อาการใจสั่น บ่งบอกอะไรได้บ้าง มีสาเหตุมาจากอะไร ?
‘ใจสั่น’ อาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่ว่าเกิดขึ้นกับใครก็พาลชวนให้รู้สึกวิตกกังวล ว่าจะกลายเป็นอาการใหญ่ร้ายแรงหรือเป็นเพียงความผิดปกติชั่วครั้งชั่วคราวจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะอาการใจสั่นนั้นสามารถเป็นสัญญาณบ่งบอกภาวะต่าง ๆ ของร่างกายได้มากมาย อีกทั้งยังมีสาเหตุในการเกิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพียงสาเหตุเล็ก ๆ หรือเป็นสาเหตุใหญ่ที่จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกาย
ดังนั้นสำหรับใครที่มีอาการใจสั่นจนรู้สึกได้ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจต้องรีบสังเกตตัวเองกันไว้ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้ มาดูสิ่งที่ควรรู้ไว้เกี่ยวกับอาการใจสั่น ทั้งสาเหตุ วิธีการสังเกตตนเอง วิธีการป้องกัน และวิธีการรักษา ที่ แรบบิท แคร์ รวบรวมมาให้ในบทความนี้ได้เลย
ใจสั่น คืออะไร ?
อาการใจสั่น คือ อาการที่เกิดขึ้นจากการที่หัวใจของคนเรานั้นเกิดการเต้นผิดจังหวะ ถือเป็นความผิดปกติของระบบคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจนั้นเร็วเกินไป หรือช้าเกินไป เต้นแรงเกินไป หรือเต้นเบาเกินไป โดยหากเป็นอาการใจสั่นโดยทั่วไปที่เกิดขึ้นไม่นาน หัวใจก็จะสามารถกลับมาเต้นตามปกติได้ อาการแบบนี้นั้นจะถือว่าเป็นอาการที่ไม่อันตราย แต่หากมีอาการใจสั่นที่มีการเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือมีการเกิดขึ้นเป็นประจำ นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายที่ถือเป็นสัญญาณเตือนของบางโรคได้ เช่น โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจ ซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
อาการใจสั่น มีสาเหตุมาจากอะไร ?
สำหรับสาเหตุของอาการใจสั่นนั้นก็มีอยู่มากมาย ตั้งแต่สาเหตุง่าย ๆ อย่างพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันของเราที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของจังหวะการเต้นของหัวใจ ไปจนถึงสาเหตุใหญ่ ๆ อย่างการเป็นโรคต่าง ๆ ก็ได้ จะมีอะไรบ้างลองศึกษากันไว้ หากเกิดขึ้นกับตนเองจะได้สามารถทำความเข้าใจและสามารถรับมือกับสถานการณ์ใจสั่นที่เกิดขึ้นได้นั่นเอง
เกิดจากการออกกำลังกาย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ใจเกิดการสั่นอย่างการออกกำลังกายนั้นในบางครั้งเมื่อออกกำลังกายอย่างหนักก็จะทำให้หัวใจเต้นเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าปกติเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ทัน เป็นภาวะที่ทำให้หัวใจนั้นทำงานหนักเกินไป หัวใจจะเต้นแรงและเร็วมากยิ่งขึ้นทำให้ใจสั่นจนสามารถรู้สึกได้ และบ่อยครั้งอาการใจสั่นจากการออกกำลังกายมักมาเป็นคู่อย่างการ ใจสั่น เวียนหัว นั่นเอง
เกิดจากการรับประทานยาบางชนิด
สำหรับการรับประทานยาบางชนิดนั้นสามารถส่งผลให้ใจสั่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาลดความดัน หรือยาลดน้ำหนัก การรับประทานยาเหล่านี้ร่วมกันมักส่งผลให้มีอาการใจสั่นได้เช่นกัน
เกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
โดยปกติแล้วเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำก็จะส่งผลให้ร่างกายของคนเรานั้นมีอาการมือสั่น เหงื่อออก หน้ามืด ใจหวิว ใจสั่นได้
เกิดจากการมีความเครียด การวิตกกังวล หรือโรคแพนิค
เมื่อร่างกายและสภาวะจิตใจของคนเราเกิดความเครียดหรือความวิตกกังวลจะส่งผลให้เกิดการเต้นของหัวใจที่เร็วและแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ร่างกายของเรานั้นพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวแม้ว่าจะไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายก็ตาม ซึ่งปฏิกิริยาของร่างกายเมื่อเผชิญกับความเครียดและความวิตกกังวลนั้นจะทำให้เกิดอาการใจเต้นเร็ว เหงื่อแตก ตัวสั่น หายใจติดขัด และรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอก ซึ่งอาการเหล่านี้นั้นหากมีอาการเกิดขึ้นอย่างรุนแรง กินเวลาค่อนข้างนาน ควบคุมไม่ได้ และเกิดขึ้นบ่อยแม้จะเจอเรื่องเครียดหรือวิตกกังวลเพียงเล็กน้อยก็ควรเข้าพบแพทย์
เกิดจากการได้รับคาเฟอีนเกินขนาด
การได้รับคาเฟอีนซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการเต้นของหัวใจเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่ต้องการหรือรับไหวนั้น เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อยในการเกิดอาการใจสั่น
เกิดจากการมีไข้หรือเกิดการติดเชื้อ
กรณีที่มีไข้สูงมากกว่า 37.8 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้ร่างกายใช้พลังงานหนักมากยิ่งขึ้นเพื่อทำการต่อสู้กับความเจ็บป่วยที่ร่างกายเผชิญอยู่ ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น สูบฉีดเร็วและแรงมากยิ่งขึ้น
ใจสั่นจากการเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะคือภาวะที่หัวใจเต้นไม่ปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วไปหรือช้าไป ซึ่งโรคนี้นั้นจะมีหลายชนิด มีระดับความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่แตกต่างกัน
และสาเหตุเหล่านี้ก็คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะใจสั่นได้ เมื่อมีอาการลงอมองย้อนทบทวนว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดจากอะไร อาจช่วยคลายความวิตกได้ และอาจทำให้รู้ตัวว่าควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
ใจสั่นจากการเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ
โรคไทรอยด์เป็นพิษหรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานหนักเกินเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อฮอร์โมนหลั่งออกมามากเกินความจำเป็นจนส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งผู้ป่วยเป็นโรคดังกล่าวอาจเกิดอาการใจสั่นเนื่องจากมีภาวะหัวใจเต้นเร็วเกินไปได้
สิ่งที่ควรสังเกตตัวเองเมื่อมีอาการใจสั่น
เมื่อเกิดอาการใจสั่นขึ้นแน่นอนว่าสิ่งที่ควรทำคือการสังเกตอาการของตนเองอย่างละเอียด โดยสิ่งที่ควรจะทำการสังเกตเป็นพิเศษมีดังนี้
- อาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นเฉียบพลันทันใดหรือไม่ มีอะไรเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดขึ้น
- อัตราการเต้นของหัวใจขณะมีอาการมีการเต้นกี่ครั้งต่อนาที และเต้นอย่างสม่ำเสมอหรือไม่
- มีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น เจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก หน้ามืด เป็นลม วูบ
- เมื่อมีอาการเป็นนานหรือไม่ มีความถี่ในการเป็นบ่อยแค่ไหน
- เมื่อหายเป็นปกติ อาการค่อย ๆ หายไป หรือหายทันทีทันใด อะไรเป็นปัจจัยในการทำให้อาการดีขึ้น
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ควรสังเกตกันไว้ เพื่อเป็นข้อมูลให้แพทย์ช่วยวินิจฉัย จะได้ทราบถึงต้นเหตุและวิธีการในการรักษาได้นั่นเอง
อาการใจสั่น อันตรายหรือไม่ ?
สำหรับอาการใจสั่นที่เกิดจากสาเหตุปกติทั่วไป เกิดขึ้นไม่นานและไม่บ่อยนั้นอาจไม่มีอันตรายอะไร แต่หากเป็น ๆ หาย ๆ มีอาการเกิดขึ้นบ่อย และมีอาการที่น่าเป็นห่วงอื่น ๆ ร่วมด้วยนับว่าอันตราย ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที
สำหรับใครที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ และอาจต้องเข้ารับการรักษาในอนาคตได้ อย่าลืมทำประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ให้อุ่นใจ จะได้ไปหาคุณหมอได้แบบไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล
อาการใจสั่นสามารถป้องกันได้หรือไม่ ?
โรงพยาบาลพญาไทให้ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันอาการใจสั่นว่า สำหรับการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือดนั้นมีวิธีการคือทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลสภาพจิตใจให้แจ่มใส ผ่อนคลายและรู้จักปล่อยวางจากความเครียด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ใจสั่นควรไปพบแพทย์หรือไม่ ?
เมื่อมีอาการใจสั่นแล้วสิ่งแรกที่ควรทำคือการสังเกตอาการเบื้องต้นของตนเองอย่างที่ได้กล่าวถึงไปในหัวข้อก่อนหน้า และถ้าหากว่ามีอาการใจสั่นเกิดขึ้นบ่อย หรือเกิดขึ้นอย่างรุนแรงก็ควรไปพบแพทย์ทันที
วิธีรักษาอาการใจสั่น
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าเมื่อมีอาการใจสั่นเมื่อไปพบแพทย์แล้วจะมีวิธีการตรวจรักษาอย่างไร จะต้องทำการตรวจหลากหลายขั้นตอนยุ่งยากหรือไม่ โดยปกติแล้วแพทย์ก็จะทำการตรวจวินิจฉัย ดังนี้
- แพทย์จะทำการตรวจเอกซเรย์ปอด หัวใจ และทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- สำหรับผู้ป่วยที่สงสัยว่าตนเองอาจมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาดแพทย์อาจส่งตรวจการเต้นของหัวใจด้วยการเดินวิ่งบนสายพาน
- ผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจแพทย์จะส่งตรวจด้วยเครื่องตรวจเสียงสะท้อนหัวใจ
ทั้งนี้การตรวจยังขึ้นอยู่กับว่ามีหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือไม่ ทั้งนี้วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เจ้าของไข้ที่จะประเมินเป็นกรณีไปนั่นเอง
สรุป
อาการใจสั่นไม่ใช่อาการที่จะสามารถนิ่งนอนใจได้ หากมีอาการเกิดขึ้นกับตนเองจะต้องทำการสังเกตอาการของตนเองโดยละเอียดและเร่งรีบหาสาเหตุให้ไว ไม่ควรปล่อยเอาไว้ เพราะอาจเกิดอันตรายเกินกว่าที่จินตนาการ
สรุป
อาการใจสั่น คือ อาการที่เกิดขึ้นจากการที่หัวใจของคนเรานั้นเกิดการเต้นผิดจังหวะ ถือเป็นความผิดปกติของระบบคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้
- เกิดจากการออกกำลังกาย
- เกิดจากการรับประทานยาบางชนิด
- เกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
- เกิดจากการมีความเครียด การวิตกกังวล หรือโรคแพนิค
- เกิดจากการได้รับคาเฟอีนเกินขนาด
- เกิดจากการมีไข้หรือเกิดการติดเชื้อ
- ใจสั่นจากการเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ใจสั่นจากการเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ
อาการแบบนี้นั้นจะถือว่าเป็นอาการที่ไม่อันตราย แต่หากมีอาการใจสั่นที่มีการเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือมีการเกิดขึ้นเป็นประจำ นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายที่ถือเป็นสัญญาณเตือนของบางโรคได้ เช่น โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจ เป็นต้น
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น