Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ

รถยนต์ Audi Q7

ประวัติและวิวัฒนาการของรถยนต์ Audi Q7

ไม่เห็นบ่อยๆ สำหรับรถยนต์ SUV ของ Audi Q7 ที่กำลังเป็นกระแสมาก เพราะปกติแบรนด์จะทำรถยนต์ที่เน้นความเร็ว สายสปอร์ต แต่สำหรับ Audi suv คันนี้ จัดเต็มเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหล มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย เหมาะจะเป็นรถใหม่ของครอบครัว และด้วยคุณภาพของออดี้ ไม่ต้องกังวล ว่ารถจะไม่แรงแบบที่คิด เพราะมีเทคโนโลยีใหม่ล้ำสมัย ลดน้ำหนักรถยนต์ให้เบาขึ้นกว่าเดิม ถูกคิดมาอย่างดีเกือบทุกจุด เพื่อช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้ขับรถที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ สาย SUV ลุยๆ ห้ามพลาดเลย ลองมาทำความรู้จักกับ Audi Q7 รีวิวกันให้เห็นแบบชัดๆ ไปเลย

ประวัติรถยนต์ Audi Q7

ประวัติของรถยนต์ Audi Q7 ต้องเล่าย้อนไปในปี ค.ศ.1899 มีวิศวกรชาวเยอรมนี ได้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ เพื่อหวังจะสร้างตำนาน แต่ดันโดนนายทุนเข้ามาแทรกแซง ทำให้ตัดสินใจลาออกไปเปิดบริษัทของตัวเอง และตั้งชื่อว่า บจ.การยานยนต์อากุสท์ ฮอสท์ (August Horch Automobilwerke GmbH) ในปี ค.ศ.1909 ก่อนที่ปี ค.ศ.1910 จะเปลี่ยนชื่อเป็น บจ.การยานยนต์อาวดี้ ซวิคเกา (Audi Automobilwerke GmbH Zwickau) ซึ่งกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ Audi ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ในส่วนของรถยนต์ Audi Q7 เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ทางบริษัทอยากจะทำรถ Audi SUV ขนาดใหญ่ไว้รองรับกลุ่มคนจีน และนักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา จึงเริ่มต้นด้วยการนำรถต้นแบบ Audi Pikes Peak quattro Concept มาโชว์ตัว และเห็นว่ามีช่องทางที่สามารถสร้างรายได้จากการทำ Audi Q7 ได้ จากนั้นมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน Platform – PL71 ของ Volkswagen Group และแชร์กันใช้กับ VW Toureg และ Porsche Cayenne เจนเนอเรชันที่ 1 และทำให้ Audi วางขายใน Q7 ครั้งแรกในปี 2005 ที่ยุโรป ก่อนจะกระจายตัวไปทั่วอเมริกาเหนือ และเอเชียในบางพื้นที่ มีรถยนต์ให้เลือกไม่กี่รุ่น ได้แก่ V6 3.6 ลิตร 280 แรงม้า V8 4.2 ลิตร 350 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องแบบไม่มีระบบอัดอากาศทั้งคู่ และเครื่องยนต์ดีเซล ก็มีขนาด 3.0 ลิตร 240 แรงม้า 4.2 ลิตร 326 แรงม้า ทั้งหมดเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบนั่นเอง สิ่งที่ทำให้ Audi Q7 มีความน่าสนใจ คือการนำเอาเครื่องยนต์ V12 ดีเซลเทอร์โบ TDI ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลในรถแข่ง ทีมวิศวกรจึงนำเอาเทคโนโลยีบางส่วนมาปรับใช้ในเครื่องยนต์ 6.0 ลิตร และมีแรงบิดระดับ 1,000 นิวตันเมตร นับเป็น Audi Q7 Suv ที่ทรงพลังมากที่สุด

ราคารถยนต์ Audi Q7

  • Q7 40 TFSI quattro : 4,499,000 บาท
  • Q7 45 TDI quattro S-Line : 4,799,000 บาท
  • Q7 45 TFSI quattro S-Line : 4,999,000 บาท

*หมายเหตุุราคาข้างต้นเป็นราคาเปิดตัว

สำหรับ Audi Q7 ราคาทั้งสามรุ่น จะเห็นว่าราคาต่างกันไม่มาก แต่เริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท อาจเป็นเรื่องของดีไซน์และสมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีราคาที่ห่างกัน ใครชอบแบบไหนก็ต้องดูที่สมรรถนะและดีไซน์ แต่เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกเครื่องยนต์และดีไซน์โดยรวมกัน โดยเราจะอธิบายจุดเด่นในหัวข้อถัดไป

รถยนต์ที่คุณอาจสนใจ

Mercedes-Benz GLC

Mercedes-Benz GLC

เริ่มต้น: 3,390,000 บาท

BMW X5

BMW X5

เริ่มต้น: 4,809,000 บาท

Audi e-tron

Audi e-tron

เริ่มต้น: 5,499,000 บาท

BMW X6

BMW X6

เริ่มต้น: 5,629,000 บาท

สเปกและสมรรถนะเครื่องยนต์ Audi Q7

เริ่มต้นด้วย Audi Q7 รุ่น 40 TFSI quattro มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลัง 40 TFSI Quattro เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร (1,984 ซีซี.) มีการวางระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง และเทอร์โบชาร์จ รวมถึงระบบวาล์วแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงถึง 370 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,600-4,500 รอบ/นาที ถือว่าทำความเร็วได้ดีมาก ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. กับเวลา 6.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 233 กม./ชม. ใครเป็นสายซิ่ง Audi Q7 รุ่นนี้ตอบโจทย์ สำหรับ Audi Q7 ราคาเริ่มที่ 4,499,000 บาท

ต่อกันด้วย Audi Q7 รุ่น 45 TDI quattro S-Line เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล V6 ความจุ 3.0 ลิตร ซึ่งให้พลังสูงสุด 249 แรงม้า ที่ 2,910-4,500 รอบ/นาที กับแรงบิดมหาศาล 600 นิวตันเมตร ทั้งหมดใช้เต็มพิกัดเพียง 1,500 รอบ/นาที ไปจนถึง 3,000 รอบ/นาที ทั้งหมดทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว และใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ที่หลายคนคุ้นเคย ถือเป็น Audi Q7 ที่เครื่องยนต์แรงมาก และมีความแข็งแกร่งมากๆ

ปิดท้ายด้วย Audi Q7 รุ่น 45 TFSI quattro S-Line เป็นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบชาร์จ 6 สูบ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ให้อัตราการเร่ง 0 – 100 กม./ชม.ภายในเวลา 6.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยม มีตัวถังที่ขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้พื้นที่ใช้งานในห้องโดยสาร ของ Audi Q7 มากขึ้น รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple Carplay และ Android Auto ถือเป็นการอัปเกรดเครื่องยนต์ใหม่ยกชุด

ดีไซน์ ฟังก์ชันรถยนต์ Audi Q7

เริ่มต้น Audi Q7 รุ่น 40 TFSI quattro ภายนอกสวยงาม ดีไซน์ได้อย่างพิถีพิถัน ตามแบบฉบับของ Audi ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าเฟรมเดี่ยวขนาดใหญ่ รับกับโคมไฟหน้า Projector Lens พร้อม Day Time Running Light สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ในโคมเดียวกัน ระบบไฟส่องสว่างทำงานอัตโนมัติ มาพร้อมฟังก์ชันเวลาเปิด - ปิด รวมไปถึงสามารถปรับไฟสูงได้ เพิ่มฟังก์ชันฉีดน้ำทำความสะอาด อีกหนึ่งจุดเด่น คือเส้นข้างตัวถังมีความเรียบง่าย แต่ยังคงความหรูหราไว้ ตัวขอบคิ้วโครเมียมรอบกรอบกระจก ประตูแทรกด้วย Side Moulding Door Guard ให้ความรู้สึกบึกบึนแต่สง่างามภายในห้องโดยสารออกแบบและตกแต่งออกมาได้อย่างดี

ต่อด้วยรถยนต์ Audi Q7 รุ่น 45 TDI quattro S-Line มีการปรับโฉมใหม่ ให้ดูว้าวและทันสมัยมากกว่าเดิม ยิ่งเป็นรุ่นท็อปไม่ต้องค้นหาความสวยให้วุ่นวายเลย เพราะสวยตั้งแต่ไฟหน้า Laser light ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาดและมีความไฮเทคแบบสุดๆ ช่วงล่างเป็นถุงลงแบบสปอร์ต ที่ทำให้รถเตี้ยลง 15 มม. ใช้ล้อขนาดใหญ่ 21 นิ้ว และชุดเครื่องเสียงสุดอลังการจาก Bose ย้อนกลับไปที่ไฟหน้าจะเป็นแบบ HD Matrix พร้อมด้วย Laser light โดยชุดไฟจะมีโคมโปรเจกเตอร์ 2 ดวง และมีจุดไฟ LED สีฟ้า ประกอบด้วย LED 64 หลอด พร้อมเลเซอร์ไดโอด โดยระบบจะเริ่มทำงานเมื่อขับรถเร็วกว่า 70 กม.

ปิดท้ายด้วย Audi Q7 รุ่น 45 TFSI quattro S-Line มาพร้อมชุดแต่งภายนอกระดับท็อป ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ใช้ยางแบบ 285/40 R21 เห็นภายนอกให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว เป็น Audi Q7 ที่มีเสน่ห์แบบสุดๆ ด้านไฟหน้าเป็น Projector Lens แบบ LED มีระบบฉีดน้ำทำความสะอาดไฟหน้า Headlight Washer System ตัวไฟใช้แบบ Daytime Running Light แบบ LED มีระบบเปิดปิด อัตโนมัติช่วยให้คุณขับรถได้อย่างสะดวก ไม่ต้องกังวลระหว่างขับขี่ อีกทั้งมีฟังก์ชันหน่วงเวลาการปิดไฟหน้าแบบComing Home Feature สำหรับภายในห้องโดยสาร มีความกว้างขวาง นั่งได้แบบสบายๆ และนำเทคโนโลยีมาใช้ ช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนผ่อนคลาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ข้อดี/ข้อเสีย ของรถยนต์ Audi Q7

Audi Q7 รุ่น 40 TFSI quattro

 

ข้อดี

ข้อเสีย

ทำความเร็วได้ดี

ค่าบำรุงรักษาแพง

ดีไซน์โฉมใหม่

หาอู่ซ่อมรถยนต์ยาก

เทคโนโลยีล้ำสมัย

 

ห้องโดยสารหรูหรา

 

 

Audi Q7 รุ่น 45 TDI quattro S-Line

 

ข้อดี

ข้อเสีย

ทำความเร็วได้ดี

ค่าบำรุงรักษาแพง

ดีไซน์โฉมใหม่

หาอู่ซ่อมรถยนต์ยาก

เทคโนโลยีล้ำสมัย

พื้นที่คนขับแคบเกินไป

ห้องโดยสารหรูหรา

 

 

Audi Q7 รุ่น 45 TFSI quattro S-Line

 

ข้อดี

ข้อเสีย

ทำความเร็วได้ดี

ค่าบำรุงรักษาแพง

ดีไซน์โฉมใหม่

หาอู่ซ่อมรถยนต์ยาก

เทคโนโลยีล้ำสมัย

 

มีระบบความปลอดภัย

 

ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท

พันธมิตรประกันภัยรถยนต์

logo วิริยะประกันภัย
logo กรุงเทพประกันภัย
logo ธนชาติ
logo roojai
logo โตเกียวมารีนประกันภัย
logo LMG

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

หากซื้อ Audi Q7 จะเลือกประกันภัยชั้นไหนดี?

“ประกันภัยชั้น 1” จากแรบบิท แคร์ ช่วยตอบโจทย์การขับขี่บนท้องถนนแบบสุดๆ เพราะ Audi Q7 ราคาเกือบ 5 ล้าน ควรได้รับประกันภัยชั้น 1 และการดูแลที่ดีที่สุด อย่าลืมว่า ดีไซน์ของรถที่ล้ำสมัย สมรรถนะที่แข็งแกร่งและแรงกว่าเดิม หากเกิดอุบัติเหตุ ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากในการซ่อมแซมด้วย ดังนั้นการซื้อประกันภัยชั้น 1 จากแรบบิทไว้ จะช่วยให้อุ่นใจกว่าด้วย

ทำไมควรซื้อประกันรถยนต์กับ แรบบิท แคร์?

แรบบิท เป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันภัยมากกว่า 30 บริษัท ช่วยให้คุณได้ดีลพิเศษ และเลือกบริษัทที่ชอบได้ตรงในมากที่สุด ราคาเริ่มต้นไม่แพงจนเกินไป อีกทั้งมีการดูแลที่ครอบคลุมประกันรถยนต์ที่คุณต้องการ ตั้งแต่การชนไม่มีคู่กรณี , การโดนรถชนจากคนอื่น หรือขับชนเอง ทางบริษัทจ่ายค่าซ่อมให้ทันที รวมไปถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และคุ้มครองรถยนต์หาย จากการโจรกรรม หรือชิงทรัพย์ด้วย ส่วนเรื่องการเคลมไม่ยาก เพราะทางแรบบิทให้เคลมง่าย เคลมเร็ว ตลอดระยะเวลาที่คุ้มครองกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ จะช่วยให้คุณได้รับการคุ้มครองแบบเต็มที่

ซื้อประกันภัย รถยนต์ Audi Q7 ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์ อะไรบ้าง?

แรบบิท แคร์ พร้อมดูแลคุณอย่างดีที่สุด เริ่มตั้งแต่มอบส่วนลดเบี้ยประกัน ที่ช่วยให้คุณจ่ายน้อยที่สุด พร้อมแนะนำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ที่คอยให้คำแนะนำสำหรับมือใหม่ เพื่อจะได้เลือกประกันภัยรถยนต์ ที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตด้วย โดยใครที่สนใจเลือกซื้อ ประกันภัยรถยนต์ วางใจได้ถ้าเลือก แรบบิท แคร์ พร้อมดูแลทุกกรณี

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา