คัดมาให้แล้ว เปิดแผนที่…ตามล่าหาแสงเหนือปลายปี 2562
สำหรับคนที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจว่ากันว่า…ในชีวิตนี้ต้องได้เห็นแสงเหนือกับตาตัวเองสักครั้ง แสงเหนือหรือปรากฏการณ์ Aurora เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในแถบขั้วโลกเหนือ โดยมีลักษณะเป็นแสงเรือง ๆ บนท้องฟ้าในยามกลางคืน เราสามารถชมปรากฏการณ์แสงเหนือนี้ได้เฉพาะในประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือเท่านั้น แถมยังต้องวัดดวงกับสภาพอากาศให้เป็นใจในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไร้เมฆ และแสงรบกวนจากรอบข้าง เรียกว่าต้องไปให้ถูกที่ถูกเวลานั่นเอง เดินทางไปตั้งไกลเราเลยไม่อยากให้เสียเที่ยว Klook รวบรวมเมืองแห่งแสงเหนือมาไว้บนแผนที่ เอาแบบว่าไปแล้วจะได้เห็นแสงเหนือแน่ ๆ (ถ้าคุณโชคดี)
- ไอซ์แลนด์
จุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักล่าแสงเหนือ โดยเมืองที่เรารู้จักกันดีว่ามีโอกาสเห็นแสงเหนือก็คือ Reykjavík เนื่องจากในช่วงฤดูหนาว เมืองเรคยาวิคทั้งเมืองจะมืดมิดไร้แสงอาทิตย์ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง จึงทำมีโอกาสเห็นแสงเหนือมากขึ้น แต่ถ้าหากคุณเป็นสายลุยละก็ เราแนะนำให้ไปตั้งแคมป์ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ เพราะแถบนั้นมีกลางคืนยาวนานถึง 22 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว นึกถึงการตั้งแคมป์กลางหิมะ นอนดูแสงเหนือใต้ท้องฟ้าท่ามกลางหมู่ดาว หรือจะออกทริปล่องเรือชมแสงเหนือก็โรแมนติกไปอีกแบบ
แต่ถ้าคุณกลัวเหงา อยากมีเพื่อน เราขอแนะนำทัวร์ล่าแสงเหนือแบบพรีเมี่ยม ทัวร์ที่จะทำให้คุณได้พบปะกับผู้มีอุดมการณ์เดียวกันกับเพื่อน แลกเปลี่ยนประสบการณ์รวมไปถึงร่วมเดินทางไปพร้อมกับไกด์ที่มีความรู้และความชำนาญในพื้นที่และนักล่าแสงเหนือมืออาชีพ
ช่วงเวลา: เดือนกันยายน – เมษายน
- สวีเดน
ทางตอนเหนือของประเทศสวีเดนมีเมืองหนึ่งที่เป็นที่นิยมของผู้ที่ต้องการไปตามหาแสงเหนือ ชื่อของเมืองนั้นคือ Kiruna ซึ่งอยู่ใกล้ทั้งทะเลสาบและอุทยานแห่งชาติ Abisko วิวที่ได้จากการชมแสงเหนือท่ามกลางธรรมชาติที่นี่จึงสวยงามและมีความยูนีคสุด ๆ ส่วนคนที่อยากสัมผัสความหนาวแบบเต็มที่ก็ไปเช็กอินได้ที่ ice hotel โรงแรมที่ทุก ๆ อย่างทำจากน้ำแข็ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคิรูน่าเพียง 20 นาทีเท่านั้น หรือจะไปนั่งจิบชิล ๆ ที่ ice bar บนเก้าอี้น้ำแข็งเย็นจับใจ รับรองว่านี่จะเป็นประสบการณ์ล่าแสงเหนือที่คุณประทับใจไม่รู้ลืม
ช่วงเวลา: เดือนกันยายน – มีนาคม
- นอร์เวย์
ประเทศที่นักล่าแสงเหนือชาวไทยนิยมไปอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากเดินทางง่ายและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทิวเขาสลับกับท้องทะเลและบ้านไม้สีสดใสสไตล์นอร์เวย์ โดยเมืองที่นิยมไปชมแสงเหนือกันมากที่สุด ได้แก่ Lofoten หมู่เกาะทางตอนเหนือของนอร์เวย์ และ Tromsø เมืองอันแสนสงบทางตอนเหนือของประเทศที่มีวิวทิวทัศน์เป็นป่าหิมะสีขาว บางโรงแรมมีบริการบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งไว้แช่ตัวให้อุ่นฟิน ๆ สู้กับความหนาวเหน็บตอนหิมะโปรยปราย ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์สุดฟินแบบนี้ก็จองตั๋วไปนอร์เวย์กันได้เลย
ให้คุณสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ชมแสงเหนือแบบที่คุณต้องประทับใจไม่รู้ลืมด้วยทัวร์ชมแคมป์แสงเหนือและขี่รถลากเลื่อนโดยสุนัขอลาสกันฮัสกี้ 2 วัน 1 คืน ค้างคืนในเต้นท์ของชาวซามิ นอนบนหนังเรนเดียร์สุดนุ่ม อิ่มอร่อยไปกับอาหารแบบต้นฉบับสไตล์นอร์เวย์
ช่วงเวลา: เดือนกันยายน – มีนาคม
- ฟินแลนด์
ฟินแลนด์ ดินแดนแห่งซานตาคลอสก็ทำให้ให้คุณทึ่งได้กับธรรมชาติอันสวยงาม โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่ Lapland นั้นทั้งสวยทั้งหนาวแถมดูแสงเหนือสวย ๆ อีกต่างหาก และวิธีที่ดีที่สุดในการล่าแสงเหนือที่ฟินแลนก์ก็คือการเช่ารถขับ หากใครไม่มั่นใจที่จะขับรถเองก็สามารถใช้บริการทัวร์ได้เช่นกัน ส่วนเส้นทางโร้ดทริปที่คนฟินแลนด์โหวตมาแล้วว่าสวยงามควรค่าแก่การขับรถไปชมวิวเคล้าแสงเหนือก็คือถนนสาย 970 วิ่งเลียบแม่น้ำระหว่างเมือง Karigasniemi และ Nuorgam หมู่บ้านทางตอนเหนือของฟินแลนด์ โดยมีระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ขับชมวิวหิมะสวย ๆ พร้อมลุ้นให้ท้องฟ้าเปิด อากาศเป็นใจ คุณจะได้เห็นแสงเหนือเต้นระบำบนท้องฟ้าอย่างแน่นอน
ช่วงเวลา: เดือนกันยายน – มีนาคม
ก่อนไปล่าแสงเหนืออย่าลืมดูพยากรณ์แสงเหนือกันก่อนที่ http://www.aurora-service.eu/aurora-forecast/ โดยเช็กจากความหนาแน่นของเมฆและค่า kp ยิ่งค่า kp สูงและท้องฟ้าไร้เมฆ โอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือนั้นมีสูงมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามพยากรณ์แสงเหนือจะให้ผลที่ชัดเจนล่วงหน้าเพียง 2 วันเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องอาศัยความดวงดีไปวัดกันที่หน้างานอีกที! และที่สำคัญ จะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศยุโรปทั้งที อย่าลืม! ทำการสั่งบัตรโดยสารรถไฟยุโรป เพื่อให้คุณเดินทางท่องเที่ยวภายในยุโรปได้อย่างไม่จำกัด และช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในทริปยุโรปของคุณอีกด้วย!
สนใจทำประกันการเดินทางกับ Rabbit Care
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี