รถยนต์ Audi A8

Audi A8 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อปี 2018 โดยมีเอกลักษณ์สะท้อนความเป็น Audi ซึ่งได้ผสานความหรูหราพรีเมียมเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ด้วยการมีฐานล้อยาวพิเศษ จึงเป็นที่ถูกใจบริหารและนักธุรกิจ ภายในดีไซน์พรีเมียม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 ที่ให้กำลังถึง 340 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 11.6 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ แบบ quattro ที่ทำให้ขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น

Audi A8 ใช้พละกำลังเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid (MHEV) แบบ V 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบ twin-scroll ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้าที่ 5,000-6,400 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,370-4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro สามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 5.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตร/ชม. มีระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select) ทำให้สามารถขับขี่ได้หลากหลายสภาพพื้นผิว และด้วยการเสริมจากขุมพลัง mild hybird ช่วยให้มีแรงบิดต้นที่ยอดเยี่ยม ออกตัวได้รวดเร็ว แม้จะมีตัวถังที่มีขนาดใหญ่

Audi A8 ซีดานหรู ดีไซน์เด่น สมรรถนะจัดเต็มAudi A8 เป็นซีดานหรู ที่ดีไซน์มีความหรู พรีเมียม ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมฟังก์ชั่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน Audi A8 ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ผู้บริหารหรือนักธุรกิจ ห้องโดยสารมีความกว้างขวาง นั่งสบาย โซนด้านหน้ามีฟังก์ชั่นการควบคุมสิ่งอำนวยที่สมบูรณ์แบบ อุปกรณ์ภายในถูกจัดวางทุกส่วนมาอย่างสมดุล ทำให้ผู้ขับสามารถควบคุมส่วนต่างๆ ของรถได้สะดวก แต่ด้วยที่ผสานเทคโนโลยีเอาไว้มากมาย ทำให้ระบบบางอย่างของ Audi A8 ค่อนข้างซับซ้อน อาจต้องทำความเข้าใจสักพัก อีกทั้งอะไหล่บางตัวก็ออกแบบมาเพื่อ Audi A8 โดยเฉพาะ ทำให้เมื่อต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่อาจต้องใช้เวลานาน

Audi A8 ให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 11.6 กิโลเมตร/ลิตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเมื่อขับขี่ในเมืองอยู่ที่ 9.0 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเมื่อขับขี่นอกเมืองอยู่ที่ 13.8 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของ Audi A8 อยู่ที่ 197 กรัม/กิโลเมตร

การออกแบบภายนอก Audi A8 L เน้นความหรูหราพรีเมียมด้วยชุดตกแต่งภายนอกโครเมียม กระจังหน้าใหม่แบบลายทาง โดดเด่นด้วยโลโก้ 4 ห่วงคล้องกันอันเป็นสัญลักษณ์ของ Audi ไฟหน้าโฉบเฉี่ยว ดุดัน ไฟหน้าเป็นแบบ LED ในรุ่น Premium ส่วนรุ่น Prestige เป็น HD Matrix LED ทั้งสองรุ่นมาพร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ที่มีหลอดไฟ LED ข้างละ 84 ดวง ควบคุมการทำงานอิสระ ปรับไฟสูงและเปิดปิดอัตโนมัติตามสภาพการใช้งาน มาพร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED นอกจากนี้ Audi A8 ยังมีกระจกมองข้างแบบตัดแสงอัตโนมัติที่สามารถปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า ทำให้การขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น

Audi A8 ติดตั้งไฟท้าย OLED ทรงยาว มีหลอด LED จำนวน 135 ยูนิตต่อข้าง ที่ประกอบด้วย ไฟหรี่ ไฟถอย ไฟตัดหมอก ไฟเบรกและไฟเลี้ยว พร้อมไฟกระพริบฉุกเฉินเมื่อต้องเบรกกะทันหัน ขอบฝากระโปรงท้ายเชื่อมต่อกับแนวเสาหลัง ฝาท้ายไฟฟ้ามีเซนเซอร์ที่เพียงใช้เท้ากวาดก็จะเปิดออกแบบอัตโนมัติ ใช้การกดปุ่มเปิดก็ได้ไม่มีปัญหา ตัวรถออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เสริมความหรูสปอร์ตด้วยหลังคาพาโนรามิคที่เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนด้านล่าง Audi A8 เป็นล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว

ห้องโดยสารภายใน Audi A8 เน้นความเรียบหรู ตามสไตล์รถพรีเมียม วัสดุคุณภาพดี ผลิตแบบแฮนด์เมด ภายในมาพร้อมเบาะหุ้มหนังที่สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันให้ความสะดวกสบายในทุกตำแหน่ง เบาะหลังออกแบบแยกอิสระ ที่มีระบบนวดและคอนโซลกลางระดับเฟิร์สคลาส

Audi A8 มีการปรับเปลี่ยนปุ่มฟังก์ชั่นการใช้งานสู่ระบบ Audi Touch Response ที่เป็นชุดระบบควบคุมการทำงานแบบดิจิทัลทั้งหมด ที่สามารถควบคุมระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ ระบบปรับอากาศ รวมไปถึงมาตรวัดรอบต่างๆ โดยสามารถสั่งงานผ่านจอแสดงข้อมูลการขับผ่าน Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว มีการติดตั้งระบบ MMI Navigator plus MMI touch response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว Audi A8 สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมรองรับ DVD, CD และ MP3 ที่จอแสดงผลบริเวณคอนโซลหน้า และสามารถเชื่อมต่อ USB ได้อีกด้วย ทั้งยังมีจอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว ที่ช่วยตอบสนองการสั่งงานได้อย่างง่ายดาย

Audi A8 ยังเพิ่มความหรูด้วยระบบความบันเทิงแยกส่วนสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง มีจอมอนิเตอร์ขนาด 10.1 นิ้วพร้อมหน่วยความจำ 32 GB มีรีโมทคอนโทรลมัลติฟังก์ชั่นที่มาพร้อมจอทัชสกรีนขนาด 5.7 นิ้ว ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถควบคุมฟังก์ชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย

• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
• ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
• ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
• ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist)
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system)
• ระบบควบคุมการทรงตัว ESC
• เซ็นเซอร์หน้า หลัง และด้านข้างช่วยในการนำรถเข้าจอด
• กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก

• เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่
• เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบระบบระบายอากาศและระบบนวด
• ไฟอ่านหนังสือแบบ Matrix LED
• เบาะนั่งด้านหลังแยกอิสระ พร้อมคอนโซลกลางแบบเฟิร์สคลาส
• รีโมทคอนโทรลมัลติฟังก์ชั่น พร้อมจอสัมผัสขนาด 5.7 นิ้ว
• ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 4 โซน
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบก้านคู่ พร้อมระบบ Paddle Shift
• ระบบควบคุมความเร็วคงท่ี (Cruise control)
• ระบบช่วยผ่อนแรงเมื่อปิดประตู
• กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ