ภูสอยดาว ฉบับคนรักเที่ยวแต่งบไม่เป็นใจ
![close](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2023/11/close-icon-25.png?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&fit=scale&h=30&q=95&w=30)
![Facebook icon](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2024/02/icon-sc-fb.png)
![IG icon](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2024/02/icon-sc-ig.png)
![linkedin icon](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2024/02/icon-sc-linkln.png)
![Youtube icon](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2024/02/icon-sc-youtube.png)
![ภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2023/08/phu-soi-dao-1.png?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&fit=scale&h=548&q=50&w=730)
ประเทศไทยเข้าสู่หน้าหนาวเต็มตัวเเล้ว แต่เอ๊ะทำไมยังรู้สึกไม่หนาวสักที อยากสัมผัสอากาศหนาวอะ เอาอย่างนี้ Rabbit Care มีที่เที่ยวที่จะทำให้คุณฟินกับอากาศหนาว แม้ไม่ต้องไปถึงเชียงใหม่ เพราะเราจะพาคุณไป ภูสอยดาว
เมื่อไม่นานมานี้ Rabbit Care ได้ขึ้นไปพิชิตมาแล้ว บอกเลยไม่ใช่เล่นๆ ก็ภูสอยดาวเนี่ยถือเป็นยอดเขาสูงอันดับ 4 ในประเทศไทย เชียวนะ ได้ยินแบบนี้ทำหลายคนถอดใจแล้วใช่ไหม แต่จริงๆ มันไม่ได้ยากเลย เดี๋ยว Rabbit Care จะเป็นไกด์พาเที่ยวให้เอง
![พิชิตภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2023/08/phu-soi-dao.png?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
เริ่มต้นเดินทางไปพิชิต ภูสอยดาว ฉบับคนรักเที่ยวแต่งบไม่เป็นใจ
บอกไว้ก่อนเลย ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะความอยากเที่ยวล้วนๆ ติดตรงที่งบมันมีจำกัดนี่สิ แต่ไม่ได้เราต้องทำตามเสียงหัวใจ ยังไงก็ต้องไปหาเพื่อน แพลนทริป ฟิตร่างกาย จัดไป 3 วัน 2 คืน พร้อมลุย!
ด้วยความที่งบน้อยเราเลือกที่จะนั่งรถไฟจากสถานีกรุงเทพฯ ไปลงสถานีพิษณุโลก นั่งรถไฟชั้น 3 ขบวนที่ 51 ออกจากกรุงเทพฯ 22.00 น. ถึงพิษณุโลก 04.37 น. (เวลาอาจจะไม่แน่นอน) เรานัดพี่เก่ง คนขับรถสองแถวที่จะพาไปส่งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตอนตี 5
![](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/f00020a4-21.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
และแล้วพี่เก่งก็มา จากสถานีพิษณุโลกไปอุทยานแห่งชาติภูสอบดาว ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หลับยาวๆ ไปเลย แต่ระหว่างทางพี่เก่งจะแวะ ตลาดชาติตระการ ซื้อเสบียงระหว่างขึ้นภู แล้วก็เตรียมเสบียงไว้อยู่ข้างบน 3 วัน 2 คืน ทริปนี้เราไปกัน 5 คน เราลงเงินกองกลางกันคนละ 1,200 บาท
เราซื้อทั้งเสบียงของสดของแห้ง แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำดื่ม ข้าวกลางวัน ลูกอม เอาไว้ทานระหว่างเดินขึ้นภู ถ้าไม่มีพวกนี้คือ จบเกม!
เมื่อซื้อเสบียงเสร็จ เราก็นั่งรถพี่เก่งไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงอุทยานประมาณ 9 โมง เติมพลังด้วยข้าวเช้าจากอุทยาน อ๋องานนี้เราไม่จ้างลูกหาบ แบกเสบียง แบกเต็นท์ แบกเองหมด ขึ้นภูแบบมีอรรถรสสุดๆ แต่ถ้าร่างกายใครไม่ฟิตแนะนำจ้างลูกหาบก็ได้
หลังจากเสียค่าเข้าอุทยาน ค่ากางเต็นท์ เรายังต้องเสียค่าขยะ 200 บาท ซึ่งเป็นค่ามัดจำ ถ้าขาลงเราเอาขยะของเราลงมาด้วย เราจะได้ 200 บาท คืน
![น้ำตกภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/e0d31d86-9.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ก้าวแรกของการเดินขึ้น ภูสอยดาว ขุ่นพระฉันมาทำอะไรที่นี่!
ด้วยความบ้าบวกกับความลุย มันไม่ใช่ง่ายๆ เลย ที่จะแบกกระเป๋า 10 กิโล ขึ้นภูสอยดาว ยิ่งภูสอยดาวเป็นยอดเขาสูงอันดับ 4 ของประเทศไทย ความสูง 2,102 เมตร แล้วเส้นทางคือ ชันมาก บางจุดก็มีบันได บางจุดก็ไม่มีต้องใช้มือ ใช้ไม้ค้ำ ปีนขึ้นไป
จากจุดเริ่มต้นไปยังลานสน ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร จะต้องผ่านเนินทั้ง 5 ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง แล้วเนินสุดท้ายคือ เนินมรณะ แค่ชื่อก็ถอดใจแล้วใช่ไหม พอขึ้นจริงๆ เนินส่งญาติ กับเนินมรณะเนี่ยแหละที่หินสุด ชันสุด อยากโยนกระเป๋าที่แบกมาทิ้งไว้กลางทางเลย
![แวะพักระหว่างทางขึ้นภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/9127866d-6.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
![ภูสอยดาวหนื่อยมาก](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/b0a1b3c0-10.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ต้องบอกหเลยว่าเนินส่งญาติคือ ไม่ธรรมดากว่าจะผ่านมาได้เหงื่อแตก เหนื่อยร่างแทบขาด เราเลยแวะกินข้าวเที่ยงเติมพลังสักหน่อย ข้าวเหนียวไก่ย่างช่วยชีวิตได้ดีจริงๆ ให้เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง ถึงจะเป็นทางชันบ้างแต่เดินชิลล์ๆ ได้เลย
ไม่ทันขาดคำ เราก็มาถึงเนินมรณะซะแล้ว แค่ชื่อก็ทำเอาใจสั่น แต่ไม่ได้มันต้องไปต่อจะหันหลังกลับตอนนี้ไม่ได้แล้ว ลุย!
![เนินมรณะภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/09953fac-11.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
เนินปราบเซียนว่ายากแล้ว เนินมรณะคือ ยากกว่าค! แง…เหนื่อยมาก ต้องแวะพักบ่อยๆ แล้วแดดก็ร้อนมาก แต่บอกเลยวิวข้างบนคือที่สุดจริงๆ มองวิวแล้วลืมไปเลยว่าเคยเหนื่อย พร้อมลุยให้ถึงลานสน เดินต่อไม่รอแล้วนะ
![ผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/ff2f5479-4.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ในที่สุดเราก็มาถึงป้าย “ผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว” ด้านบนตอน 16:00 น. ใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง! ถ่ายรูปสักนิด แล้วเดินไปลานสนจุดกางเต็นท์เลย
ด้านบนจะมีจุดกางเต็นท์ มีห้องน้ำแยกชายหญิงแต่จะต้องตักน้ำจากลำธารธรรมชาติ ที่แสนเย็นยะเยือกมาอาบ แล้วก็ด้านบนมีน้ำดื่มจากน้ำฝนด้วย รสชาติไม่แย่ ไม่มีกลิ่น แถมเย็นสดชื่นเหมือนดื่มน้ำเย็นด้วยล่ะ
![วิวพระอาทิตย์ตก ภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/7ea2491d-20.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ถึงเวลากางเต็นท์ เรามาร่วมด้วยช่วยกัน คนละไม้คนละมือ ระหว่างที่พวกเรากำลังยุ่งกับเต็นท์ อยู่ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานวิ่งมาแล้วบอกว่า “ไปดูพระอาทิตย์ตกเร็ว วันก่อนๆ ฝนตกไม่เห็นเลยนะ เพิ่งมีวันนี้” เอ้าพูดขนาดนี้วางเต็นท์เลย รออะไร
![ลานกางเต็นท์บนภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/f9fddfec-12.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
หลังจากดูพระอาทิตย์ตกเราก็รีบมาจัดเต็นท์ต่อ ทำอาหารเย็นแสนอร่อย เช่าเตาถ่าน ซื้อถ่าน ย่างหมูกิน ท่ามกลางอุณหภูมิ 12 องศา ฟินสุด แต่อุณหภูมิขนาดนี้แน่นอนว่า เรื่องอาบน้ำขอยกยอดไปอีกวันก็แล้วกัน ทำใจไม่ได้ที่ต้องโดนน้ำเย็นขนาดนี้~
![ภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/b0a1b3c0-5.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
เที่ยวบนลานสนต่อไม่รอแล้วนะ
หลังจากที่หลับเต็มตื่นแล้ว วันที่ 2 เราจะเที่ยวบนลานสนให้เต็มอิ่มกันเลย ในเดือนพฤศจิกายน อุทยานภูสอยดาว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นยอดภูสอยดาว แต่เราไปเดือนตุลาคมทำให้ส่วนนี้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้น แต่ด้านบนก็มีที่เที่ยวให้เที่ยวเยอะเลย เดี๋ยวเราจะมาแนะนำให้รู้จักเอง
![เที่ยวบนลานสนภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/edaa2045-14.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ลานสนเป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ เป็นที่ราบบนภูสอยดาว ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร มีพันธุ์ไม้ที่เป็นไฮไลท์ประจำที่นี้อย่าง ต้นสนสามใบ ขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ และในช่วงฤดูฝนเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี จะมีดอกหงอนนาคสีม่วงขึ้นให้เห็น ให้นักท่องเที่ยวได้ไปชมกัน
![ดอกหงอนนาก](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/510a3c67-17.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
น้ำตกสายทิพย์
น้ำตกขนาดเล็กบนลานสน มีทั้งสิ้น 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร ด้วยความที่สภาพป่ามีความชุ่มชื้น จึงมีต้นมอสส์สีเขียวขึ้นปกคลุมตามก้อนหิน ทางลงไปดูน้ำตกอาจจะยากสักนิด
![น้ำตกสายทิพย์](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/224b66cd-18.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ตามหาหลักเขตแดนระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เนื่องจากอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพราะฉะนั้นด้านบนจะมีหลักเขตไทยลาวอยู่นั่นเอง แต่ต้องเดินหาหน่อย แล้วอย่าเดินไปฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวล่ะ ไม่งั้นโดนจับไม่รู้ด้วยนะ ว้าย…
ใครอยากไปเที่ยวต่างประเทศเพียงแค่ไม่กี่ก้าวล่ะก็ ตามหาหลักเขตแดนให้เจอล่ะ
![หลักเขตไทย-ลาว ภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/5e23c374-15.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ชมพระอาทิตย์ตกดินสุดฟิน
แม้ลานสนแห่งนี้จะไม่ขึ้นชื่อเรื่องพระอาทิตย์ตก แต่บอกเลยว่าการเฝ้ามองพระอาทิตย์ตกท่ามกลางอากาศเย็นๆ ลมแรงๆ รายล้อมไปด้วยต้นสน มันก็จะฟินหน่อยๆ กระซิบสักนิดแถวๆ ที่ดูพระอาทิตย์มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยนะจ๊ะ
![จุดชมพระอาทิตย์ตกดินสุดฟินภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/4edab417-26.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ตกดึกเงยหน้ามองหาทางช้างเผือก
ลานสนนับเป็นแลนด์มาร์กอันดับต้นๆ ของเหล่าช่างภาพที่มาตามล่าทางช้างเผือก ณ ดอยสอยดาว ที่นี่คือที่สุดของการดูดาวจริง ๆ ท้องฟ้าจำลอง ก็สู้ไม่ได้ เพราะแค่คุณเงยหน้าขึ้นไป คุณก็จะเจอดาวเต็มท้องฟ้าแบบนับไม่ถ้วน แถมยังเห็นทางช้างเผือกอีก นึกว่าฝันไป
![ทางช้างเผือก ภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/087c064d-1.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
วันที่ 3 ของทริป และแล้ววันกลับก็มาถึง ไม่อยากลงดอยสอยดาวเลย แง…บอกลาลานสน บ๊ายบายดอกหงอนนาค ขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานด้านบนที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับเรา
![ทางลงภูสอยดาวลาดชัน](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/1350a9e0-8.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ถึงเวลาลงเราลงมาพร้อมกับขยะจากด้านบนของภูสอยดาว เพื่อนำมาทิ้งข้างล่างเราก็จะได้เงินมัดจำ 200 บาท แล้วรู้ไหม ขาลงเราทำเวลาได้ดีมากๆ ใช้เวลาลงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น! ผิดกับขาขึ้นเลย
เพราะลงมาเร็วเวลาเลยเหลือ เราแวะเล่นน้ำตกสักนิด อาบน้ำ กินข้าวเที่ยง นั่งรถสองแถวพี่เก่งไปที่สถานีรถไฟพิษณุโลก ขึ้นรถไฟขบวน 52 จากสถานีพิษณุโลกลงสถานีกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ครั้งหน้าเราจะมาพิชิตยอดภูสอยดาวอีกรอบแน่นอน
![มาพิชิตยอดภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/9bbfc15f-2.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
![ค่าใช้เจ่ายสำหรับทริปภูสอยดาว](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2018/11/087c064d-24.jpg?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ค่าเสียหายสำหรับทริปภูสอยดาวนี้ ตลอด 3 วัน 2 คืน เราลงเงินกองกลางคนละ 1,200 บาท 5 คนก็ 5,000 ใช้ออกค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าเหมารถสองแถวไปกลับ 3,000 บาท
- ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 x 5 = 200 บาท
- ค่ากางเต็นท์บนลานสนคนละ 30 x 5 = 150 บาท
- ค่าเช่าอุปกรณ์ทำครัว 190 บาท
- ค่าอาหาร ค่าเสบียง ค่าน้ำ ค่าขนม ตลอดทั้งทริป 1,500 บาท
- ค่าอื่นๆ 500 บาท
- ส่วนค่ารถไฟไปกลับรวมแล้ว 398 บาท (ส่วนนี้ต่างคนต่างออก)
รวมค่าเสียหายที่โดนไป 1,598 บาท ตลอดทั้งทริป 3 วัน 2 คืน งบน้อย แต่สนุกสุดขีด ! เราก็เที่ยวได้ แต่ทั้งนี้เราสามารถเลือกทริปได้ว่าจะไปถูกหรือแพง ร่างกายฟิตแพงก็แบกขึ้นไปเองประหยัดค่าลูกหาบ ไม่อยากนั่งรถไฟจะนั่งรถทัวร์ก็ได้ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ซึ่งสำหรับทริภูสอยดาวสายลุยแบบนี้ หากใครอยากเที่ยวแบบสบายใจ ฟินสุด ๆ แรบบิท แคร์ แนะนำ ประกันอุบัติเหตุ อุ่นใจคุ้มครองตลอดทั้งทริป
![](https://production-rabbit-care-blog.imgix.net/2024/04/rabbitcare_editor_team.png?auto=compress%2Cformat&crop=faces%2Ccenter&q=50)
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี