อาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินอาหาร


  • อาการปวดท้องข้างขวาอาจเกิดจากปัญหาในถุงน้ำดี เช่น การติดเชื้อถุงน้ำดี หรือ การเกิดก้อนนิ่วในถุงน้ำดี


  • โรคไต เช่น การติดเชื้อไต, อาการอักเสบในไต, การเกิดก้อนนิ่วในไต


  • โรคลำไส้ตัน ซึ่งเป็นการอักเสบของไส้ โดยอาการปวดจะมีลักษณะที่ที่ปวดในส่วนของล่างขวา


  • โรคทางเส้นเลือด เช่น การตีบเลือดท้อง


  • โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคตับอ่อนอักเสบ



หากคุณมีอาการปวดท้องข้างขวาที่รุนแรง ปวดเรื้อรัง หรือมีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น อาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ หรือปัญหาขับถ่าย ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมสำหรับสาเหตุของปวดท้องต่อไป

ปวดท้องน้อยเป็นโรคอะไรได้บ้าง?

ปวดท้องน้อยเป็นอาการที่ทั่วไปสามารถเกิดจากหลากหลายสาเหตุ เช่น

  • การรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือ รับประทานอาหารในปริมาณมากเกินไป หรือ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย รวมไปถึงการเกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหารด้วย


  • การติดเชื้อในทางเดินอาหารอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น อาการท้องเสีย, อาการอาเจียน, หรือไข้


  • โรคลำไส้อักเสบเป็นภาวะอักเสบของไส้ตัน อาการปวดท้องน้อยอาจมีลักษณะที่ปวดลามจากท้องน้อยไปช่วงท้องขวาล่างและมักมีอาการอื่นร่วม เช่น ไข้และความเจ็บแสบเมื่อกดบริเวณลำไส้ตัน

  • การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย โดยอาการอื่น ๆ อาจรวมถึงอาการปัสสาวะแสบหรือถ่ายปัสสาวะบ่อย


  • โรคทางเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ หรือโรคท้องผูก อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยได้เช่นดัน


  • โรค PID (Pelvic Inflammatory Disease) เกิดขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อในอวัยวะทางเพศ หรือมดลูก โดยอาการปวดท้องน้อยสามารถเกิดขึ้นในผู้หญิง


  • โรคตับและถุงน้ำดี อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย เช่น ไตอักเสบ, ก้อนนิ่วในถุงน้ำดี, โรคตับแข็งตัว รวมไปถึงโรคตับอ่อนอักเสบ


  • ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการมีบุตรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย

อย่างไรก็ดี ถ้าปวดท้องน้อยที่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ มีอการปวดที่รุนแรงมากขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ อาการปวดท้อง หน้ามืดจะเป็นลม ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา ที่เหมาะสมสำหรับสาเหตุของอาการของคุณ การวินิจฉัยจะต้องขึ้นอยู่กับประวัติแพทย์และการตรวจร่างกายที่เพิ่มเติมที่จำเป็น

การรักษาอาการปวดท้อง

การรักษาอาการปวดท้องจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดปวดท้อง อาจจำเป็นต้องใช้ ยาแก้ปวด, ยาควบคุมกรดในกระเพาะอาหาร, การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทานอาหาร หรือในกรณีที่ร้ายแรงอาจจำเป็นต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม หากประสบกับอาการปวดท้องแบบเฉียบพลัน ปวดรุนแรง เรื้อรัง หรือปวดท้องที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ ควรรีบติดต่อแพทย์ทันท่วงที เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง

สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการใส่ใจและดูแลตนเอง อย่าลืมว่าการรักษารักษาสุขภาพร่างกายในระยะยาว เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ, การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนให้เพียงพอสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดท้องได้ นอกจากนี้ การเลือกทำประกันสุขภาพเอาไว้เผื่อในวันที่ต้องเจ็บไข้ได้ป่วยเอง ก็จะช่วยแบ่งเบาปัญหาเรื่องการเงินที่อาจเกิดจากกการเข้ารับการรักษาได้ ต้องที่นี้เลย ประกันสุขภาพ จาก แรบบิท แคร์ ที่มาพร้อมบิรการเปรียบเทียบประกันสุขภาพ ให้คุณเลือกแบบแผนประกันที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้แค่ปลายนิ้วคลิก

เลือกประกันสุขภาพที่เหมาะกับคุณ

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา