รถยนต์ Mercedes-Benz S Class
ประวัติและวิวัฒนาการของรถยนต์ Mercedes-Benz S Class
หากพูดถึงรถในฝัน Mercedes-Benz เป็นหนึ่งในคำตอบของแบรนด์รถยนต์ในฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะรุ่น Mercedes-Benz S Class นวัตกรรมยานยนต์แห่งสมรรถนะ มาตรฐานระดับสูงที่มาพร้อมความหรูหราทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน สมกับชื่อรุ่น Mercedes-Benz S Class 2022 โดย S มาจากคำว่า Special Class หรือ Sonderklasse ในภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลว่า ความเป็นที่สุดในตระกูลรถยนต์ทั้งหมดของ Mercedes-Benz ทำให้รถยนต์รุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งใน Luxury car ที่หลายคนฝันอยากจะได้มาเป็นเจ้าของนั่นเอง
เปิดตัวรถยนต์ Mercedes-Benz S Class รุ่นล่าสุด
รถยนต์ Mercedes-Benz S Class รุ่นแรก คือ รุ่น W116 ผลิตในปี ค.ศ. 1972 ที่เมือง Sindelfingen ประเทศเยอรมัน และเผยโฉมให้คนไทยได้เห็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1974 รถยนต์ซีดานระดับไฮเอนด์สุดหรู เป็นรถ Mercedes-Benz S Class แห่งตำนานความสำเร็จ และสร้างยอดขายจำนวนมหาศาล ด้วยเอกลักษณ์ความสง่างาม พร้อมสมรรถนะความปลอดภัยขั้นสูง และได้พัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดีไซน์ความทันสมัยสุดล้ำ จากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึง Mercedes-Benz S Class 2022 ในปัจจุบัน ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Mercedes-Benz S Class (W223) รุ่น S 350 d Exclusive และ รุ่น S 350 d AMG Premium
ราคารุ่นรถยนต์ Mercedes-Benz S Class
Mercedes-Benz S Class ราคาอย่างเป็นทางการของ 2 รุ่นอัพเดทล่าสุด Benz S Class ราคาเริ่มต้นที่ 6.69 ล้านบาท มาพร้อมสมรรถนะและความหรูหราเหนือระดับ คุ้มค่าเกินราคา ให้คุณเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้
- Benz S Class (W223) รุ่น S 350 d Exclusive : ราคาเริ่มต้น 6,690,000 บาท
- Benz S Class (W223) รุ่น S 350 d AMG Premium : ราคาเริ่มต้น 7,190,000 บาท
*หมายเหตุุราคาข้างต้นเป็นราคาเปิดตัว
สเปกและสมรรถนะเครื่องยนต์ Mercedes-Benz S Class
ทั้ง Benz S Class รุ่น S 350 d Exclusive และ รุ่น S 350 d AMG Premium มาพร้อมสมรรถนะพลังขับเคลื่อนเหมือนกัน ต่างกันที่ฟีเจอร์และฟังก์ชันอื่น ๆ ทั้งสองรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง 2,925 ซีซี เทอร์โบ 2-Stage กำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 3,400 - 4,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 1,200 - 3,200 รอบต่อนาที มาพร้อม 9G-TRONIC เกียร์อัตโนมัติ 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Benz S Class 2022 รุ่นนี้เป็นรถที่ขับเคลื่อนความหรูหราซ่อนอัตราเร่งดุเดือดไว้ภายใน เครื่องแน่น ควบคุมสมรรถนะได้ง่าย เสียงเงียบ นุ่มนวลทุกแรงขับ
ดีไซน์ ฟังก์ชันรถยนต์ Mercedes-Benz S Class
Benz S Class รีวิวการออกแบบภายนอก
รถ Benz S Class ออกแบบภายในคอนเซ็ปต์ Sensual Purity คือ การออกแบบรถยนต์ที่มีลักษณะเรียบง่ายและมีเสน่ห์ในทุกรายละเอียด ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้น ผสานแนวโค้งของหลังคาแบบ Catwalk Line ในองศาที่ต่ำลง ทำให้รถ Benz S Class 2022 ดูโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียว สมดุลอย่างมีเอกลักษณ์ เป็นความหรูหราที่สมบูรณ์แบบอย่างที่สุด
ลักษณะภายนอกของทั้ง 2 รุ่นย่อย มีความต่างกันที่ขนาดล้อแม็กและชุดบอดี้พาร์ท Benz S Class รุ่น S 350 d AMG Premium มาพร้อมล้อแม็ก AMG Multi-Spoke ทรงสปอร์ต ขนาด 20 นิ้ว ลายสวย ดูโฉบเฉี่ยว ส่วนรุ่น S 350 d Exclusive ล้อลายซี่ละเอียด จะมีขนาดเล็กลงมาอยู่ที่ 19 นิ้ว การดีไซน์ของทั้งคู่ออกแบบมาอย่างทันสมัย แต่งไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ทั้ง 2 รุ่น มีฟังก์ชัน Adaptive Highbeam Assist Plus ไฟสูงอัตโนมัติ หลังคาดีไซน์ Catwalk Line มาพร้อมพาโนรามิกซันรูฟระบบไฟฟ้า ตัวรถมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC มีระบบควบคุมระดับอัตโนมัติ ตกแต่งใต้กระจกมองข้างด้วยไฟส่องสว่างแสดงผลรูปสัญลักษณ์ Mercedes-Benz
Benz S Class รีวิว การออกแบบภายใน
การตกแต่งภายในของรถ Benz S Class S 350 d AMG Premium มีความพรีเมียมสมชื่อ มีการเลือกใช้วัสดุในบางจุดที่มีความหรูหรากว่าอีกรุ่น โดยทั้งสองรุ่นจะดีไซน์ภายในให้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน รุ่น S 350 d AMG Premium เน้นการใช้งานส่วนตัว เจ้าของรถใช้งานเอง หรืออาจมีคนขับให้ ส่วนรุ่น S 350 d Exclusive เปรียบเสมือนรถประจำตำแหน่ง เน้นพื้นที่นั่งด้านหลังเป็นหลัก
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุม Touch Control และระบบปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ ทันสมัยด้วยหน้าจอมาตรวัด Digital Instrument Clusters ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอระบบ Touchscreen ระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX7 แบบ OLED ขนาด 12.8 บริเวณคอนโซลกลาง ทำงานร่วมกับปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลาง ทำให้ผู้ขับสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกในการควบคุมการทำงานและฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถได้ทั้งหมด และมีระบบ MBUX Interior Assistant ตัวช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวของร่างกาย มือ และ ศีรษะ ในการออกออกคำสั่งด้วยท่าทางต่าง ๆ และยังมี ระบบจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่ ด้วย Censor สแกนลายนิ้วมือ Fingerprint scanner เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอีกด้วย
Benz S Class ทั้งสองรุ่นนี้ มาพร้อมเบาะหลังระบบไฟฟ้าแบบ Rear Seat Comfort Package ปรับตำแหน่งเบาะด้วยระบบไฟฟ้า เบาะหลังฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับเอนนอนได้แบบ One-Touch แค่กดเพียงครั้งเดียว พนักพิงด้านเบาะหน้าซ้ายตำแหน่งข้างคนขับจะปรับตั้งขึ้น เก็บหมอนรองศีรษะและเลื่อนตัวไปด้านหน้า เพื่อให้เบาะหลังปรับเอนนอนได้ มีหมอนรองน่องเลื่อนขึ้นเพื่อรองรับช่วงขา เพิ่มความสะดวกอีกขั้นด้วยฟังก์ชันการนวดถึง 6 โปรแกรมทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ติดตั้งไว้ที่เบาะทั้ง 4 ตำแหน่ง อีกทั้งยังมีระบบ MBUX High-End Rear Seat Entertainment ทำงานร่วมกับ Rear Tablet พร้อมจอ Touchscreen ขนาด 7 นิ้วสำหรับผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง สามารถควบคุมระบบความบันเทิงบนจอขนาด 11.6 นิ้ว จำนวน 2 จอ พร้อมระบบเสียง 3 มิติ Burmester® 3D-Surround จำนวน 15 ลำโพง เบาะหลังฝั่งซ้ายของ Benz S Class สามารถปรับเอนนอนเหยียดขาได้อย่างสบาย รองรับผู้โดยสารที่มีความสูงถึง 169 เซนติเมตร ส่วนเบาะหลังทางฝั่งขวา รองรับผู้โดยสารที่มีความสูงได้ถึง 170 เซนติเมตร มีระบบสั่งการทำงานของรถด้วยแท็ปเล็ตบริเวณที่พักวางแขนเบาะกลางด้านหลัง
Benz S Class 2022 มาพร้อมระบบ ควบคุมอุณหภูมิ THERMOTRONIC 4-ZONE และ ฟังก์ชันปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร AIR BALANCE Package มีช่องเชื่อมต่อ USB-C และ ระบบ Wireless Charging ชาร์จแบบไร้สายบริเวณโซนที่นั่งทั้งหน้าและหลัง ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี Gesture Control 2.0 ระบบสั่งงานด้วยท่าทาง และยังมี Premium ambient lighting ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร ที่สามารถปรับได้ 64 สีอีกด้วย
Benz S Class รีวิว Driving Assistant Package ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ
Mercedes-Benz S Class นอกจากดีไซน์แห่งความหรูหราและทันสมัยแล้ว ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยชั้นเยี่ยมที่ไม่เป็นรองใคร ให้ผู้โดยสารขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Driving Assistant Package เป็นชุดความปลอดภัยและการช่วยเหลือการขับขี่หลากหลายฟังก์ชัน เพื่อช่วยให้การขับขี่สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังต่อนี้
1. ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC
เป็นระบบควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างระหว่างรถกับรถด้านหน้าโดยอัตโนมัติ ระบบนี้จะใช้เทคโนโลยีระบบรางรถไฟฟ้าเพื่อควบคุมความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ และ รักษาระยะห่างด้วยการใช้เซนเซอร์เลเซอร์และกล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณกระจังหน้ารถของ Mercedes-Benz S Class ระบบนี้สามารถช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะการขับขี่ที่มีความเร็วไม่สูงมากและการจราจรไม่ค่อยแน่นหนา เป็นระบบที่ช่วยลดความเมื่อยล้าของคนขับในการขับรถในระยะทางยาว ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยคำนวณระยะห่างปลอดภัย และป้องกันการชนกันระหว่างรถในกรณีที่คนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทันในสภาวะที่รถหน้ามีการเบรกลดความเร็วอย่างเฉียบพลัน
2. ระบบ Active Steering Assist
เป็นระบบความปลอดภัยของ Mercedes-Benz S Class ที่ใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์และกล้องเพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ รวมถึงเซนเซอร์เลเซอร์เพื่อวัดระยะห่างระหว่างรถกับรถที่ขับขี่ไปข้างหน้า และระบบคำนวณเพื่อช่วยสั่งการเลี้ยวขวาหรือเลี้ยวซ้ายของล้อหน้าโดยอัตโนมัติ เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มนวลและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะการขับขี่ในทางที่มีการเปลี่ยนทิศทางบ่อย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางการขับขี่ได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองได้อย่างทันใจ
3. ระบบ Active Speed Limit Assist
คือ ระบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาความเร็วของรถได้ตามจำกัดความเร็วบนทางหลวงโดยอัตโนมัติ ระบบนี้ใช้เทคโนโลยีกล้องเพื่อตรวจจับสัญญาณจราจรบนทางหลวงและวัดความเร็วของรถ ระบบจะแสดงความเร็วที่กำหนดบนหน้าจอแสดงผลในแผนที่หรือพาเนลที่อยู่ด้านหน้าของผู้ขับขี่ และ ระบบจะแสดงเสียงเตือนหรือสัญญาณแสง เมื่อความเร็วของรถเกินกว่าความเร็วที่กำหนดไว้ ระบบนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการขับขี่เกินความเร็วและช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถได้ ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ระบบ Active Lane Change Assist
ตัวช่วยให้ผู้ขับขี่ Mercedes-Benz S Class สามารถเปลี่ยนช่องทางของรถได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยใช้เทคโนโลยีระบบรางรถ (Lane Keeping Assist) และเทคโนโลยีรัศมีเสียง (Radar) เพื่อตรวจจับรถบนช่องจราจรด้านข้างและตรวจจับความเร็วของรถที่จะเปลี่ยนช่องทาง หากสภาพการจราจรปลอดภัยและมีที่ว่างที่สามารถเปลี่ยนเลนได้ ระบบก็จะช่วยให้รถเปลี่ยนช่องทางโดยอัตโนมัติ โดยผู้ขับขี่ต้องเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวไว้และใช้ตัวควบคุมบนพวงมาลัยเพื่อสั่งงาน เมื่อระบบทำงานผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนช่องทางผ่านหน้าจอแสดงผลในรถยนต์ ระบบนี้ช่วยให้การขับขี่เปลี่ยนช่องทางได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นและลดการเข้าขวางช่องทางของรถอื่น ๆ ในทางเดียวกัน
5. ระบบ Active Emergency Stop Assist
เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่ Mercedes-Benz S Class เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในกรณีที่เกิดความผิดปกติขณะขับขี่ เช่น มีอาการโรคหัวใจ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเกิดปัญหา เมื่อระบบตรวจจับว่าผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ระบบก็จะทำการประสานงานกับระบบอื่น ๆ ในรถยนต์เพื่อทำการหยุดรถยนต์ให้แบบอัตโนมัติในทันที
ระบบนี้ใช้เทคโนโลยีของกล้องถ่ายภาพที่ติดตั้งบนรถยนต์เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ขับขี่ และ หากพบว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้ขับขี่มีปัญหา เช่น อาการของโรคหัวใจ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเกิดปัญหาขึ้น ระบบจะเริ่มทำงานโดยติดต่อกับผู้ขับขี่ผ่านทางหน้าจอแสดงผลในรถยนต์ และต้องการยืนยันว่าผู้ขับขี่ต้องการให้ระบบหยุดรถยนต์ให้แบบอัตโนมัติ ผู้ขับขี่จะต้องยืนยันการหยุดรถยนต์ให้เป็นไปตามที่ระบบของรถยนต์แสดงผลให้เห็น หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองกับการเตือน ระบบก็จะเริ่มการหยุดรถยนต์ให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย และประกาศเรียกเหตุการณ์ช่วยเหลือด่วนให้กับหน่วยกู้ชีพทันที
ในทางปฏิบัติการขับขี่ การใช้งาน Active Emergency Stop Assist นั้นควรใช้เป็นอย่างสุดท้ายเท่านั้น และผู้ขับขี่ควรต้องยังคงมีความตั้งใจและควบคุมการขับขี่อย่างมีสมาธิเสมอ ดังนั้น ระบบนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้ขับขี่สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยหรือมองหน้าอย่างไม่มีสมาธิได้ แต่เป็นการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
6. ระบบ Evasive Steering Assist
ตัวช่วยอัจฉริยะที่ช่วยผู้ขับขี่ในกรณีที่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอุปสรรค และ อุปกรณ์ทางการจราจรต่าง ๆ โดยระบบจะใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์และกล้องถ่ายภาพเพื่อตรวจจับและวิเคราะห์สิ่งกีดขวางบนถนน หากตรวจจับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ มีความเสี่ยงสูงว่ารถยนต์จะชนกับอุปสรรคนั้น ระบบจะช่วยเตรียมความพร้อมและสามารถดำเนินการหลีกเลี่ยงอุปสรรคได้อย่างรวดเร็วโดยทำการเปลี่ยนทิศทางของรถยนต์อย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย แต่ผู้ขับขี่ยังคงควบคุมรถ Benz S Class ได้เต็มรูปแบบ การใช้งานระบบนี้ต้องอยู่ในเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้น และผู้ขับขี่ต้องยังคงควบคุมพฤติกรรมของรถยนต์ให้เป็นไปตามกฎหมายและสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ
7. ระบบ Active Blind Spot Assist
ระบบช่วยขับขี่ของ Mercedes-Benz S Class ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนเลนหรือสลับเลนที่ไม่ปลอดภัย โดยระบบจะตรวจจับพื้นที่บริเวณข้างหลังและข้างขวาของรถยนต์เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวของรถบนเลนที่เราต้องการเปลี่ยน หากมีรถยนต์อยู่บริเวณข้างหลังหรือข้างขวาของรถที่กำลังเคลื่อนที่มา ระบบก็จะแสดงสัญญาณเตือนทางการขับขี่และพวงมาลัยจะสั่นเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ระวัง หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองกับการเตือน และยังคงมีการเคลื่อนที่ของรถยนต์ เมื่อมีการเปลี่ยนเลนที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะช่วยบังคับการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความเร็วและป้องกันการชนกับรถยนต์ในเลนที่ต้องการเปลี่ยนเข้าไป
ข้อดี/ข้อเสีย Mercedes-Benz S Class
ข้อดีรถยนต์ Benz S Class | ข้อเสียรถยนต์ Benz S Class |
---|---|
ความหรูหราและมีคุณภาพสูง | เป็นรถยนต์ระดับพรีเมียม ราคาจึงสูง |
ห้องโดยสารกว้างขวางเป็นพิเศษ | ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่สูง |
สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เร่ง 0-100 ก.ม/ช.ม. ได้ในเวลา 6.4 วินาที | ขนาดของรถที่ใหญ่มาก ยากต่อการจอดในพื้นที่จำกัด |
ระบบควบคุมด้านการขับขี่ระดับสูง AI | บุคลากรเฉพาะทางในการซ่อมมีไม่มากเท่ารุ่นอื่น |
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
อยากเพิ่มความคุ้มครองอีกระดับให้กับ Benz S Class ต้องทำอย่างไร?
นอกจากสมรรถนะความปลอดภัยแห่งเทคโนโลยีขั้นสุดของ Mercedes-Benz S Class แล้ว การเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเพิ่มความคุ้มครองอีกระบบให้กับรถ และที่สำคัญยังคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อีกด้วย ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ ทั้งอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณีก็ตาม คุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์และทรัพย์สินให้ฝ่ายคู่กรณี คุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคู่กรณี อีกทั้งยังคุ้มครองรถยนต์สูญหาย การถูกโจรกรรม และคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่ไม่คาดคิด เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น
ประกันรถ Benz S Class ของแรบบิท แคร์ ได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
แรบบิท แคร์ เป็นมากกว่าบริษัทประกันรถยนต์ เพราะนี่คือบริษัทชั้นนำในการให้บริการ และ มีพันธมิตรบริษัทประกันภัยที่ดีที่สุดกว่า 30 แห่ง พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษให้กับ Benz S Class ด้วยส่วนลดกว่า 70% และยังผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมบริการรวดเร็ว สะดวก ซื้อง่าย สามารถซื้อประกันผ่านออนไลน์ พร้อมบริการให้คำแนะนำ เปรียบเทียบแผนประกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการช่วยเหลือแจ้งเคลม บริการรถยก รถลาก มีศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วประเทศไทย มีบริการรถใช้ทดแทนระหว่างซ่อม พร้อมการชดเชยค่าเดินทางกลับระหว่างรถยนต์เข้าซ่อมอีกด้วย มีแรบบิท แคร์ เหมือนมีเพื่อนพร้อมเดินทางไปกับคุณทุกเส้นทาง