รถยนต์ Mercedes-Benz GLS

ปัจจุบันรถยนต์สไตล์ SUV (Sport Utility Vehicle) กลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก เนื่องด้วยสมรรถนะและความคุ้มค่าของรถที่มาพร้อมห้องโดยสายขนาดใหญ่ เป็นเทรนด์ใหม่สำหรับรถครอบครัวที่ทุกบ้านต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคัน และแบรนด์อย่าง Mercedes-Benz ผู้นำรถยนต์สมรรถนะแห่งความหรูหราก็ได้ลงมาลุยตลาดรถ SUV เช่นกัน Mercedes-Benz GLS รถยนต์ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง สไตล์สปอร์ต Crossover เป็นได้มากกว่ารถครอบครัว มาพร้อมสมรรถนะแข็งแกร่ง ดีไซน์ระดับพรีเมียม

Mercedes-Benz คือหนึ่งในแบรนด์แห่งตลาดรถสายพันธุ์ Luxury SUV ที่มาพร้อมทั้งความหรูหราและสมรรถนะความแข็งแกร่งเต็มพิกัด ก่อนจะมาเป็นรุ่น Mercedes-Benz GLS ในปัจจุบันนั้น Mercedes-Benz ได้เปิดตัวเจอเนอเรชั่นแรกคือรถยนต์รุ่น GL-Class เมื่อปี ค.ศ. 2006 และได้มีการพัฒนาต่อยอดจนมาถึงรุ่น Mercedes-Benz GLS มีการปรับโฉมรูปลักษณ์ครั้งใหญ่ ซึ่งเดิมชื่อ GL-Class เปลี่ยนมาเป็นชื่อ Mercedes-Benz GLS ในปี ค.ศ. 2015 โดยตัว S แสดงถึงสมรรถนะแห่งความหรูหราเทียบเท่ารถ S-Class นั่นเอง และได้เปิดตัวพร้อมจำหน่ายในไทย ชื่อรุ่น Mercedes-Benz GLS 350d 4MATIC AMG Premium

โรงงานผลิต Mercedes GLS มีหลากหลายแห่งทั่วโลก โดยส่วนใหญ่โรงงานจะตั้งอยู่ในโซนยุโรป และเมืองหลัก ๆ ได้แก่ Stuttgart, Sindelfingen, Bremen, Rastatt และ Untertürkheim ประเทศเยอรมนี และ ยังมีโรงงานในประเทศอื่น ๆ อีก เช่น Tuscaloosa ในสหรัฐอเมริกา, Beijing ในประเทศจีน, Pune ในประเทศอินเดีย, และ ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ เริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ. 2019 ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญของ Mercedes-Benz GLS ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับ Mercedes-Benz GLS ราคาเปิดตัวรุ่น Mercedes-Benz GLS 350d 4MATIC AMG Premium อย่างเป็นทางการ เริ่มต้นที่ 6,880,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นรุ่นที่ประกอบในไทย ทำให้ Mercedes-Benz GLS ราคาของรถรุ่นนี้ถูกลงกว่าเดิมหลายเท่า คนไทยสามารถเป็นเจ้าของรถคันนี้ได้ในราคาประหยัดกว่าเดิมถึง 2ล้านกว่าบาท พร้อมสมรรถนะสูง ระดับมาตรฐานสากลของ Mercedes-Benz

Mercedes-Benz GLS 4MATIC AMG Premium ดีไซน์รถ SUV Crossover ทรงสปอร์ต หรูหราเหนือระดับทั้งภายนอกตัวรถ และ ภายในห้องโดยสาร

การออกแบบรถภายนอกมีความทันสมัยโดดเด่นสไตล์ Mercedes-Benz GLS โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีไฟหน้าขั้นสูงแบบ Multibeam Red ฟังก์ชันการควบคุมหลอดไฟ LED ถึง 112 หลอด สามารถปรับระดับความสว่างได้ทุกพื้นที่ในเวลากลางคืน พร้อมระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว มีการคำนวณระดับความสว่างอย่างแม่นยำ ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวได้อย่างเฉียบคมและรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น Mercedes-Benz รุ่นนี้ยังสามารถตรวจจับทางโค้งมุมอับสายตาได้แม่นยำและไกลกว่าเดิม เพิ่มความสว่างเต็มพื้นที่ ขับรถปลอดภัยในทุกเส้นทางด้วย Ultra Range Highbeam ระบบอัจฉริยะปรับลำแสงส่องสว่างโดยอัตโนมัติได้ไกลกว่า 650 เมตร สามารถยกไฟหรือลดไฟได้อัตโนมัติ ส่องไฟไปยังเลนถนนหรือด้านข้างได้ทั้งสองฝั่งซ้ายขวา และ ยังสามารถเบี่ยงลำแสงไฟหากขับเข้าไปใกล้รถด้านหน้าเพื่อไม่ให้แสงไฟไปกระทบตารถคันหน้าและคันอื่น ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพของระดับการส่องสว่างด้านข้างอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนขับสามารถมองเห็นได้ดีในมุมอับสายตา

Mercedes-Benz GLS 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมหลังคากระจกดีไซน์พาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า แต่งกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างทรงสปอร์ตจาก AMG บันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ต พร้อมปุ่มยางกันลื่น

Mercedes GLS ออกแบบมาพร้อมล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 Twin Spoke ขอบ 21 นิ้ว จาก AMG มาพร้อมยางคุณภาพของ Michelin รุ่น Latitude Sport 3 ยางล้อหน้าขนาด 275/45 R21 107Y และยางล้อหลังขนาด 315/40 R21 111Y ความยาวฐานของล้อ 3,135 มิลลิเมตร ระยะห่างของล้อหน้า 1,668 มิลลิเมตร ระยะห่างของล้อหลัง 1,691 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 200 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,415 กิโลกรัม ความจุถังเชื้อเพลิง 90 ลิตร มิติตัวถังรถ กว้าง 2,030 มิลลิเมตร ยาว 5,207 มิลลิเมตร สูง 1,823 มิลลิเมตร ของ GLS350d AMG Premium

ระบบเวอร์ชันล่าสุดของ Mercedes-Benz GLS 4MATIC ปรับการทำงานของทั้ง 4 ล้อให้มีสมรรถนะตอบสนองต่อพื้นผิวถนนได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการส่งกำลังไปที่เพลาขับด้านหน้าและหลัง แปรผันไปมาโดยอัตโนมัติจาก 0-100 % เพื่อให้รถยึดเกาะถนนอย่างมั่นคง ขับขี่ทุกเส้นทาง เลี้ยวทุกโค้งได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

Mercedes-Benz GLS 4MATIC มีระบบช่วยปิดประตูด้วยระบบไฟฟ้า และ มีระบบกุญแจแบบ Keyless - GO พร้อมระบบเปิด-ปิด บานประตูท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ เพิ่มความหรูหราอีกระดับด้วยไฟส่องทางใต้กระจกมองข้างรูปตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz อีกด้วย

นอกจากดีไซน์สปอร์ตแล้ว Benz GLS 4MATIC ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายภายในห้องโดยสาร ที่สุดแห่งความสบายเทียบเคียงกับรถระดับ S-Class ด้วยระยะฐานของล้อที่ยาวขึ้นถึง 60 มิลลิเมตร ทำให้ห้องโดยสารภายในโปร่งและกว้างขึ้น รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง เบาะหุ้มหนังสีเทาดำ ดีไซน์ครอบคลุมสรีระ นั่งสบายเมื่อขับไกล เพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับด้วยที่นั่งระบบไฟฟ้าทุกตำแหน่ง มีปุ่มปรับเบาะและบันทึกท่านั่งได้ถึงสามรูปแบบ พนักพิงสามารถปรับเอนนอนได้พร้อมการบันทึกตำแหน่งที่นั่งได้ในโซนเบาะแถวที่ 2 และยังสามารถเพิ่มพื้นที่การวางขาได้มากขึ้นด้วยการเลื่อนปรับเบาะถอยหลังได้อีก 10 เซนติเมตร อีกทั้งระบบ Easy-Entry สำหรับพับเบาะที่ 2 ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าสู่เบาะแถวที่ 2 ได้สะดวกขึ้น และโซนเบาะนั่งแถวที่ 3 ยังเป็นแบบ Full Size เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มีส่วนสูงมากถึง 194 เซนติเมตรได้อีกด้วย Mercedes-Benz GLS 4MATIC ยังมีพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระได้สูงสุด 2,400 ลิตร และยังสามารถพับเบาะที่นั่งโซนที่ 2 และ 3 ได้อย่างอิสระ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

Mercedes-Benz GLS 4MATIC อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยระบบปฏิบัติการแบบ MBUX แดชบอร์ดขนาดใหญ่ จอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital Widescreen Cockpit เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวบนจอพาโนรามาดีไซน์สุดล้ำ ขนาดใหญ่พิเศษ 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ เชื่อมต่อกัน ด้วยระบบแสดงภาพผ่านกล้อง 360° มอนิเตอร์ของกล้องมองรอบคัน นำทางด้วยระบบดาวเทียม เพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็นทั้งจากภาพมุมสูง (Bird’s-eye perspective) ภาพมุมด้านข้างล้อหน้า ช่วยถอยจอดได้อย่างแม่นยำ ยังมีระบบนำทางด้วยดาวเทียมแจ้งสภาพการจราจรล่าสุดแบบ Real Time อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งระบบ iOS และ Android ปรับแต่งรูปแบบจอแสดงผลได้หลากหลายสไตล์ มีระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester และ ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี ตอบสนองทุกความต้องการด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง แค่พูดว่า “Hey Mercedes” ระบบจะปฏิบัติการตามคำสั่งในทันที

1. ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC

ตัวช่วยรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้ารถของ Mercedes-Benz GLS 4MATIC คำนวณระยะห่างปลอดภัย สัมพันธ์กับความเร็วของตัวรถในขณะขับขี่ และลดความเร็วของรถอัตโนมัติ และยังช่วยเบรกในระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติ

2. Blind Spot Assist ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา

ที่สุดแห่งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะของ Mercedes-Benz GLS 4MATIC ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขณะเปลี่ยนช่องจราจร โดยจะมีไฟเตือนเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดงที่บริเวณกระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวาพร้อมเสียงเตือนเมื่อมีรถเข้าใกล้ในระยะ 3 เมตร

3. ระบบ Active Lane Keeping Assist

หากขณะขับขี่ Mercedes-Benz GLS 4MATIC เรดาร์ตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในขณะเปลี่ยนช่องจราจร ระบบจะดึงตัวรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติ ด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นโดนเฉพาะบนถนนใหญ่ในเมือง

4. Mercedes-Benz emergency call system

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ ในขณะเกิดอุบัติเหตุ Mercedes GLS จะติดต่อไปยัง Emergency Customer Contact Center ศูนย์บริการฉุกเฉินเพื่อประสานงานและช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัยสูงสุด

5. ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ Telediagnostics

เจ้าของรถ Mercedes-Benz GLS 4MATIC จะได้รับการบริการซ่อมบำรุงด้วยมาตรฐานระดับโลกกับบริการ Remote Retrieval of Vehicle Status ตัวช่วยรายงานสถานการณ์ของรถไปยัง Mercedes me และรายงานไปยังศูนย์บริการรถยนต์ที่เข้าใช้บริการเพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุด