คู่มือเที่ยวสิงคโปร์ อัปเดต แนะนำที่เที่ยว ที่กิน คำนวณงบ รู้ครบจบในที่เดียว!

Nok Srihong
ผู้เขียน: Nok Srihong Published: August 24, 2022
Nok Srihong
Nok Srihong
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คะน้าใบเขียว
แก้ไขโดย: คะน้าใบเขียว Last edited: June 5, 2024
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
Nok Srihong
ตรวจทาน: Nok Srihong Last edited: July 22, 2024
Nok Srihong
Nok Srihong
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เที่ยวสิงคโปร์

สิงคโปร์กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวไทยแล้ว! สำหรับใครที่รอเที่ยวต่างประเทศมานาน รีบเก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปเที่ยวกันได้เลย แต่สำหรับใครที่ยังหาข้อมูลอยู่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในสิงคโปร์ดี มีเมนูอะไรที่ต้องไปลองกินบ้าง ควรใช้งบประมาณเท่าไหร่ ไปเที่ยวสิงคโปร์เดือนไหนดี Ribbit Care ได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาไว้ให้ทุกคนแล้ว 

เปรียบเทียบบัตรเครดิตที่ใช่ ง่ายๆ แค่ 30 วิ คลิกเลย!
icon angle up or down

สามารถเลือกได้มากกว่า 1 ข้อ

เด็กจบใหม่ รักการท่องเที่ยว รักการช้อปปิ้ง รักความหรูหรา รักสุขภาพ รักการกิน
  

ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวสิงคโปร์

  1. นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางมาสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัวและไม่ต้องตรวจ ATK
  2. นักท่องเที่ยวต้องขอหลักฐานการได้รับวัคซีนและอัปโหลดเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนก่อนการเดินทาง (คนไทยสามารถขอผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมได้โดยใช้เวลาประมาณ 3 วัน)
  3. นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียน SG Arrival Card และ Health Declaration ทางออนไลน์ภายใน 3 วัน ก่อนการเดินทาง (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
  4. นักท่องเที่ยวไทยสามารถอยู่ในประเทศสิงคโปร์ได้ 30 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า
  5. ในขณะนี้ประเทศสิงคโปร์ไม่มีการบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้ง แต่ยังต้องใส่หน้ากากอนามัยหากอยู่ในโรงพยาบาล รถขนส่งสาธารณะ และเครื่องบิน
  6. สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย สามารถเดินทางกลับเข้าไทยได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass แล้ว

แนะนำที่เที่ยวสิงคโปร์ มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง?

ที่เที่ยวสิงคโปร์สำหรับคนเที่ยวครั้งแรก ถ้าไม่มาถือว่ายังมาไม่ถึง!

1. สิงโตพ่นน้ำ Merlion

เมอร์ไลออน

มาเที่ยวสิงคโปร์ทั้งทีก็ต้องไปดูสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ซะหน่อย สิงโตพ่นน้ำหรือ Merlion ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ จะตั้งยู่ที่สวน Merlion Park ที่อ่าวมารีน่า นอกจากนี้ ผู้ที่ไปเยี่ยมชมสามารถดูการแสดงแสงสีเสียงในช่วงค่ำได้อีกด้วย โดยการแสดงจะเริ่มเวลา 20.00 น. และ 21.00 น. ในวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์และวันเสาร์จะเริ่มเวลา 20.00 น. 21.00 น. และ 22.00 น. 

ค่าเข้า Merlion Park: ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอดเวลา

2. ตึกเรือ Marina Bay Sands

ตึกเรือ

ตึกเรือ Marina Bay Sands เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กที่คนมาเที่ยวสิงคโปร์จะพลาดไม่ได้ ลักษณะของตึกมีรูปร่างเหมือนเรือขนาดใหญ่ด้านบน โดยภายในมีทั้งโรงแรม ห้าง คาสิโน ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ สระว่ายน้ำลอยฟ้า และบริเวณดาดฟ้ายังมี SkyPark​​ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ 

ค่าเข้า SkyPark: ผู้ใหญ่ 26 ดอลลาร์สิงคโปร์ / ผู้สูงอายุและเด็ก 22 ดอลลาร์สิงคโปร์

เวลาเปิด-ปิด: 11.00-21.00 น. 

3. สวน Garden by the Bay

การ์เด้น บาย เดอะ เบย์

ถ้ามาถึงอ่าวมารีน่าแล้ว อีกที่หนึ่งที่ต้องไปให้ได้ก็คือสวน Garden by the Bay ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่มากที่แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซน Flower Dome ซึ่งมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก โซน Cloud Forest Dome ซึ่งจำลองป่าดิบชื้นและมีน้ำตกขนาดใหญ่ และโซน Supertree Grove ซึ่งมีการแสดงแสงสีเสียงในช่วงกลางคืน เวลา 19.45 น. และ 20.45 น.

ค่าเข้า Garden by the Bay: ฟรี (ยกเว้นโซน Cloud Forest, Flower Dome และ OCBC Skyway ที่มีค่าใช้จ่าย)

เวลาเปิด-ปิด: 05.00-02.00 น.

4. สวนสนุก Universal Studio

ยูนิเวอร์แซล สิงคโปร์

สวนสนุก Universal Studio ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซาและเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสิงคโปร์ที่ห้ามพลาด โดยมีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นได้หลายโซน เช่น TRANSFORMERS The Ride: The Ultimate 3D Battle, Ancient Egypt, Shrek 4D Adventure, Jurassic Park และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงโซนใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป นั่นก็คือ Minion Land นั่นเอง

ค่าเข้า Universal Studio: 61 ดอลลาร์สิงคโปร์

เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร 11.00-18.00 น.

5. ห้าง Jewel Changi Airport

Jewel Changi Airport

ถ้าใครตั้งใจจะไปเที่ยวสิงคโปร์โดยเครื่องบินอยู่แล้ว ห้าง Jewel Changi Airport ที่อยู่ติดกับสนามบินชางงีก็เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กของสิงคโปร์ที่ต้องแวะ ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ Rain Vortex หรือน้ำตกในอาคารที่มีความสูงกว่า 40 เมตร และ Forest Valley สวนป่าเขียวชอุ่มที่มีต้นไม้มากกว่า 2,000 ต้น นอกจากนี้ ชั้นบนยังมี Sky Nets ตาข่ายสูงที่ขึ้นไปเดินเล่นได้

ค่าเข้า: ฟรี

เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอดเวลา

ที่เที่ยวสิงคโปร์สำหรับสายถ่ายรูป มีมุมไหนบ้างที่ต้องมาโดน

1. เขื่อน Marina Barrage

มุมถ่ายรูปเขื่อนมารีน่า

Marina Barrage คือเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับปากอ่าวมารีน่า ซึ่งบริเวณริมเขื่อนมีพื้นที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย นั่งปิกนิกชมวิวอ่าว และเล่นกีฬาทางน้ำ ช่วงเย็น ๆ สนามหญ้าด้านบนจะเป็นมุมที่เหมาะสำหรับการถ่ายรูปมาก ๆ เพราะจะมีแบ็คดรอปเป็นตึกเรือ Marina Bay Sands สวน Garden by the Bay และชิงช้าสววรค์ Singapore Flyer 

ค่าเข้า: ฟรี

เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอดเวลา

2. สระบัว Water Lily Pond

มุมถ่ายรูปสระบัวสิงคโปร์

สำหรับใครที่อยากได้รูปตึก Marina Bay Sands และสวน Garden by the Bay ในมุมที่แปลกใหม่อีกมุมหนึ่ง ต้องไม่พลาดโซนสระบัว Water Lily Pond ในสวน Garden by the Bay ตรงนี้จะมีก้อนหินที่ขึ้นไปยืนถ่ายรูปได้ แล้วก็จะได้ฉากหลังเป็นสระดอกบัวที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ รวมถึงตึก Marina Bay Sands และ Supertree Grove สีสันสดใส

ค่าเข้า: ฟรี

เวลาเปิด-ปิด: 05.00-02.00 น.

3. สวน Fort Canning Park

มุมถ่ายรูปอุโมงค์ต้น

สวน Fort Canning Park เป็นที่ตั้งของอุโมงค์ต้นไม้ขวัญใจช่างภาพพรีเวดดิ้งและสายถ่ายรูป มุมนี้เรียกได้ว่าเป็นมุมบังคับที่โด่งดังมากจนขนาดช่างภาพมืออาชีพยังต้องมา ส่วนการเดินทางก็ไปไม่ยาก เพียงแค่เดินมาจากสถานีรถไฟฟ้า Dhoby Ghaut ก็ถึงแล้ว

ค่าเข้า: ฟรี

เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอดเวลา

4. อาคาร Ministry of Communications & Information (MCI) 

มุมถ่ายรูปตึกสีรุ้ง

อีกที่หนึ่งที่อยู่ใกล้กับอุโมงค์ต้นไม้ก็คืออาคาร MCI ซึ่งเป็นอาคารสีขาวที่มีการทาสีหน้าต่างไล่สีรุ้งสดใส สำหรับใครที่มองหามุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่สิงคโปร์ มุมนี้ก็เป็นอีกมุมที่สวยทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน โดยในช่วงกลางวันก็จะเห็นสีหน้าต่างแบบชัด ๆ และตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟหลากสีให้สวยไปอีกแบบ

ค่าเข้า: ฟรี

เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอดเวลา

5. พิพิธภัณฑ์ Art Science Museum

มุมถ่ายรูป art science museum

พิพิธภัณฑ์ Art Science Museum ก็เป็นอีกที่ที่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ๆ ตั้งแต่อาคารด้านนอกที่มีรูปทรงแปลกตา ไปจนถึงนิทรรศการด้านในที่มีมุมบังคับอยู่ในส่วน Crystal Universe ที่ล้อมรอบไปด้วยไฟ LED กว่า 170,000 ดวง ถ่ายรูปออกมาแล้วได้ฟีลเหมือนอยู่ในหนัง Sci-fi เลย

ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 50 ดอลลาร์สิงคโปร์ / เด็กและผู้สูงอายุ 38 ดอลลาร์สิงคโปร์

เวลาเปิด-ปิด: 10.00-19.00 น. 

ที่เที่ยวสิงคโปร์สำหรับสายกิน ย่านไหนมีอะไรเด็ดบ้าง

1. ศูนย์อาหาร Hawker Center ทุกแห่งในสิงคโปร์

ถ้าใครมาเที่ยวสิงคโปร์แล้วอยากลองชิมสตรีทฟู้ดอร่อยๆ สไตล์โลคอล ก็ไปลองกันได้ที่ศูนย์อาหาร Hawker Center ที่มีอยู่ทั่วไปในสิงคโปร์ ซึ่งที่นี่จะเป็นศูนย์รวมอาหารราคาประหยัดจากหลายเชื้อชาติ ทั้งอาหารจีน มาเลย์ อินเดีย รวมถึงของกินเล่นมากมาย ศูนย์อาหารที่แนะนำได้แก่ ศูนย์อาหาร Lau Pa Sat ที่มีเมนูเด็ดคือสะเต๊ะไก่ เนื้อวัว และกุ้ง และศูนย์อาหาร Newton Food Center ที่มีเมนูเด็ดคือปูผัดพริกที่ร้าน Alliance Seafood 

2. ย่านไชน่าทาวน์ (China Town)

ย่านไชน่าทาวน์ของสิงคโปร์ก็เป็นอีกย่านหนึ่งที่มีของกินอร่อยเยอะมาก ๆ ทั้งร้านข้าวมันไก่ Tian Tian Chicken Rice ร้านบะกุดเต๋ Song Fah ร้านลักซา Sungei Road Trishaw และร้านขนมปังสังขยา Ya Kun Kaya Toast รับรองว่าเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้ ตะลุยกินได้ทั้งวันแน่นอน 

3. ย่านคลาร์กคีย์ (Clarke Quay)

ย่านคลาร์กคีย์เป็นแหล่งรวมที่เที่ยวกลางคืนและร้านอาหารหรูบรรยากาศดี ๆ หลายร้าน ซึ่งร้านอาหารที่แนะนำได้แก่ร้าน Red House Seafood และร้าน Jumbo Seafood Riverside Point สำหรับใครที่อยากหาร้านนั่งชิวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จก็มีร้านดังอย่าง Chupitos Shots Bar ที่มีเครื่องดื่มแปลกใหม่ให้ลอง รวมถึง The​Bungy Bar และ Crazy Elephant ที่มีดนตรีสดให้ฟังสบาย ๆ

4. ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

สำหรับใครที่ชอบอาหารอินเดีย ต้องไปลองอาหารอินเดียสูตรดั้งเดิมที่ย่านนี้ โดยอาจจะไปที่ตลาด Tekka Center ที่มีแผงขายอาหารและร้านรวงต่าง ๆ ให้เลือกช็อปได้ หรือจะไปที่ร้าน The Banana Leaf Apolo เพื่อลองเมนูเด็ดอย่างแกงกะหรี่หัวปลาและข้าวหมกก็ได้

5. ย่านบูกิสและกัมปง กีลาม (Bugis, Kampong Glam) 

ถึงแม้ว่าย่านบูกิสและกัมปง กีลามจะมีจุดเด่นอยู่ที่ตรอกฮาจิและมัสยิดสุลต่าน แต่ร้านอาหารของย่านนี้โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยมีทั้งอาหารฮาลาลและอาหารตะวันออกกลาง ไปจนถึงคาเฟ่และบาร์เก๋ ๆ อีกด้วย สำหรับใครที่ไปเที่ยวสิงคโปร์แล้วแวะไปแถวนี้ต้องลองโรตีมะตะบะที่ Zam Zam Restaurant แล้วไปจิบกาแฟกินครัวซองต่อที่ Mother Dough หรือจะไปฟังดนตรีแจ๊สที่ Blu Jaz Cafe ก็ได้

เดินทางในสิงคโปร์อย่างไรดี?

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีมาก และเราสามารถเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ได้ทั่วเกาะด้วยรถไฟฟ้า MRT และรถบัส นอกจากนี้ การจ่ายค่าโดยสารก็ยังสะดวกมาก เพราะสามารถใช้ได้ทั้งบัตรเครดิต บัตร EZ-link และบัตร Singapore Tourist Pass (STP) 

สำหรับบัตรเครดิตจะใช้ได้เฉพาะ Visa และ Mastercard เท่านั้น (และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม) ส่วนบัตร EZ-link จะเป็นบัตรโดยสารที่เราต้องเติมเงินเข้าไปก่อน แล้วจะใช้จ่ายค่าโดยสารและซื้อสินค้าในร้านบางร้านได้ สำหรับใครที่ตั้งใจจะไปหลาย ๆ ที่ อาจใช้บัตร Singapore Tourist Pass (STP) ที่เป็นบัตรแบบเหมาจ่ายรายวันสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะได้ โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบ 1 วัน (10 ดอลลาร์สิงคโปร์) 2 วัน  (16 ดอลลาร์สิงคโปร์) และ 3 วัน (20 ดอลลาร์สิงคโปร์)

ไปเที่ยวสิงคโปร์งบเท่าไหร่ดี?

สำหรับการคำนวณงบว่าเที่ยวสิงคโปร์ 2023 ต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่ ก็จะขึ้นอยู่กับว่าเราอยากเที่ยวสายไหน โดยในบทความนี้เราจะแบ่งการคำนวณงบเป็น 3 สายด้วยกัน และแบ่งค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ออกมาเป็น 4 ก้อน นั่นก็คือค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าอาหาร และค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวหรือกิจกรรมต่าง ๆ มาดูกันเลยว่าแต่ละสายจะใช้งบเท่าไหร่กันบ้าง

งบเที่ยวสิงคโปร์สายประหยัด

สำหรับคนที่อยากเที่ยวสิงคโปร์แบบประหยัด อันดับแรกก็คือควรจำกัดงบด้วยการนั่งสายการบิน Low-cost และถ้าเป็นไปได้ก็ควรจองตั๋วในช่วงโปร ซึ่งจะทำให้ค่าเครื่องตกอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 บาท ส่วนโรงแรม ถ้าเราเลือกโรงแรมแบบโฮสเทล ค่าใช้จ่ายก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคนต่อคืน ค่าอาหารการกินถ้ากินแบบประหยัดตามร้านง่าย ๆ ก็จะตกอยู่ประมาณมื้อละ 100-200 บาท สำหรับค่าเที่ยว ถ้าเน้นเที่ยวตามสถานที่ที่ไม่เสียค่าเข้า ซึ่งในสิงคโปร์ถือว่ามีเยอะพอสมควร ก็จะประหยัดเงินส่วนนี้ไปได้มาก

ดังนั้น สำหรับทริปเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืนแบบประหยัดก็จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 6,000-9,000 บาท

งบเที่ยวสิงคโปร์สายกลาง ๆ

สำหรับใครที่อยากจะเที่ยวแบบสบาย ๆ ขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะจองเที่ยวบิน Premium Economy ราคาไป-กลับก็จะอยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 บาท ส่วนโรงแรม ถ้าเราเลือกพักโรงแรม 3-4 ดาว ราคาก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาทต่อคนต่อคืน ค่าอาหารถ้าอัปเกรดขึ้นมาหน่อยก็จะตกอยู่ประมาณมื้อละ 500-1,000 บาท สำหรับค่าเที่ยว ถ้าไป Universal Studio สักวันหนึ่ง ไปเดินเล่นพิพิธภัณฑ์ Art Science Museum อีกนิดหน่อย ก็จะเสียค่าเข้าประมาณ 1,700 บาท

ดังนั้น สำหรับทริปเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืนแบบสบายกลาง ๆ ก็จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 22,000-36,000 บาท

งบเที่ยวสิงคโปร์สายหรูหรา

มาดูทางสายหรูหรากันบ้าง สำหรับคนที่คิดว่าจะเที่ยวทั้งทีต้องไปให้ไปสุด ต้องการสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิต ก็มาเริ่มด้วยการนั่งเที่ยวบิน Businees Class กันไปเลย ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 23,000-35,000 บาท ส่วนโรงแรมก็พักโรงแรม 5 ดาว อย่าง Marina Bay Sands หรือ The Ritz-Carlton ราคาก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อคนต่อคืน ค่าอาหารถ้าต้องการกินแบบไม่ยั้ง ทั้งอาหารทะเลที่ร้าน Jumbo Seafood ไปจนถึงร้าน Fine Dining มิชลินสตาร์ 3 ดาว ค่าใช้จ่ายก็อาจจะเฉลี่ยอยู่ที่มื้อละ 3,000-7,000 บาท สำหรับค่าเที่ยว ถ้าจะไป Universal Studio แบบ VIP แล้วไปดินเนอร์บนชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer ก็จะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 12,000 บาท

ดังนั้น สำหรับทริปเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืนแบบหรูสุด ๆ ก็จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 80,000-120,000 บาท!

ไปเที่ยวสิงคโปร์เดือนไหนดี?

เดือนที่น่าเที่ยวที่สุดจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน เพราะจะมีฝนตกน้อยที่สุด ประเทศสิงคโปร์มีลักษณะเป็นเกาะอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร สภาพอากาศก็จะร้อนชื้นคล้ายกับภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีฝนตกมากเกือบทั้งปีและมีอุณภูมิเฉลี่ยในแต่ละเดือนพอ ๆ กัน

แต่สำหรับใครที่กลัวร้อนอาจเลือกไปช่วงเดือนธันวาคมและมกราคมที่อากาศเย็นกว่าแทนก็ได้ แต่ช่วงนี้ฝนจะตกมากเป็นพิเศษ ช่วงที่ไม่น่าเที่ยวที่สุดจะเป็นช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน เพราะอาจพบหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าของประเทศอินโดนีเซียพัดมาปกคลุม 

หวังว่าทุกคนคงจะได้ไอเดียคร่าว ๆ สำหรับทริปเที่ยวสิงคโปร์ กันแล้ว จะไปเที่ยวต่างประเทศทั้งที อย่าลืมหาบัตรเครดิตคุ้ม ๆ สักใบติดตัวไปด้วย จะได้ไม่พลาดสิทธิ์ประโยชน์ดีดีอย่างการแลกไมล์ การจองโรงแรมในราคาพิเศษ การรับคะแนนพิเศษเมื่อใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศ และอื่น ๆ อีกมากมาย


บทความแนะนำอื่นๆ : ท่องเที่ยว

อัปเดต 10 ที่เที่ยวหน้าหนาว ทั่วไทย ไม่ไปไม่ได้แล้ว ที่เที่ยวธรรมชาติที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงในโลกทั้ง 10 ที่ 5 ที่เที่ยวปีใหม่ที่ห้ามพลาดในกรุงเทพฯ สนามกอล์ฟราคาดี เดินทางง่าย 5 แห่งแนะนำเลย 5 สถานที่ห้ามพลาดเมื่อไป เที่ยวโอซาก้า หน้าฝนนี้ต้องจัด! กับ 9 สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณห้ามพลาด พาไปลุย ภูสอยดาว แบบสายลุย ตั้งเต็นท์ + รูปถ่ายสวย 4 พิกัด ตามล่าหาแสงเหนือ ฉบับปี 2019 เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง มีที่ไหนน่าไป น่าเช็คอินบ้าง มาดูเลย รวมทริปเที่ยวคนเดียว สำหรับมือใหม่ ห้ามพลาด ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2566 บรรยากาศดี เที่ยวแดนมังกร พาทัวร์จีน ธรรมชาติสวย ทัวร์ประวัติศาสตร์ วิธีไปเกาะล้าน ไปยังไงดี? แบบไหนง่ายสุด? สัมผัสธรรมชาติ กับที่เที่ยวเกาหลีใต้ ที่จะไม่รู้ลืม คู่มือเที่ยวมัลดีฟส์ รวมกิจกรรม ที่เที่ยว งบ จบในที่เดียว ห้ามพลาด! แนะนำ 6 ที่เที่ยวหน้าฝน ไหว้วัดเล่งเน่ยยี่ยังไงให้ชีวิตปัง!

บทความแคร์ไลฟ์สไตล์

Rabbit Care Blog Image 101572

แคร์ไลฟ์สไตล์

เปิดประตูสู่แดนมังกร คู่มือฉบับสมบูรณ์ ฟรีวีซ่าจีน สำหรับคนไทย

การเดินทางสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ดินแดนที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความล้ำสมัย
Nok Srihong
26/05/2025
Rabbit Care Blog Image 99827

แคร์ไลฟ์สไตล์

สุดยอดไอเดียของขวัญออกรถใหม่ สร้างความประทับใจและความเป็นสิริมงคลให้รถคันโปรด

การออกรถใหม่ถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิตของใครหลายคน เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ ความมุ่งมั่น และอิสระในการเดินทาง
Natthamon
13/03/2025
Rabbit Care Blog Image 99136

แคร์ไลฟ์สไตล์

รวมที่จอดรถ mrt และอาคารจอดแล้วจร มีตรงไหนบ้าง? เช็กได้เลย!!

ถึงแม้ในปัจจุบันหลายคนจะมีรถยนต์เป็นของตัวเอง แต่ในเวลาเดินทางจริงต้องเลือกใช้บริการที่จอดรถ mrt หรือลานจอดรถ mrt
Natthamon
17/01/2025