รถยนต์ Audi e-tron Sportback 55 Quattro S-Line
ประวัติและความเป็นมาของรถยนต์ Audi e-tron Sportback
เอาใจคนรักรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีดีไซน์หรูหรา พรีเมียม ดูทันสมัย ภายใต้แนวคิดใหม่สำหรับรถยนต์ Audi e-tron Sportback โดยกระจังหน้าได้ถูกอัปเกรดใหม่เป็น Single frame แต่ก็ยังคงสะท้อนเอกลักษณ์ของ Audi คือ ดีไซน์ที่ดูสปอร์ต และสามารถสร้างความสะดุดตาให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี ซึ่งรถยนต์ Audi e-tron Sportback นี้เป็นรถยนต์แบบ SUV ที่มาพร้อมกับสมรรถนะอันทรงพลัง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถตอบสนองทุกการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยระยะทางขับเคลื่อนของรถยนต์ Audi e-tron Sportback ที่วิ่งได้โดยประมาณต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง(อ้างอิงตามผลการทดสอบโดยใช้มาตรฐาน NEDC) คือ 463 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควรสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบเต็ม 1 รอบ แถมยังไร้มลพิษ ทำให้รถยนต์ Audi e-tron Sportback นั้นตอบโจทย์คนรักพลังงานสะอาดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวคช และนอกจากนี้มีการออกแบบเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทั้งจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำลง ทำให้เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น หรือการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเอื้อต่อการใช้งานให้ง่ายมากขึ้น
โดยคำว่า e-tron นั้นจะเป็นรหัสที่สื่อถึงรถยนต์ไฟฟ้า ที่มาจากยี่ห้อหรือแบรนด์ Audi ซึ่งในประเทศไทยก็จะมีรถยนต์ Audi e-tron อยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Audi e-tron รถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV, Audi e-tron GT รถยนต์ไฟฟ้าแบบซีดาน, Audi RS e-tron GT รถยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ตซีดาน และ Audi e-tron Sportback รถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV สไตล์สปอร์ต คือรุ่นล่าสุดที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ โดยเริ่มจากการที่รถยนต์ Audi e-tron Sportback รุ่นนี้ มีรหัสรุ่นย่อยว่า 55 Quattro S-Line ซึ่งจะมีความหมายดังนี้ คือ รหัส 55 มากจากขนาดของแบตเตอรี่ที่มีความจุสูง และมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีความจุมากถึง 95 kWh เลยทีเดียว ส่วนคำว่า Quattro ในรถยนต์ Audi e-tron Sportback นั้นจะแปลว่า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออันทรงพลัง ที่ได้จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และคำว่า S-Line จะหมายถึงชุดแต่งรอบคันนั่นเอง
ราคารุ่นรถยนต์ Audi e-tron Sportback
โดยรถยนต์ Audi e-tron Sportback นี้จะรับประกันคุณภาพตัวรถ ระยะเวลา 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ว่าระยะใดจะถึงก่อน และจะรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ว่าระยะใดจะถึงก่อน
- Audi A4 40 TFSI S Line Icon Black : 5,499,000 บาท
*หมายเหตุุราคาข้างต้นเป็นราคาเปิดตัว
การชาร์จพลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ Audi e-tron Sportback มีอะไรบ้าง?
ตัวรถยนต์ Audi e-tron Sportback นั้นจะมีหัวชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบ TYPE2 – CCS ซึ่งหัวชาร์จประเภท TYPE 2 นี้รองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบมาตรฐาน อีกทั้งยังชาร์จไวด้วย
ประเภทการชาร์จพลังงาน | เวลาที่ใช้ในการชาร์จ(0-80%) |
---|---|
AC Wallbox 11 kW | 9 ชั่วโมง |
AC Wallbox 22 kW | 4 ชั่วโมง 30 นาที |
DC Public charge 150 kW | 40 นาที |
รายละเอียดเครื่องยนต์ไฟฟ้าและสมรรถนะของรถยนต์ Audi e-tron Sportback
เครื่องยนต์และสมรรถนะของรถยนต์ Audi e-tron Sportback | รถยนต์ Audi e-tron Sportback |
---|---|
ระบบควบคุมการขับเคลื่อน | มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง |
ระบบส่งกำลัง | ระบบเกียร์อัตโนมัติ |
แรงม้าสูงสุด (กิโลวัตต์(แรงม้า)) | 265(360) |
แรงม้าสูงสุดใน boost mode (กิโลวัตต์(แรงม้า)) | 300(408) |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) | 561 |
แรงบิดสูงสุดใน boost mode (นิวตันเมตร) | 664 |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที) | 6.6 |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน boost mode (วินาที) | 5.7 |
ระบบขับเคลื่อน | ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.) | 200 |
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (ลิตร) | 60 |
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง (ลิตร) | 615-1665 |
ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง | ลิเธียมไอออน ขนาด 95 กิโลวัตต์-ชั่วโมง |
เบรกหน้า/เบรกหลัง | ดิสก์เบรก พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีส้ม |
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยของรถยนต์ Audi e-tron Sportback
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- รถยนต์ Audi e-tron Sportback มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า
- รถยนต์ Audi e-tron Sportback มีระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง(Audi hold assist)
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS(Anti-lock braking system)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD(Electronic brake distribution)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS(Traction control system)
- รถยนต์ Audi e-tron Sportback มีระบบควบคุมการทรงตัว ESC(Electronic control system with stabilization function)
- เซ็นเซอร์หน้า-หลัง และด้านข้างช่วยในการนำรถเข้าจอด
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
- ชุดปฐมพยาบาลอยู่ในรถยนต์ Audi e-tron Sportback
ระบบเสียงและความบันเทิงของรถยนต์ Audi e-tron Sportback
- ระบบเครื่องเสียงเป็นแบบ Premium : Bang & Olufsen ที่มาพร้อมกับระบบเสียง 3 มิติ
- มีจอแสดงข้อมูลมาตรวัดมาแบบ Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว
- รถยนต์ Audi e-tron Sportback รองรับระบบ MMI Navigation Plus with MMI touch response ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว
- รถยนต์ Audi e-tron Sportback รองรับระบบ Audi Smartphone Interface | Apple CarPlay – Android Auto
- ส่วนจอควบคุมจะเป็นแบบ Mult-ifunction แบบสัมผัส พร้อมที่จะตอบสนองการสั่งงาน Haptic Feedback ขนาด 8.6 นิ้ว
- มีระบบเชื่อมต่อไร้สาย(Bluetooth)
- มีช่องเชื่อมต่อ USB ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คือ ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- มีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารรถยนต์ Audi e-tron Sportback เป็นแบบ Contour/Ambient Lighting
ดีไซน์ภายในและภายนอกของรถยนต์ Audi e-tron Sportback
สีตัวถังของรถยนต์ Audi e-tron Sportback มีให้เลือกถึง 6 สีด้วยกัน ได้แก่ สีขาว Glacier white-metallic, สีเงิน Floret silver-metallic, สีดำ Mythos black-metallic, สีเทา Daytona grey-pearl effect, สีเบจ Siam beige-metallic และสีน้ำเงิน Antigua blue-metallic (3P3P)
โดยที่ในทุกรุ่นนั้นจะเป็นเบาะสีดำทั้งหมด ยกเว้นตัวถังสี Mythos black-metallic ที่จะสามารถเลือกสีของเบาะได้ คือ สีดำและสีเทา
ภายนอก
- ล้อ 21 นิ้ว ขนาด 9.5J x 21
- ยาง 265/45 R21
- ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า-หลัง(Light staging)
- ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line
- หลังคาพาโนรามิก เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ภายใน
- พวงมาลัย Multi-function แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อม Paddle shift และสัญลักษณ์ S line
- จอควบคุม Multi-function แบบสัมผัส ขนาด 8.6 นิ้ว
- ตกแต่งภายในด้วยลายอลูมิเนียมแบบด้าน
- เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona
- เบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports ตกแต่งแบบ diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line
ข้อดี/ข้อเสีย ของรถยนต์ Audi e-tron Sportback
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
รถยนต์ Audi e-tron Sportback เหมาะสำหรับจะเป็นรถครอบครัว เพราะมีพื้นที่ใช้งานและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง | รถยนต์ Audi e-tron Sportback ยังไม่มีระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ(Adaptive Cruise Control) และระบบที่จะช่วยรักษาตัวรถให้อยู่ในเลนถนน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้เราเดินทางไกลได้มากขึ้น |
มีความเร็วแรงที่ไร้ที่ติ จากระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ | ด้วยความที่รถยนต์ Audi e-tron Sportback มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความจุเยอะ จึงทำให้กินไฟสูงด้วยเช่นกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการขับขี่ของเราด้วย |
รถยนต์ Audi e-tron Sportback มีแบตเตอรี่ที่ความจุค่อนข้างเยอะ จึงทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วมากยิ่งขึ้น | มีศูนย์บริการน้อย และมีค่าซ่อมบำรุงที่ราคาค่อนข้างสูง |
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
สรุปแล้วรถยนต์ Audi e-tron Sportback นั้นเหมาะกับใคร?
สำหรับใครที่ต้องการอยากจะลองขับรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ศักยภาพดี และมีความเร็วแรงสูง หรือเดินทางไกลได้โดยที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในตัวเมืองและต่างจังหวัด รถยนต์ Audi e-tron Sportback จึงถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ที่รักพลังงานสะอาดได้เป็นอย่างดี
รถยนต์ Audi e-tron Sportback ควรทำประกันชั้นไหนดี?
สำหรับรถยนต์ป้ายแดง Audi e-tron Sportback หรือมือใหม่หัดขับก็ตาม แนะนำว่าจะต้องทำเป็นประกันรถชั้น 1 เลย เพราะให้ความคุ้มครองสูงสุดทุกกรณี จึงทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ไม่ว่าจะไฟไหม้ น้ำท่วม รถสูญหาย หรืออุบัติเหตุก็ตาม ก็จะได้รับความคุ้มครองทั้งตัวเราและคู่กรณี จึงเห็นได้ว่าคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายจริง ๆ เพราะผลประโยชน์ที่เราจะได้รับนั้นเหมาะสมกับทั้งสำหรับตัวเราและตัวรถยนต์เองด้วย สามารถคลิกดูรายละเอียดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ ประกันรถยนต์ชั้น 1
ซื้อประกันรถยนต์ Audi e-tron Sportback ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
แน่นอนว่าประกันรถยนต์แผนต่าง ๆ นั้นจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยจะขึ้นอยู่กับความคุ้มครอง แต่ถ้าจะให้เทียบความคุ้มครองกับราคาของเบี้ยประกันรถยนต์แล้ว แน่นอนว่าที่แรบบิท แคร์ เราคุ้มค่ามาก หากเราต้องการซื้อประกันให้กับรถยนต์ Audi e-tron Sportback เราก็สามารถเลือกสรรแผนความคุ้มครองได้เลย เพราเรามีแผนประกันที่หลากหลายจากบริษัทประกันภัยชั้นนำต่าง ๆ ที่ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบได้เลย เช็คง่าย เช็คไว รวดเร็วทันใจ ปลอดภัย และรับรองว่าราคาของประกันภัยรถยนต์นั้นคุ้มค่าแน่นอน สามารถคลิกดูข้อเสนอพิเศษ และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แรบบิท แคร์