Home Isolation คืออะไร เตรียมตัวอย่างไร ประกันจ่ายไหม
ถึงแม้ยอดโควิด-19 ในปัจจุบันจะลดลงไปบ้าง และบางคนก็อาจจะฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่ก็ยังประมาทไม่ได้! แล้วแบบนี้ ในกรณีที่ต้อง Home Isolation มันคืออะไร? กักตัว 14 วัน ต้องเตรียมตัวอย่างไร? และสามารถเบิกเคลมประกันcovidได้หรือไม่? วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบให้แน่นอน!
รู้จัก Home Isolation เมื่อเกิดเหตุจำเป็นต้องรักษาตัวที่บ้าน
จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดหนัก จนทำให้ยอดผู้ป่วยในหลาย ๆ จังหวัดพุ่งสูงแทบจะเป็นหมื่นรายต่อวัน ทำให้โรงพยาบาลสนามหรือสถานพยาบาลหลาย ๆ แห่ง ไม่สามารถรรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด นี่เองที่ทำให้ Home Isolation และ Community Isolation ได้เข้ามามีบทบาท
Community Isolation คือการพักรักษาแยกกักตัวในชุมชนได้ ทั้งผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือกลับมาดูแลรักษาต่อจากโรงพยาบาลจนครบกำหนด โดยมีการจัดให้มีพื้นที่เอกเทศในชุมชนสำหรับแยกกักตัวผู้ติดเชื้อเพื่อได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยและเจ้าของสถานที่ในการจัดเตรียมสถานที่ด้วย
ส่วน Home Isolation คือการกักตัวเพื่อรักษาโรคโควิด-19 ที่บ้าน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้น มีผู้ติดเชื้อหลักหลายพันคนจนทำให้เตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ ประกอบกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง แพทย์ประเมินว่าสามารถพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้
ทั้งนี้ก็เพื่อลดปริมาณผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้น้อยลง ลดภาระของบุคลากรทางแพทย์ และเป็นการเปิดทางให้ผู้ป่วยอาการหนักได้ใกล้ชิดกับแพทย์มากกว่านั่นเอง
โดยพื้นฐานแล้ว การจะรักษาตัวแบบ Home Isolation ได้ ทางแพทย์จะพิจารณาจาก
- ผู้ป่วยต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี
- สุขภาพแข็งแรง มีอาการน้อยคือสามารถมีอาการไข้, ไอเจ็บคอมีน้ำมูก, ไม่ได้กลิ่น, ไม่รับรส, มีผื่น และถ่ายเหลว แต่ต้องไม่มีอาการหายใจเร็วหายใจลำบาก, ปอดไม่อักเสบ และระดับออกซิเจนไม่ต่ำกว่า 96% หรือไม่มีอาการเลย
- ไม่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน
- อาศัยอยู่คนเดียว หรือมีผู้อาศัยร่วมด้วยไม่เกิน 1 คน
- ต้องไม่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไต, โรคหัวใจหรือหลอดเลือด, โรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคปอด
- ในกรณีที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล หากมีอาการดีขึ้น แพทย์จะวินิจฉัยให้กลับไปกักตัวที่บ้านได้
สรุปแล้ว Home Isolation คือการกักตัวรักษาอาการโควิด-19 ที่บ้าน โดยผู้ป่วยต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เข้าเกณฑ์อันตราย จัดเป็นผู้ป่วยสีเขียว ที่สำคัญต้องมีพื้นที่ในบ้านเหมาะสมกับการกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อด้วย
Home Isolation ต้องเตรียมตัวยังไง และต้องทำอะไรบ้าง?
การรักษากักตัวที่บ้านแบบ Home Isolation ไม่ใช่เรื่องที่แย่ แต่เราจะเตรียมตัวได้ยังไงกันล่ะ? เราสามารถปฎิบัติตัวได้ตามเงื่อนไขต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- อุปกรณ์ประเมินอาการต่าง ๆ เบื้องต้น ได้แก่ ปรอทวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดแบบหนีบนิ้ว เพื่อประเมินการแลกเปลี่ยนก๊าซในปอดว่าปกติดีหรือไม่ ซึ่งค่าปกติจะอยู่ที่ประมาณ 97-100% ถ้าตัวเลขอยู่ที่ 94% หรือต่ำกว่านั้นคืออยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง มีแนวโน้มที่เชื้อโควิด-19 จะลงปอด ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- สมาร์ตโฟน หรือเครื่องมือที่พร้อมสื่อสาร เอาไว้ติดต่อกับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งอุปกรณ์การสื่อสารที่เหมาะต้องสามารถพูดคุยตอบโต้กันได้แบบ Real-time กับแพทย์และพยาบาลทุกวัน
- ยารักษา ซึ่งจะเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์
- อาหารครบสามมื้อ ผู้ป่วยควรมีแผนเรื่องอาหารการกินในแต่ละวัน เช่น รับความช่วยเหลือหรือสนับสนุนจากชุมชนในอาหารการกินแต่ละวัน หรือการสั่งฟู้ดเดลิเวอรี่ เป็นต้น
หลักการปฎิบัติตัวเมื่อเข้ารักษาตัวแบบ Home Isolation
- ห้ามออกจากที่พักและห้ามผู้ใดมาเยี่ยมบ้าน ต้องกักตัวที่บ้านเท่านั้น
- ห้ามเข้าใกล้หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
- แยกห้องพัก ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น หากแยกไม่ได้ควรแยกให้ห่างจากผู้อื่นให้มากที่สุด และควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
- ห้ามรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
- หากไม่ได้อยู่คนเดียวให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลทุกครั้งที่จำเป็นต้องสัมผัสกับของใช้ต่าง ๆ
- แยกซักเสื้อผ้าและเครื่องนอน ด้วยน้ำและสบู่ หรือผงซักฟอก
- ควรใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น
- แยกขยะโดยมัดปากถุงขยะให้แน่น
เบื้องต้นถ้าบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ ควรให้ผู้ป่วยแยกอยู่ในห้องส่วนตัวคนเดียวและควรเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว รวมถึงแยกภาชนะของใช้ส่วนตัว ส่งข้าวให้เอาวางไว้หน้าห้อง เพื่อให้ผู้ป่วยเปิดประตูมาหยิบข้าวไปทานเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือการสัมผัสให้มากที่สุด หรือให้อาหารเป็นข้าวกล่อง
ในกรณีที่ผู้ป่วยอาศัยในคอนโด, ห้องเช่า หรือแฟลต ไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะแยกออกเป็นห้องชัดเจน เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องคนเดียว และบุคคลอื่นที่ไม่ติดเชื้อให้ไปพักอาศัยที่อื่นเป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อให้กับคนในครอบครัว
นอกจากนี้ควรพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบสามมื้อ หมั่นสังเกตอาการของตัวเองทุกวัน อย่างการวัดอุณหภูมิทุกวัน หากอาการแย่ลง เช่น หอบ, เหนื่อย, ไข้สูง ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบติดต่อโรงพยาบาล หรือบุคลากรทางแพทย์ที่รักษาอยู่ทันที
หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง แนะนำให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้รถสาธารณะ และต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากมีผู้ร่วมยานพาหนะไปด้วยให้เปิดหน้าต่างรถเพื่อเพิ่มการระบายอากาศตลอดการเดินทาง
นอกจากนี้ ถึงแม้จะรักษาตัวจนหายดีแล้ว แต่ทางการแพทย์จะแนะนำให้เหล่าอดีตผู้ป่วยโควิดต้องกักตัว 14 วันที่บ้านเพิ่ม เพื่อให้มั่นใจว่าหายดี และหมดระยะการแพร่เชื้อแล้วอีกด้วย
Home Isolation สามารถเบิกเคลมประกันโควิด หรือประกันสุขภาพได้หรือไม่?
หลายคนเมื่อประเมินและมั่นใจว่าตนสามารถทำการรักษาแบบ home isolation แน่นอน เพราะพร้อมทั้งสถานที่ สุขภาพ และไม่ต้องการเพิ่มภาระให้บุคลากรทางการแพทย์เกินความจำเป็น แต่ประกัน covid ที่ทำเอาไว้จะสามารถเบิกเคลมได้หรือไม่?
บอกได้เลยว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทาง คปภ. ได้อนุโลมให้บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย คุ้มครองผู้ป่วยโควิดที่ดูแลรักษาตัวแบบ Home Isolation หรือ Community Isolation เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาเพื่ออุดช่องว่างของเงื่อนไขกรมธรรม์
แต่อย่างไรก็ตาม การเบิกเคลมประกันตามคำสั่งนี้บังคับใช้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ผ่านมาเท่านั้น แต่หากในอนาคตมีการแพร่ระเบิดรุนแรงอีก ก็อาจสามารถเคลมประกัน covid ได้อีกในอนาคต
แล้วถ้าเสียชีวิตเพราะโควิดจากที่บ้าน จะเคลมประกัน covid ได้อย่างไร?
ในกรณีที่เสียชีวิตระหว่างรอเตียง หรืออยู่ในระหว่าง Home Isolation นั้น สามารถเบิกเคลมได้ หากมีผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี rt pcr จะสามารถเคลมประกันแบบเจอ จ่าย จบ หรือค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยรายได้ หรือกรณีภาวะโคม่าหรือเสียชีวิตจากโควิด จะต้องเป็นตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ทำเอาไว้ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามประเภทของบริษัทประกันฯ
เอกสารหลัก ๆ ที่ใช้ในการเคลมกรณีผู้ป่วยมีอาการโคม่าหรือเสียชีวิต มีดังนี้
- แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของบริษัท)
- ใบรับรองแพทย์ฉบับจริงหรือฉบับสำเนาผลวินิจฉัยของแพทย์จากสถานพยาบาล
- ผลการตรวจที่ยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี rt pcr ที่ได้รับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือใบรายงานทางการแพทย์
- ใบเสร็จรับเงินจากสถานพยาบาล และใบแจ้งรายการค่าใช้จ่าย (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรกของผู้ทำประกัน
- ประวัติการรักษาทั้งหมด
- สำเนารายงานทางการแพทย์ที่วินิจฉัยภาวะโคม่า
- สำเนาใบรับรองการเสียชีวิตของโรงพยาบาล หรือหน่วยงานราชการ
- สำเนาใบมรณบัตร
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับผลประโยชน์
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก
สรุปแล้ว ช่วงเวลาปัจจุบันในเดือนตุลาคม 2564 เป็นระยะเวลาที่เลยกำหนดการให้เบิกเคลมประกัน covid ในกรณีที่รักษาแบบ Home Isolation จึงทำให้ไม่สามารถเบิกเคลมได้ แต่ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีก ซึ่งต้องคอยติดตามทาง คปภ. ต่อไป
ถึงแม้ตอนนี้จะเบิกเคลมได้เฉพาะการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเท่านั้น แต่การซื้อประกัน covid-19 ป้องกันเอาไว้ ก็ยังไม่เสียเกินแก้ หรือแม้แต่ประกันที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิดเองก็ยังน่าสนใจ คลิกเพื่อปรึกษากับ แรบบิท แคร์ เลย! ที่นี้ นอกจากประกัน covid ยังเต็มไปด้วยประกันสุขภาพที่หลากหลาย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมบริการเปรียบเทียบประกันและคำแนะนำ ฟรี!
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct