ไปทำงานต่างประเทศอย่างไรให้ปลอดภัย และถูกกฎหมาย

กองบรรณาธิการ
ผู้เขียน: กองบรรณาธิการ Published: พฤษภาคม 15, 2023
กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
Nok Srihong
แก้ไขโดย: Nok Srihong Last edited: พฤษภาคม 15, 2023
Nok Srihong
Nok Srihong
มีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ทำงานต่างประเทศ

ทำงานต่างประเทศ ล้วนเป็นความฝันของใครหลายคนในสมัยนี้ เพราะค่าตอบแทนที่ได้รับนับว่าสูงกว่าการทำงานในประเทศไทยหลายเท่า ทำงานเพียงไม่กี่ปีก็มีเงินก้อนจำนวนมากมาใช้จ่ายต่าง ๆ อีกทั้งผู้ที่ทำงานต่างประเทศยังมีโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองด้วย ทำให้ทุกวันนี้มีคนไทยตัดสินใจเดินทางไปทำงานเมืองนอกกันเป็นจำนวนมากในหลาย ๆ ประเทศ

ไม่ว่าคุณจะอยากทำงานต่างประเทศนั้นจะมีสาเหตุมาจากอยากหาประสบการณ์เพิ่ม หรืออยากได้ค่าแรงสูงในไทยกว่าก็ตาม แต่สิ่งที่คุณควรพึงกระทำอย่างยิ่งก็คือการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยวิธีถูกกฎหมาย เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง และเป็นการรักษาชื่อเสียงของตนเองและประเทศชาติ ด้วยเหตุนี้แรบบิท แคร์ จะมาขอแนะแนวทางการทำงานต่างประเทศอย่างถูกกฎหมายดังต่อไปนี้

วิธีเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย

แน่นอนว่าการเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ถ้าอยากได้ค่าแรงดี ๆ สามารถทำงานได้อย่างไม่ต้องหวาดระแวง มีสวัสดิการพร้อม คุณต้องเดินทางไปทำงานอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น ซึ่งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกกฎหมายของกระทรวงแรงงานก็มี 5 วิธีด้วยกัน ได้แก่

1. ใช้บริการบริษัทจัดหางาน

ถ้าคุณต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศก็สามารถทำได้โดยติดต่อกับบริษัทจัดหางานที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางานด้วยตนเอง แจ้งความประสงค์กับบริษัทจัดหางาน จากนั้นบริษัทจัดหางานจะทำการคัดเลือกประเทศที่เราสามารถเดินทางไปทำงานได้ให้ตรงกับความต้องการของเรา ซึ่งตามข้อมูลของปี 2566 นี้ ได้มีประเทศที่รับแรงงานจากประเทศไทยคือ

ประเทศเกาหลีใต้ – ผู้ที่ต้องการทำงานเกาหลี จะมีตำแหน่งเปิดรับคือประเภทงานช่าง อย่างช่างเชื่อม ช่างไฟฟ้า ช่างพ่นสี

ประเทศซาอุดิอาระเบีย – โดยรับงานพวกสายช่างอย่าง ช่างไฟฟ้า ประปา ช่างรถยนต์ ช่องไม้ ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง ช่างโลหะ พนักงานเหมือง

ประเทศไต้หวัน – โดยรับคนงานทั่วไป กรรมกร คนงานผลิตโลหะ

ประเทศแถบตะวันออกกลางและประเทศอื่น ๆ – โดยรับคนงานทั่วไป งานช่างเชื่อม งานบริการนวดแผนโบราณ พนักงานสปา เกษตรกร

โดยบริษัทจัดหางานสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานต่างประเทศ ต้องมีข้อกำหนดและเงื่อนไขดังนี้

  • ต้องแสดงใบอนุญาตจดทะเบียนต่อกรมจัดหางาน ไว้ในที่เปิดเผยและเห็นชัดที่สำนักงาน
  • ต้องจดทะเบียนลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางานที่ทำงานในบริษัทต่อเนื่อง หรือเป็นนายหน้าเถื่อน
  • ต้องมีการเก็บค่าหัวตามกฎหมาย รวมถึงมีการออกใบเสร็จให้ลูกค้าที่หางานไว้เป็นหลักฐาน
  • บริษัทต้องเรียกเก็บเงินล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วันก่อนเดินทาง หากไม่มีการส่งตัวไปทำงานต้องคืนเงินให้
  • ต้องส่งคนงานไปตรวจโรคตามสถานพยาบาลที่กรมจัดหางานประกาศไว้
  • จะต้องมีการส่งผู้หางานไปทดสอบฝีมือ ณ สถานทดสอบฝีมือตามที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานอนุญาต
  • บริษัทต้องมีหน้าที่นำผู้หางานมาฝึกอบรมจากเจ้าหน้าที่กรมการจัดงานก่อนเดินทางไปทำงานนอกประเทศ
  • บริษัทต้องพาคนหางานเดินทางออกนอกประเทศผ่านด่านตรวจคนหางานของกรมจัดหางาน
  • บริษัทต้องทำหน้าที่ติดต่อกรมการจัดหางาน
วิธีเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย

2. กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่งไปทำงานต่างประเทศ

ในกรณีนี้จะเป็นบริการของรัฐ คือกรมการจัดหางานของกระทรวงแรงงาน โดยจัดส่งคนไปทำงานที่ต่างประเทศโดยไม่มีค่าบริการ แต่ผู้หางานอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าภาษีสนามบิน ค่าที่พักสำหรับการเตรียมตัวก่อนเดินทาง เป็นต้น ซึ่งหากใครสนใจก็สามารถสมัครได้ที่สำนักงานจัดหางานทั่วประเทศ โดยปี 2566 มีประเทศที่รับแรงงานจากไทยคือ

ประเทศเกาหลีใต้ – รับงานอุตสาหกรรมการผลิต งานปศุสัตว์ งานเกษตร งานก่อสร้าง

ฮ่องกงและมาเก๊า – รับแม่บ้าน งานนวดสปาและนวดแผนโบราณ เชฟอาหารไทย

ประเทศสิงคโปร์ – รับแรงงานทั่วไป ช่างเชื่อ ช่างประกบท่อ

ประเทศญี่ปุ่น – รับผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคขององค์กร IM Japan

3. นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงานต่างประเทศ

ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่นายจ้างมีบริษัทแม่อยู่ในต่างประเทศ หรือมีการประมูลงานในต่างประเทศได้ จึงได้มีการส่งคนงานจากประเทศไทยไปทำงานในสาขาต่างประเทศ ซึ่งคนงานดังกล่าวจะยังคงสถานะเป็นลูกจ้างของนายจ้างในไทย และมีสิทธิ์ได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงเต็มจำนวน

4. นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงานต่างประเทศ

ในกรณีนี้นายจ้างจะต้องดำเนินการยื่นเรื่องขออนุญาตพาลูกจ้างหรือคนงานไปฝึกงานในต่างประเทศกับบริษัทแม่ หรือบริษัทในเครือเพื่อการเรียนรู้พัฒนาฝีมือและศักยภาพของลูกจ้าง ก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศ

5. เดินทางไปทำงานเมืองนอกด้วยตนเอง

ในกรณีนี้ผู้ที่มีความประสงค์อยากเดินทางไปทำงานต่างประเทศสามารถแจ้งความประสงค์แก่เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีข้อกำหนดว่าจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วัน ซึ่งบุคคลที่ยื่นเรื่องขอไปทำงานต่างประเทศด้วยตัวเองนั้น จะได้รับคำแนะนำจากเพื่อน หรือญาติพี่น้อง ที่เคยเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศจนครบสัญญาจ้างและได้ต่อสัญญากับนายจ้างที่ต่างประเทศแล้วนั่นเอง

เดินทางไปทำงานต่างประเทศ

การทำงานต่างประเทศตามโครงการด้วยระยะเวลาสั้น ๆ

นอกจากการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยวิธีข้างต้นแล้ว บางประเทศยังมีโครงการจับมือกับภาครัฐไทยโดยนำนักเรียนหรือนักศึกษามาสัมผัสกับประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ รวมถึงซึมซับกับวัฒนธรรมระหว่างประเทศ โดยเป็นการเดินทางไปทำงานระยะเวลาสั้น ๆ ตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ เพื่อสิ้นสุดระยะเวลาก็เดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยระหว่างที่ทำงานในโครงการนั้น ผู้ทำงานจะได้รับค่าจ้าง ได้ฝึกการใช้ภาษา และยังเปิดโอกาสให้ได้เที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วย โดยในปี 2566 ได้มีโครงการดังนี้

1. โครงการ Work and Travel ในประเทศอเมริกา 

ซึ่งโครงการนี้มีมาแล้วหลายปีและได้รับความนิยม โดยเป็นโครงการที่อยู่ในความดูแลของ United Department of State ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลเรื่องการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โครงการ Work and Travel จะเปิดโอกาสให้นักศึกษา ที่มีอายุไม่เกิน 28 ปี และมีการสื่อสารภาษาอังกฤษในระดับดี ได้ไปทำงานต่างประเทศและแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม รวมถึงได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปในตัว สำหรับงานที่เปิดให้รับทำคืองานด้านโรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งจะได้ค่าแรงประมาณ 8.00-16.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง

2. โครงการ AUPAIR ในประเทศอเมริกา 

โดยเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยผู้เข้าโครงการจะได้พักอาศัยในครอบครัวชาวอเมริกัน ได้รับทุนการศึกษาเพื่อเรียน และได้ค่าตอบแทนรายสัปดาห์ ระหว่างที่พักอยู่กับครอบครัวชาวอเมริกันก็ได้จะมีห้องพักส่วนตัว อาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกตามความจำเป็น

3. โครงการ Work and Travel ในประเทศออสเตรเลีย 

ซึ่งเป็นโครงการระหว่างไทยกับออสเตรเลียตามจำนวนโควต้าที่กำหนด โดยเปิดโอกาสให้ทั้งเรียน เที่ยว และทำงานต่างประเทศได้ไปในตัวภายในระยะเวลา 1 ปี สำหรับผู้ที่ร่วมโครงการนี้สามารถทำงานได้สูงสุด 6 เดือน ต่อ 1 นายจ้าง และสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ สามารถลงทะเบียนเรียนได้สูงสุด 17 สัปดาห์ และท่องเที่ยวในออสเตรเลียได้ 1 ปี

4. Working Holiday Scheme นิวซีแลนด์ 

เป็นโครงการทำงานและท่องเที่ยวของประเทศนิวซีแลนด์ ผู้เข้าโครงการสามารถท่องเที่ยวได้สูงสุด 1 ปี ในขณะที่ทำงานชั่วคราวในประเทศนิวซีแลนด์ได้ด้วย

work abroad

ไปทำงานต่างประเทศอย่างไรไม่ให้ถูกหลอก

สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศตัวเองและผ่านบริษัทนายหน้าจัดหางาน ต้องศึกษาข้อมูลมาให้ดีเพื่อให้ได้งานตรงตามความต้องการดังนี้

1. เลือกบริษัทจัดหางานที่น่าเชื่อถือ

การเลือกบริษัทจัดหางานที่น่าเชื่อถือนี้จะเป็นตัวช่วยอย่างดีในการที่เราจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งคุณควรเลือกบริษัทจัดหางานที่มีการจดทะเบียนต่อกรมการจัดหางานอย่างถูกกฎหมาย โดยการขอดูใบอนุญาตจัดหางาน หรือ สามารถสอบถามข้อมูลของบริษัทจัดหางานได้กับเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานว่าบริษัทจัดหางานมีจริงหรือไม่

2. ไม่จ่ายเงินจนกว่าจะรู้กำหนดการเดินทาง

หากคุณไม่อยากเจอเหตุการณ์จ่ายเงินค่าหัวสำหรับเดินทางไปต่างประเทศแล้วโดนนายหน้าหรือบริษัทจัดหางานเชิดเงินหนีแล้วล่ะก็ ห้ามชำระเงินค่าหัวหรือค่าบริการก่อนที่จะรู้กำหนดการเดินทางไปทำงานของตัวเอง และในการจ่ายเงินค่าหัวห้ามจ่ายเป็นเงินสดเด็ดขาด ควรจ่ายเงินผ่านธนาคารและควรเก็บใบเสร็จไว้ทุกครั้ง และหากชำระค่าบริการทั้งหมดแล้วยังไม่ได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศภายใน 1 เดือน รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กรมจัดหางานให้ทราบทันที

3. สำรวจความพร้อมของตนเอง

ก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศ คุณควรศึกษารายละเอียดของงานที่จะไปทำให้เรียบร้อย และควรเตรียมความพร้อมด้านภาษาให้พร้อม โดยเฉพาะความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ เพราะการทำงานในหลายประเทศล้วนใช้ภาษาอังกฤษ และนอกจากนี้ หากคุณมีความรู้ด้านภาษาอื่นไปด้วยตามประเทศที่ไปทำงาน ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำงานต่างประเทศของคุณให้มากขึ้น

สรุปแล้วการเดินทางไปทำงานต่างประเทศนั้นไม่ยากอย่างที่คิด หากคุณคิดว่าตัวคุณมีความสามารถ อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ หรืออยากหารายได้ในอัตราที่สูงขึ้น การหาช่องทางไปทำงานต่างประเทศก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย แต่ทั้งนี้ให้คุณพึงระวังว่าการอยู่ในต่างประเทศอาจไม่สะดวกสบายเท่ากับอยู่ที่ไทย โดยเฉพาะหากเกิดการเจ็บป่วยหรืออุบัติขึ้นมาจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากหลายประเทศมีค่าบริการทางการแพทย์สูงกว่าไทยหลายเท่า ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความอุ่นใจ แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้คุณทำประกันการเดินทางก่อนที่จะไปทำงานต่างประเทศด้วย เพราะประกันการเดินทางจะให้ความคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ เงินชุดเชยกรณีมีปัญหาเรื่องการเดิน รวมถึงค่าส่งตัวกลับประเทศในกรณีฉุกเฉิน

ประกันสุขภาพที่คุณเลือกเองได้ พร้อมชำระได้หลากหลายช่องทาง
icon angle up or down

เลือกแผนประกันสุขภาพที่คุณสนใจ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์

    ทิปหางานมั่นคงทำมีอีกนะ

    ที่มา

    บทความแคร์ไลฟ์สไตล์

    Rabbit Care Blog Image 103237

    แคร์ไลฟ์สไตล์

    ประกันชีวิตช่วงสงครามชายแดน ใครได้ ใครเสีย?

    เมื่อคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่มีความไม่สงบ หรือมีแนวโน้มเกิดเหตุการณ์ปะทะ เช่น การซ้อมรบ การปะทะชายแดน หรือภัยจากอาวุธหนัก
    คะน้าใบเขียว
    14/08/2025
    Rabbit Care Blog Image 102732

    แคร์ไลฟ์สไตล์

    บ้านอยู่ใกล้ชายแดน เคลมประกันได้ไหมถ้าเจอลูกหลงชายแดน?

    ด้วยสถานการณ์ที่ยังตึงเครียดกันอยู่ ทำให้การอยู่อาศัยใกล้พื้นที่ชายแดน อาจทำให้คุณต้องเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การปะทะกัน, เหตุยิงลูกหลง
    คะน้าใบเขียว
    06/08/2025
    Rabbit Care Blog Image 102683

    แคร์ไลฟ์สไตล์

    ล้างบ้านหลังน้ำท่วม กำจัดโคลนติดบ้านยังไงดี?

    จากสถานการณ์ที่หลายพื้นที่โดนน้ำท่วม  เมื่อน้ำลด นอกเหนือจากการซ่อมแซมบ้านให้กลับมาอยู่อาศัยได้แล้ว สิ่งที่ตามมาคือ น้ำโคลน  กลิ่นอับ และเชื้อโรค
    คะน้าใบเขียว
    01/08/2025