เลือดออกในสมอง คืออะไร ? อันตรายหรือไม่ ค่ารักษาแพงไหม ?
‘เลือดออกในสมอง’ แค่ได้ยินชื่อก็สามารถรับรู้ได้แล้วว่าเป็นภาวะอาการที่ร้ายแรง แล้วทุกคนสงสัยไหมว่าภาวะเลือดออกในสมองเกิดขึ้นได้อย่างไร มีโอกาสเกิดขึ้นกับตัวเราได้หรือไม่ เมื่อเป็นแล้วอันตรายถึงชีวิตไหม จะต้องรักษาอย่างไร วันนี้ แรบบิท แคร์ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับภาวะเลือดออกในสมองมาให้ ทุกคนจะได้ลองทำความเข้าใจ ป้องกันไม่ให้ภาวะเลือดออกในสมองเกิดขึ้นกับตนเองได้ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายและชีวิตของตนเอง
เลือดออกในสมอง คืออะไร ?
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเลือดออกในสมองว่า ภาวะเลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) เป็นภาวะที่มักเกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือดในสมองไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดดำหรือหลอดเลือดแดงส่งผลให้หลอดเลือดแตกและมีเลือดออกในสมอง เมื่อเลือดไหลออกไปกดเนื้อเยื่อสมองก็จะส่งผลให้สมองขาดออกซิเจนและไม่สามารถทำหน้าที่ของสมองส่วนนั้น ๆ ได้
ภาวะเลือดออกในสมองนั้นมีโอกาสพบได้ในทุกเพศทุกวัย และจะพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งสาเหตุในการเกิดก็มีมากมายหลายสาเหตุด้วยกันทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ พักผ่อนไม่เพียงพอ รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ มีความเครียดสะสม ขาดการออกกำลังกาย ปัจจัยเล็ก ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุในการเกิดภาวะเลือดออกในสมองได้ นอกจากนี้การเกิดอุบัติเหตุก็สามารถทำให้เกิดเลือดออกในสมองได้เช่นกัน
เลือดออกในสมอง อาการ
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าภาวะเลือดออกในสมองนั้นเมื่อเป็นแล้วจะมีอาการอย่างไร ทั้งนี้อาการของภาวะเลือดออกในสมองจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่มีการเลือดออก แต่เผื่อใครมีความสงสัยว่าอาการที่ตนเองนั้นเป็นอยู่เข้าข่ายสัญญาณเตือนภาวะเลือดออกในสมองหรือไม่ ลองอ่านทำความเข้าใจจะได้ลองทำการสังเกตตัวเองดู
- มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเฉียบพลัน อาการดังกล่าวเป็นอาการแสดงของภาวะเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง ทั้งนี้จะมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนร่วมด้วย
- มีอาการรู้สึกเจ็บแปลบคล้ายโดนเข็มทิ่มตำ มีอาการอ่อนแรงและเป็นเหน็บชา อาจเป็นอัมพาตซีกใดซีกหนึ่งของใบหน้า หรืออาจมีอาการเป็นอัมพาตบริเวณแขน-ขา
- มีอาการคอแข็งเกร็ง รู้สึกหายใจลำบาก ทำการกลืนลำบาก
- ประสบปัญหาด้านการมองเห็นของดวงตา ดวงตาพร่ามัว ไม่สู้แสง การตอบสนองของรูม่านตาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน
- มีอาการระบบประสาทการสั่งการและการประสานงานของร่างกายบกพร่องทำให้เกิดอาการเสียการทรงตัว
- เกิดภาวะบกพร่องทางด้านการสื่อสาร ไม่สามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้ พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ชัด มีอาการลิ้นแข็ง ไม่สามารถเขียนหรืออ่านหนังสือได้
- มีอาการที่อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ อาการนี้จะเกิดขึ้นกรณีที่เลือดออกบริเวณก้านสมอง
- มีอาการสูญเสียความตื่นตัว ไม่มีชีวิตชีวา รู้สึกสับสน ง่วงซึม อาจตกอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว
- มีอาการชัก
อาการเหล่านี้ถือเป็นอาการแสดงเบื้องต้นของภาวะเลือดออกในสมอง ใครที่มีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นน่าจะสังเกตตัวเองได้ไม่ยาก หากพบอาการต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการโดยละเอียดทันที
สาเหตุการเกิดเลือดออกในสมอง
สำหรับสาเหตุของการเกิดภาวะเลือดออกในสมองนั้นกล่าวได้ว่าสามารถเกิดได้จากสาเหตุมากมาย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ดังนี้
- เกิดภาวะเลือดออก ในสมองจากการได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ : โดยส่วนมากมักเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุต่าง ๆ ทั้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุทางกีฬา ศีรษะถูกกระแทกด้วยของแข็ง ศีรษะกระแทกพื้นจนสมองได้รับการกระทบกระเทือน
- เกิดภาวะเลือดออก ในสมองจากการที่มีความดันโลหิตสูง : การมีภาวะความดันโลหิตสูงต่อเนื่องเป็นเวลานานทำให้ผนังหลอดเลือดได้รับความเสียหายและเกิดภาวะเลือดออกในสมองในที่สุด
- เกิดภาวะเลือดออก ในสมองจากการที่หลอดเลือดแดงแข็ง : โดยจะมีไขมันเกาะตัวอยู่ที่เส้นเลือดจนเกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือดแดง
- เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือดในสมอง : โดยสามารถเกิดได้จากทั้งลิ่มเลือดที่อยู่ภายในสมองหรือลิ่มเลือดจากส่วนอื่นของร่างกายทำให้หลอดเลือดแดงได้รับความเสียหายและเกิดภาวะเลือดออกในสมองตามมา
- เกิดจากภาวะหลอดเลือดสมองโป่งพอง : จากการเสื่อมสภาพของผนังหลอดเลือดบางส่วนทำให้เส้นเลือดโป่งพองและแตกออกจนเกิดการสะสมคั่งค้างของเลือดในสมอง
- เกิดจากภาวะหลอดเลือดในสมองเปราะ : จากการสะสมและตกตะกอนของโปรตีนอะไมลอยด์ของผนังหลอดเลือดแดงภายในสมอง (สาเหตุนี้มักพบในผู้สูงอายุที่เส้นเลือดในสมองเสื่อมลงตามวัยและมีอาการความดันโลหิตสูง และอาจเกิดขึ้นหลายจุดพร้อมกัน ทำให้มีเลือดออกในปริมาณมาก)
- เกิดจากการเป็นโรคหลอดเลือดในสมองผิดปกติแต่กำเนิด : ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ยากมาก
- เกิดจากการมีภาวะเลือดออกผิดปกติ : โรคฮีโมฟีเลีย ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ และอาจเกิดขึ้นกับผู้ที่มีการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด/ยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจ
- เกิดจากการมีเนื้องอกในสมอง : ทำให้เนื้องอกขยายตัวกดทับเนื้อเยื่อในสมองและทำให้เกิดเลือดออกในสมองในที่สุด
- เกิดจากพฤติกรรมที่ส่งผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองหรือเสื่อมสภาพ : การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก การสูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด
- เกิดจากภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง : ทำให้มีอาการเกร็ง ชัก หมดสติ และเลือดออกในสมอง
- เกิดจากการก่อตัวผิดปกติของคอลลาเจนในผนังหลอดเลือด : ซึ่งเป็นผลทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอ ทำให้ฉีกขาดและมีเลือดออก
สาเหตุเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมอง จะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมองมีมากมาย เราทุกคนต่างมีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ ดังนั้นควรทำประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ หากเป็นขึ้นมาจะได้อุ่นใจ เพราะค่ารักษาพยาบาลแพงมากเลยทีเดียว
เลือดออกในสมอง อันตรายไหม ?
แน่นอนว่ามีความอันตรายเป็นอย่างมาก ภาวะเลือดออกในสมองนั้นอันตรายถึงชีวิต เสี่ยงต่อการเป็นอัมพาต หากมีอาการหรือสงสัยว่าตนเองมีภาวะเลือดออกในสมองจะต้องรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็วที่สุดนั่นเอง
เลือดออกในสมอง ค่ารักษาแพงไหม ?
แน่นอนว่าเมื่อเป็นภาวะที่ร้ายแรงและอันตรายถึงชีวิต อีกทั้งยังเป็นการรักษาในส่วนที่ถือว่ามีความซับซ้อนมากที่สุดส่วนหนึ่งของร่างกาย แน่นอนว่าทุกกระบวนการการรักษาย่อมมีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก โดยเฉพาะหากเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน
วิธีการรักษาเลือดออกในสมอง
- ทำการประเมินร่างกายเบื้องต้นโดยแพทย์
- ทำการเอกซเรย์ CT Scan เพื่อดูตำแหน่งที่มีเลือดออกในสมอง
- ทำการ MRI Scan หรือ การตรวจหลอดเลือดโดยใช้เครื่องถ่ายภาพสนามแม่เหล็ก
- ทำการรักษาตามอาการ ด้วยการใช้ยา
- ทำการผ่าตัดเจาะระบายน้ำในสมอง (กรณีเกิดน้ำคั่งในสมองร่วม)
- ทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ นำเลือดในสมองออก ลดสมองบวม
ทั้งนี้วิธีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะทำการประเมินตามอาการและระดับความร้ายแรง
วิธีการดูแลตนเองเมื่อเลือดออกในสมอง
- ทำการกายภาพบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างมีวินัย
- ทำอรรถบำบัด หรือการบำบัดด้วยการพูดสื่อสาร
- ทำกิจกรรมบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะเลือดออกในสมอง
วิธีการป้องกันภาวะเลือดออกในสมอง
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมเสี่ยง
- สวมหมวกกันน็อกและคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่มีการขับขี่ยานพาหนะ
- หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมผาดโผนที่เสี่ยงต่อการกระแทกต้องสวมเครื่องป้องกันทุกครั้ง
- หมั่นรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติอยู่เสมอ
- ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและน้ำหนักให้อยู่ในระดับปกติอยู่เสมอ
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ไม่ใช้สารเสพติดทุกชนิด
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ
และข้อมูลทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเบื้องต้นน่ารู้ที่เกี่ยวข้องกับภาวะเลือดออกในสมองที่ทุกคนควรมีความรู้ติดตัวไว้ หากตนเองหรือคนใกล้ตัวมีความเสี่ยงหรือมีอาการแสดงที่เข้าข่าย จะได้รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัยไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที
สรุป
ภาวะเลือดออกในสมอง (Intracerebral Hemorrhage) เป็นภาวะที่มักเกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือดในสมองส่งผลให้หลอดเลือดแตกและมีเลือดออกในสมอง โดยอาการเบื้องต้นของเลือดออกในสมอง จะมีจุดให้คุณสังเกตหลัก ๆ ดังนี้
- มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเฉียบพลัน
- บางรายอาจวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนร่วม
- มีอาการรู้สึกเจ็บแปลบคล้ายโดนเข็มทิ่มตำ
- อ่อนแรง เป็นเหน็บชา อาจเป็นอัมพาตซีกใดซีกหนึ่งของใบหน้า หรืออาจมีอาการเป็นอัมพาตบริเวณแขน-ขา
- คอแข็งเกร็ง รหายใจลำบาก กลืนลำบาก
- ดวงตาพร่ามัว ไม่สู้แสง รูม่านตาตอบสนองไม่เท่ากัน
- มีอาการเสียการทรงตัวง่าย
- ไม่สามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้ พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ชัด มีอาการลิ้นแข็ง ไม่สามารถเขียนหรืออ่านหนังสือได้
- อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
- สูญเสียความตื่นตัว ไม่มีชีวิตชีวา รู้สึกสับสน ง่วงซึม อาจตกอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว
- มีอาการชัก
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น