สุขภาพทางการเงินสำคัญอย่างไร จะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีสุขภาพทางการเงินที่ดี
แน่นอนว่าในเรื่องของสุขภาพทางการเงินนั้นถือเป็นเรื่องที่เราต่างก็พอทราบกันอยู่บ้าง ว่าควรจะดูแลสุขภาพทางการเงินของตนเองให้ดีอยู่เสมอ แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้ว เจ้าสุขภาพทางการเงินนั้น คืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไรมากน้อยแค่ไหน และเพราะอะไรถึงต้องมีสุขภาพทางการเงินที่ดี ?
ในวันนี้ แรบบิท แคร์ จึงจะมาอธิบายให้ฟังว่าทำไมเราถึงควรที่จะมีสุขภาพทางการเงินที่ดี รวมถึงวิธีในการเช็กว่าสุขภาพทางการเงินของเราว่าดีหรือไม่ดีมาฝากทุกคนกัน!
สุขภาพทางการเงิน คืออะไร ?
สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบว่าสุขภาพทางการเงินคืออะไร ? สุขภาพทางการเงินหมายถึงสถานการณ์ทางการเงินของตัวเรา ณ ปัจจุบันว่ามีสภาพการณ์เป็นอย่างไร เปรียบเสมือนสุขภาพร่างกายของเราว่าอยู่ในเกณฑ์แข็งแรง เกณฑ์ดี เกณฑ์ปกติ หรือมีความย่ำแย่มากน้อยแค่ไหน เป็นตัวบ่งชี้ว่าเราควรจะดูแลและจัดการการเงินของเราเพิ่มเติมของเราอย่างไรนั่นเอง
สุขภาพทางการเงินที่ดี คืออะไร ?
หลังจากที่ได้ทราบความหมายของสุขภาพทางการเงินกันไปแล้ว บางคนก็อาจจะมีคำถามต่อว่าแล้วสุขภาพทางการเงินที่ดีล่ะ คืออะไร ? ซึ่งสุขภาพทางการเงินที่ดีนั้นก็จะหมายถึงการมีการบริหารจัดการเงินที่ดีของตัวเราเอง มีรายรับที่มากกว่าค่าใช้จ่าย สามารถมีเงินใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ไม่มีหนี้หรือมีหนี้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถจ่ายหนี้ได้อย่างสบาย ๆ มีเงินเก็บออมสำรองไว้ใช้ มีการวางแผนการจัดการความเสี่ยงในอนาคตเผื่อเอาไว้ ซึ่งถือเป็นหนทางสู่การเป็นอิสระทางการเงินในอนาคตนั่นเอง
สุขภาพทางการเงินที่ดี มีความสำคัญอย่างไร ?
หากจะพูดถึงความสำคัญของสุขภาพทางการเงินที่ดีก็คงตอบได้เพียงว่าการมีสุขภาพทางการเงินที่ดีนั้นจะทำให้เราสามารถใช้จ่ายและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข สะดวกสบาย ไม่ติดขัด เมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลหรือดิ้นรนหาเงินมาจ่ายเพิ่มมากนัก ไม่มีหนี้สินให้ปวดหัวหนัก และยังเป็นการสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแรงมั่นคงให้กับตนเองในอนาคตเมื่อถึงวัยเกษียณอายุ
วิธีเช็กว่าเรามีสุขภาพทางการเงินที่ดีหรือไม่ ?
แล้วตัวเราเองล่ะ มีสุขภาพทางการเงินที่ดีหรือไม่ ? หากอยากจะทราบว่าตนเองนั้นมีสุขภาพทางการเงินที่ดีไหม ก็สามารถเช็กได้ง่าย ๆ ด้วยการสำรวจตนเองดังนี้เลย
ตรวจสอบว่าเรามีทรัพย์สมบัติอะไรอยู่บ้าง ?
- สินทรัพย์ต่าง ๆ ที่จะแบ่งเป็น สินทรัพย์สภาพคล่อง เช่น เงินสด บัญชีออมทรัพย์ สินทรัพย์เพื่อการลงทุน เช่นเงินฝากประจำ สลากออมทรัพย์ มูลค่าพอร์ตหุ้นโดยรวม สินทรัพย์ส่วนตัว เช่น บ้าน รถยนต์ ของมีค่า (ซึ่งจะต้องทำการผ่อนชำระเรียบร้อยแล้วและตนเองเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์แต่เพียงผู้เดียว)
- หนี้ระยะสั้น เช่น สมัครบัตรเครดิตและเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้จากการผ่อนจ่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ หนี้บัตรกดเงินสด ซึ่งมีอายุไม่เกิน 1 ปี
- หนี้ระยะยาว เช่น หนี้เงินผ่อนรถยนต์ หนี้เงินกู้บ้าน ซึ่งมีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป
โดยวิธีการคิดจะสามารถคิดคำนวณได้ตามตัวอย่างดังนี้
นาง ก. มีสินทรัพย์ 10,000,000 บาท หนี้สิน 5,000,000 บาท
ดังนั้นทรัพย์สินที่มีอยู่ปัจจุบันของ นางก. = 10,000,000 – 5,000,000 = 5,000,000 บาท
และทรัพย์สินที่ควรมี สามารถคำนวณได้ดังนี้ อายุ x รายได้ต่อปี x 10%
ตัวอย่าง นาง ก. มีอายุ 30 ปี มีเงินเดือน 50,000 บาท (x 12 = 600,000 บาทต่อปี)
ทรัพย์สินที่นาง ก. ควรมี = 30 x 600,000 x 10/100 = 1,800,000 บาท
จากทรัพย์สินที่มีอยู่ปัจจุบัน เทียบกับ ทรัพย์สินที่ควรมี (5,000,000 : 1,800,000)
หมายความนาง ก. มีทรัพย์สิน มากกว่า ทรัพย์สินที่ควรมี
ดังนั้นจึงถือว่านาง ก. มีสุขภาพการเงินโดยรวมแข็งแรงนั่นเอง
* สำหรับใครที่ไม่อยากคิดคำนวณเองก็สามารถเสิร์ชหาโปรแกรมวิเคราะห์สุขภาพทางการเงินได้ทั่วไปตามอินเทอร์เน็ตเป็นการเพิ่มความสะดวกสบาย
สำรวจว่าตนเองมีหนี้ต่อเดือน มากเกินไปหรือไม่ ?
สำหรับการมีหนี้สินติดตัวนั้นเราจะต้องแน่ใจว่ามีหนี้สินที่ไม่มากเกินไป หรืออาจกล่าวได้ว่าจะต้องไม่มีหนี้สินมากเกินกว่าหนึ่งส่วนสามของรายได้ต่อเดือน
เช่น นาง ก. มีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน ภาระหนี้สินต่อเดือนที่มีได้คือไม่เกินประมาณ 16,666 บาท ซึ่งถ้าหากมีมากกว่านั้น ก็จะต้องเพิ่มรายได้ หรือ ลดค่าใช้จ่ายลงเพื่อให้นาง ก.มีสุขภาพการเงินที่ดี
สำรวจว่าตนเองมีเงินออมเผื่อฉุกเฉินมากพอหรือไม่ ?
สำหรับเงินออมเผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินที่ควรมีติดตัวไว้นั้นคือควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉินล่วงหน้าจากค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายประจำอยู่ทุกเดือนขั้นต่ำ 6 เดือนขึ้นไป เช่น นาง ก. มีรายจ่ายประจำต่อเดือน เดือนละ 25,000 บาท เงินออมเผื่อฉุกเฉินที่ควรมี คือ 25,000 x 6 = 150,000 บาทนั่นเอง
วิธีสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี
สำหรับบางคนที่ลองสำรวจสุขภาพทางการเงินของตนเองดูแล้วพบว่าตนเองมีสุขภาพทางการเงินที่ไม่ดี ในวันนี้ แรบบิท แคร์ ก็มีวิธีการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีมาฝากให้ทุกคน
- มีเป้าหมายการออมที่ชัดเจน : ตั้งเป้าหมายทางการออมที่ชัดเจนและตั้งใจในการเก็บออมเงินอย่างจริงจัง ใช้จ่ายเงินด้วยวิธีออมก่อนใช้ทีหลังหลังจากที่ตั้งเป้าหมายที่พอดีและเหมาะสมให้กับตนเอง
- มองให้ขาดระหว่างความจำเป็นและความอยาก : ต้องฝึกพิจารณาว่าการซื้อของด้วยความจำเป็นและความอยากนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยต้องรู้จักหักห้ามใจและเลือกซื้อเฉพาะของที่จำเป็น
- มุ่งมั่นตั้งใจในการเก็บออมเงินสำรองฉุกเฉิน : สำหรับเงินสำรองฉุกเฉินนั้นควรจะมีสำรองไว้เป็นจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายสำหรับ 6 เดือนขึ้นไป
- ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ : การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจะทำให้เราสามารถรู้ที่มาที่ไปของเงิน และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกได้อย่างง่ายดาย
- ให้ความสำคัญกับการใช้หนี้ : สำหรับใครที่มีหนี้สินติดตัวควรให้ความสำคัญกับการปลดหนี้โดยไว
- หาหนทางที่จะช่วยเพิ่มรายได้ : การมองหาวิธีการสร้างรายได้เพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการทำงานประจำเป็นอีกวิธีที่จะสนับสนุนการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี
- รู้จักลงทุน ทำให้เงินงอกเงย : ศึกษาวิธีการใหม่ ๆ ในการใช้เงินต่อเงิน เช่น การเล่นหุ้น กองทุนรวม การซื้อพันธบัตรรัฐบาล การซื้อประกันออมทรัพย์ กับ แรบบิท แคร์ ซึ่งจะช่วยให้เงินเก็บที่มีอยู่สามารถงอกเงยขึ้นได้เรื่อย ๆ ทั้งนี้จะต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนเริ่มลงทุนทุกครั้งนั่นเอง
วิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่ดีในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ สำหรับใครที่บ่มเพาะสุขภาพทางการเงินที่ไม่ดีเอาไว้ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้เลย
แนวคิดที่ต้องมีเพื่อให้มีสุขภาพทางการเงินที่ดีอยู่ตลอดเวลา
สำหรับผู้ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีอยู่แล้วและผู้ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ยังไม่ดีเท่าไหร่นักแต่อยากปรับเปลี่ยนแนวความคิดของตนเองเพื่อเริ่มต้นสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีอย่างยั่งยืนควรยึดมั่นกับแนวความคิดดังต่อไปนี้ในการบริหารจัดการการเงิน
- ต้องใช้เงินให้น้อยกว่าจำนวนเงินที่หามาได้
- หนี้สินนั้นไม่นับว่าเป็นเงินของเรา
- ประสบปัญหาเงินเฟ้อไม่น่ากลัวเท่าการขาดทุน
- บางครั้งการมองโลกในแง่ร้ายก็ช่วยลดโอกาสในการจนได้
- อยากมีอิสรภาพทางการเงินจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาสร้าง
- ไม่มีเงินจำนวนมากที่สามารถหามาได้โดยง่าย
- ความโลภไม่ทำให้ใครรวย แต่ทำให้เงินหมดตัวเสมอ
แนวคิดเหล่านี้ถือเป็นแนวคิดดี ๆ ที่หากเรายึดถือเอาไว้ในใจ แน่นอนว่าจะสามารถสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีและยั่งยืนได้อย่างไม่ยากแน่นอน
และนี่ก็คือความสำคัญของการมีสุขภาพทางการเงินที่ดี และวิธีในการเช็กสุขภาพทางการเงิน รวมถึงเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพทางการเงินของตนเองในแง่มุมต่าง ๆ ที่ แรบบิท แคร์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนได้บ้างนั่นเอง
สรุป
สุขภาพทางการเงินหมายถึงสถานการณ์ทางการเงินของตัวเรา ณ ปัจจุบันว่ามีสภาพการณ์เป็นอย่างไร เปรียบเสมือนสุขภาพร่างกายของเราว่าอยู่ในเกณฑ์แข็งแรง เกณฑ์ดี เกณฑ์ปกติ หรือมีความย่ำแย่มากน้อยแค่ไหน โดยวิธีเช็กเบื้องต้น คือ
- ตรวจสอบว่าเรามีทรัพย์สมบัติอะไรอยู่บ้าง เช่น สินทรัพย์ต่าง ๆ , คำนวนหนี้ระยะสั้น รวมไปถึงหนี้ระยะยาว
- สำรวจว่าตนเองมีหนี้ต่อเดือน มากเกินไปหรือไม่
- สำรวจว่าตนเองมีเงินออมเผื่อฉุกเฉินมากพอไหม
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct