
รวมที่จอดรถ mrt และอาคารจอดแล้วจร มีตรงไหนบ้าง? เช็กได้เลย!!
แน่นอนว่ามีนักท่องเที่ยวหลายคนยังไม่รู้จักกับ Visa หรือ เอกสารที่แสดงว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าสู่เขตแดนหรือพื้นที่ซึ่งได้ระบุไว้ในวีซ่านั้นๆ ทำให้หลายคนกังวลไม่น้อยก่อนจะเดินทางไปยังประเทศนั้น ๆ โดยส่วนใหญ่แล้ววีซ่าจะเป็นตราประทับอยู่ในหนังสือเดินทาง อย่างไรก็ตามการทำวีซ่า ก็เปรียบเสมือนเป็นการเปิดประตูสู่การท่องเที่ยวต่างประเทศที่กว้างขวางขึ้น ซึ่งก็มีทั้งแบบ Visa-free และ Visa on Arrival แต่มันแตกต่างกันยังไง แรบบิท แคร์ มีคำตอบ!!
Visa-Free คือ ผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางจากประเทศไทยได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศนั้นๆ โดยมีจุดประสงค์คือการท่องเที่ยว หมายถึงว่าเป็นประเทศที่คนไทยสามารถเดินทางเข้าได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องขอวีซ่า
Visa on Arrival (VOA) คือวีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง เป็นวีซ่าที่ต้องทำการขอก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศปลายทาง โดยผู้เดินทางสามารถขอวีซ่านี้ได้ที่สนามบินของประเทศนั้น ๆ ได้เลย นอกจากนี้ VOA ยังเป็นวีซ่าท่องเที่ยวที่อายุไม่เกิน 15 วัน โดยใช้เวลาในการขอประมาณ 20 – 25 นาที
การขอ Visa on Arrival ที่สนามบินของประเทศนั้น ๆ จะผ่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้น ควรเตรียมเอกสารไปให้ครบถ้วนและแจ้งจุดประสงค์การเดินทางเข้าประเทศให้ชัดเจน
เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดโอกาสการไม่ผ่านวีซ่า นักท่องเที่ยวทุกคนควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและชัดเจน ดังนี้
หมายเหตุ: แต่ละประเทศมีเอกสารที่ต้องขอวีซ่า visa on arrival ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้ และเงื่อนไขในการทำวีซ่าที่ต่างกันออกไป และดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์ทางการของประเทศนั้นๆ หรือตรวจสอบประเทศที่ต้องขอ VOA ได้ที่ เว็บไซต์กรมการกงสุลประเทศไทย
ข้อดีของวีซ่า Visa on Arrival (VOA) | ข้อเสียของวีซ่า Visa on Arrival (VOA) |
รวดเร็วและประหยัดเวลา ไม่ต้องยื่นขอล่วงหน้า สามารถรอรับวีซ่าได้เลย ใช้เวลาเพียง 20 - 25 นาที | จำนวนวันในการท่องเที่ยวน้อย อยู่ไทยได้ไม่เกิน 15 วัน |
มีความสะดวกเพราะใช้เอกสารไม่มาก แค่มีเอกสารครบถ้วนชัดเจนก็สามารถยื่นได้แล้ว | ไม่สามารถยื่นเรื่องขอขยายระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักรได้ ยกเว้นในบางกรณี เช่น เจ็บป่วย |
มีความปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารสูญหายระหว่างรออนุมัติวีซ่า | - |
นอกจาก Visa on Arrive และ Visa-Free แล้ว ใครที่เป็นสายท่องเที่ยวต่างประเทศ ควรรู้จักประเภทของวีซ่าอื่น ๆ เพื่อที่จะเข้าใจจุดประสงค์ในการขอวีซ่าในแต่ละประเภท โดยสามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้
Transit Visa คือวีซ่าสำหรับ ผู้เดินทางที่เปลี่ยนเครื่อง เพื่อเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง โดยปกติจะมีอายุประมาณ 5 วัน
Tourist Visa คือวีซ่าท่องเที่ยว เป็นวีซ่าที่มีจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวหรือการเดินทาง ไม่มีเรื่องของธุรกิจมาเกี่ยวข้อง
Business Visa คือวีซ่าธุรกิจ เป็นวีซ่าที่มีจุดประสงค์เพื่อทำการค้า หรือกิจกรรมทางธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศนั้นๆ ในบางประเทศจะรวมการจ้างงานถาวรเอาไว้ด้วย
Temporary Worker Visa คือวีซ่าทำงานชั่วคราว เป็นวีซ่าที่ช่วยยืนยันว่าได้รับการอนุญาตให้ทำงานในประเทศนั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง วีซ่าประเภทนี้จะต้องใช้เวลาในการขอค่อนข้างนาน และมีช่วงเวลาที่ได้รับการอนุญาตยาวกว่าวีซ่าธุรกิจ
Partner Visa คือวีซ่าแต่งงาน ที่ใช้สำหรับบุคคลที่เป็นคู่แต่งงาน (ทั้งเพศชายและหญิง) ของบุคคลที่เป็นประชากรในประเทศนั้นๆ สามารถเดินทางมาพักอาศัยด้วยกันได้
Student Visa คือ วีซ่านักเรียนหรือนักศึกษา ที่เข้ามาศึกษาในประเทศนั้นๆ แต่บางประเทศก็จะให้นักเรียนใช้วีซ่าท่องเที่ยวแทน
Working Holiday Visa คือวีซ่าสำหรับท่องเที่ยวและทำงาน โดยจะอยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างประเทศ ผู้ที่ขอวีซ่านี้จะสามารถทำงานและท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ ส่วนใหญ่จะเปิดให้ขอได้ในกลุ่มบุคคลวัยเรียนและวัยทำงานที่อายุไม่เกิน 30 ปี
Diploma Visa คือวีซ่าฑูต เป็นวีซ่าที่จะออกให้กับผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางของทางการฑูต
Journalist Visa คือวีซ่าสำหรับสื่อมวลชน หรือนักข่าวจากหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต
Immigration Visa คือวีซ่าสำหรับผู้เดินทางที่ต้องการอพยพถิ่นฐาน หรือตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ประเทศนั้นๆ โดยกฎเกณฑ์และเงื่อนไขจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละประเทศ
Retirement Visa คือวีซ่าที่จะออกให้ผู้ที่มีรายได้ในต่างประเทศที่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต และไม่มีความประสงค์ที่จะทำงานแล้ว มักมีการจำกัดอายุผู้ขอวีซ่า และจะออกให้บางประเทศเท่านั้น
Electronics Visa คือวีซ่าที่จะบันทึกข้อมูลเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบจะมีการเชื่อมโยงกับหมายเลขของหนังสือเดินทาง และข้อมูลต่างๆ ของผู้เดินทาง โดยไม่ต้องมีป้ายหรือติดสติ๊กเกอร์ลงในหนังสือเดินทาง
เหล่านี้คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง Visa Free กับ Visa on Arrival และข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของวีซ่าที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศ การขอวีซ่าจะทำให้คุณได้เดินทางเข้าไปในประเทศนั้นๆ ได้อย่างถูกกฎหมายและเที่ยวได้อย่างสบายใจ อย่างลังเลที่จะซื้อประกันการเดินทางกับ แรบบิท แครื ติดตัวไว้สักฉบับเพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง ที่จะช่วยให้ความคุ้มครองชีวิตและ ความปลอดภัยของคุณ ขณะท่องเที่ยว หากสนใจ โทรเลย 1438
เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care และ Asia Direct ได้อย่างมืออาชีพ
บทความแคร์ไลฟ์สไตล์
รวมที่จอดรถ mrt และอาคารจอดแล้วจร มีตรงไหนบ้าง? เช็กได้เลย!!
ปักหมุด 8 อุทยานแห่งชาติที่กำลังมาแรงแห่งปี 2568 ใครชอบธรรมชาติติดใจแน่นอน
ข้อมูลสำหรับสายบินลัดฟ้า! พิกัดที่จอดรถสนามบินดอนเมือง ค่าจอดรถสนามบินดอนเมือง 2568