รู้ก่อนใช้! สิทธิ UCEP คืออะไร? UCEP PLUS ป่วยโควิด ยังใช้สิทธิได้อยู่ไม๊?
เป็นที่คุ้นหูรู้จักกันมากขึ้นแล้ว สำหรับนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “สิทธิ UCEP” (Universal Coverage for Emergency Patients) ของรัฐบาล ที่ออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต น้องแคร์มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับสิทธิ UCEP และ UCEP PLUS มา
บอกให้ทุกคนได้ทราบ พร้อมอัพเดต!ตอนนี้ผู้ป่วยโควิดยังสามารถใช้สิทธินี้ได้อยู่หรือไม่?
สิทธิ UCEP คืออะไร?
UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) คือ สิทธิในการเข้ารับการรักษาตามนโยบายของรัฐบาล คุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งโรงพยาบาลเอกชนและรัฐบาล นอกคู่สัญญา 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, กองทุนประกันสังคมและกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นภาวะวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย ภายใน 72 ชั่วโมง
ใครบ้าง? ที่สามารถใช้สิทธิ UCEP ได้
บุคคลที่จะสามารถใช้สิทธิ UCEP ได้นั้น จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อปฏิบัติ ดังนี้
- เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน เข้าขั้นวิกฤต มีอาการรุนแรง : ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการเจ็บป่วยแบบกระทันหันจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์ทันที หรืออาการเจ็บป่วยเริ่มรุนแรงขึ้น มีภาวะแทรกซ้อนอย่างเร็ว
- เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนหรือรัฐบาลในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุด :ไม่ว่าจะเป็นการนำส่งโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถพยาบาลฉุกเฉิน 1669 ก็ตาม แพทย์จากโรงพยาบาลแรกรับจะเป็นผู้ประเมินอาการผู้ป่วยเบื้องต้นว่าสามารถรับสิทธิ UCEP ได้หรือไม่ ยกเว้นกรณีการส่งต่อระหว่างโรงพยาบาลกับโรงพยาบาล จะไม่ถือว่าเข้าข่ายการย้ายแบบผู้ป่วยฉุกเฉิน UCEP หรือหากโรงพยาบาลปลายทางของผู้ป่วย อยู่ในสิทธิประกันสังคมอยู่แล้ว จะเป็นการใช้สิทธิประกันสังคมแทน
เจ็บป่วยแบบไหน? เรียกว่าฉุกเฉินวิกฤต ใช้สิทธิ UCEP ได้
อาการเจ็บป่วยที่เรียกได้ว่าฉุกเฉินวิกฤต ต้องเป็น 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ตามหลักเกณฑ์การคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ กพฉ. ประกาศกำหนด และรายละเอียดเกณฑ์การคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. กำหนด โดย 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินตามกำหนด มีดังต่อไปนี้
- มีอาการหมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ
- มีอาการหายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง
- มีอาการซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม
- มีอาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง
- มีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือมีอาการชักต่อเนื่องไม่หยุด
- มีอาการอื่น ๆ ที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตร่วมด้วย
หากแพทย์มีการประเมินอาการผู้ป่วยเบื้องต้นแล้ว พบว่าผู้ป่วยมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งเข้าเกณฑ์ผู้ป่วยฉุกเฉินตามข้างต้น ก็จะสามารถเข้ารับบริการตามระบบ UCEP ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายภายใน 72 ชั่วโมง หรือพ้นภาวะวิกฤต แต่หากแพทย์ประเมินว่าผู้ป่วยไม่ได้มีอาการตามเกณฑ์ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ก็จะไม่ได้รับสิทธิ UCEP ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเอง ซึ่งในกรณีนี้ หากผู้ป่วยมีประกันสุขภาพ ก็จะสามารถนำมาใช้ในการเบิกเคลมค่ารักษาพยาบาลร่วมด้วยได้
หากเกิด 6 อาการที่เข้าข่ายภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว เพื่อเข้ารับการรักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านสิทธิ UCEP
5 ขั้นตอน ขอใช้สิทธิ UCEP!
- ตรวจสอบสิทธิพื้นฐานการรักษาพยาบาลของตนเองว่าเป็นสิทธิอะไร เช่น สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, สิทธิประกันสังคม, สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
- กรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดและเป็นโรงพยาบาลนอกคู่สัญญา 3 กองทุนที่ตนเองมีสิทธิ ให้แจ้งขอใช้สิทธิ UCEP กับโรงพยาบาลดังกล่าว
- โรงพยาบาลแรกรับจะดำเนินการประเมินอาการตามหลักเกณฑ์ที่ สพฉ. กำหนด และคัดแยกระดับความฉุกเฉิน
- ศูนย์ประสานงานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตของ สพฉ. รับทราบข้อมูลเข้าระบบ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
- เมื่อโรงพยาบาลดำเนินการประเมินอาการแล้ว
- หากผลการประเมินเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต : เข้ารับบริการตามระบบ UCEP โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายภายใน 72 ชั่วโมง หรือพ้นภาวะวิกฤต
- กรณีผลการประเมินไม่เข้าเกณฑ์เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต : ให้รีบประสานไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ แต่หากประสงค์จะรักษาที่โรงพยาบาลแรกรับ จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยตนเอง หากผู้ป่วยมีประกันสุขภาพจะสามารถใช้สิทธิร่วมด้วยได้
หลังจากมีการรักษาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว ศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตของ สพฉ. จะดำเนินการแจ้งต่อไปยังกองทุนเจ้าของสิทธิของผู้ป่วย เพื่อให้กองทุนเจ้าของสิทธิประสานต่อไปยังโรงพยาบาลต้นสังกัดของผู้ป่วยในการเตรียมรับย้ายผู้ป่วยเข้าสู่ระบบปกติให้ได้ทันภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลครบ 72 ชั่วโมงหรือพ้นวิกฤตแล้ว
ทั้งนี้หากเกิดกรณีใช้สิทธิ UCEP ครบ 72 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่พ้นภาวะฉุกเฉิน หรือ รพ.ต้นสังกัดไม่มีเตียงรองรับ และจำเป็นจะต้องรับการรักษาต่อเนื่อง ฝ่ายผู้ป่วยจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังใช้สิทธิ UCEP ทั้งหมด ดังนั้นในกรณีดังกล่าว หากผู้ป่วยมีประกันสุขภาพ ก็จะสามารถนำมาเคลมค่ารักษาพยาบาลในส่วนที่เกินจาก 72 ชั่วโมงแรกได้
แล้ว UCEP PLUS คืออะไร ต่างจาก UCEP ไม๊?
ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา นอกจากสิทธิ UCEP ที่หลาย ๆ คนเคยได้ยิน ก็ยังมีสิทธิ UCEP PLUS ที่ได้ยินกันบ่อยจากการประกาศของรัฐบาลอีกด้วย และก็ยังคงเป็นที่สงสัยว่า UCEP กับ UCEP PLUS มันแตกต่างกันอย่างไร จะใช้สิทธิอย่างไรได้บ้าง น้องแคร์หาคำตอบมาให้แล้ว!
UCEP PLUS หรือ UCEP COVID-19 PLUS คือ ระบบรองรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ที่มีอาการเข้าข่ายตามเกณฑ์ที่กำหนด ตั้งแต่อาการกลุ่มสีเขียว สีเหลืองและสีแดง โดยสามารถที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใดก็ได้ที่ใกล้ที่สุดทุกแห่ง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับการใช้สิทธิ UCEP ปกติ แต่จะแตกต่างกันตรงที่สิทธิ UCEP PLUS จะถูกนำมาใช้กับการรักษาที่เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด 19 โดยเฉพาะนั่นเอง โดยเกณฑ์ที่ผู้ป่วยโควิด 19 สามารถใช้สิทธิ UCEP PLUS ได้ มีดังนี้
- ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่รับการรักษาที่บ้านหรือชุมชนเป็นหลัก (HI / CI First)
ที่จะต้องมีการติดตามอาการสม่ำเสมอ หากอาการรุนแรงขึ้นเปลี่ยนจากผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวเป็นสีเหลืองหรือสีแดง จะต้องส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาด้วยสิทธิ UCEP PLUS ทันที
- ผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง ที่มีอาการ ดังนี้
- แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
- หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย
- ปอดอักเสบ
- ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน
- เด็ก ที่มีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือกินอาหารได้น้อยลง
- กลุ่ม 608 ประกอบไปด้วย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มบุคคลเป็นโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ บุคคลน้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม
และจะสามารถใช้สิทธิ UCEP PLUS ในการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินรุนแรงจากโรงพยาบาลหนึ่ง ไปรับการรักษาใน ICU ของอีกโรงพยาบาลหนึ่งได้
- ผู้ป่วยกลุ่มสีแดง ที่มีอาการ ดังนี้
- หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยคขณะสนทนา
- แน่นหน้าอก หายใจเจ็บหน้าอก
- ปอดอักเสบรุนแรง
- มีภาวะช็อก โคม่า ซึมลง
- มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
- ค่าออกซิเจนน้อยกว่า 94%
จะสามารถใช้สิทธิ UCEP PLUS ในการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินรุนแรงจากโรงพยาบาลหนึ่ง ไปรับการรักษาใน ICU ของอีกโรงพยาบาลหนึ่งได้
อัพเดตล่าสุด! ตอนนี้ป่วยโควิด ยังใช้สิทธิ UCEP PLUS ได้อยู่ไม๊?
ต้องบอกว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด ขณะนี้เริ่มดีขึ้นและไม่ได้รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลก็ได้มีการประกาศให้โควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นหรือระยะ Post-Pandemic เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผลที่ตามมาด้วยก็คือ มีการประกาศยกเลิกการใช้สิทธิ UCEP PLUS ในผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวและผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองด้วย โดยผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว จะถูกปรับสิทธิให้มาเข้ารับการรักษาฟรีตามสิทธิเท่านั้นจะไม่สามารถใช้สิทธิ UCEP PLUS ได้แล้ว ซึ่งแนวทางในการรักษาก็จะเป็นรูปแบบผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน โดยจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ว่าจะมีแนวทางการรักษาในรูปแบบใด ส่วนผู้ป่วยกลุ่มสีแดงที่วิกฤต จะยังสามารถใช้สิทธิ UCEP PLUS ได้ตามเดิม
UCEP PLUS ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 จะสามารถใช้สิทธิได้เฉพาะผู้ป่วยโควิด 19 กลุ่มสีแดงที่วิกฤตเท่านั้น กลุ่มสีอื่น ๆ จะไม่สามารถใช้สิทธิได้
อย่างไรก็ตามแต่น้องแคร์ก็ขอยืนยันว่าในสถานการณ์ที่ยังคงมีโรคระบาดและโรคอุบัติใหม่อยู่แบบนี้ การมีประกันสุขภาพที่มีวงเงินค่ารักษาพยาบาลสูงติดตัวไว้สัก 1 เล่ม ก็ยังคงเป็นวิธีการวางแผนชีวิตที่ทำให้อุ่นใจ สบายใจหายห่วงได้มากที่สุด เพราะไม่ว่าอาการเจ็บป่วยของคุณจะสามารถใช้สิทธิ UCEP ทั้งแบบปกติ และ UCEP PLUS ได้หรือไม่ คุณก็จะยังคงสบายใจไร้ความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลอยู่ดี และที่แรบบิท แคร์ ก็มีประกันสุขภาพIPD/OPD วงเงินค่ารักษาพยาบาลหลักล้าน จากหลากหลายบริษัทประกันชั้นนำ ไว้ให้คุณได้เลือกความคุ้มครองได้ตามความต้องการ แต่ถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่าคุณจะเลือกประกันสุขภาพแบบไหนดี เราก็มีบริการเปรียบเทียบประกันสุขภาพไว้คอยบริการ เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ตรงความต้องการคุณมากที่สุด ที่นี่ที่เดียว!
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี