
แผลรถล้มอันตรายหรือไม่ ? มีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร ?
รู้หรือไม่ว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด เพราะในแต่ละวันผู้คนจำนวนมากต่างใช้รถยนต์เดินทางไปทำงานรวมถึงทำธุระต่าง ๆ ยิ่งคนใช้รถมากเท่าไหร่โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็ย่อมมากตาม และถ้าเป็นการขับขี่ด้วยความประมาทแล้วก็จะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นไปอีกดังที่เราเห็นเป็นข่าวในสื่อแทบทุกวัน เพื่อให้คุณตระหนักถึงความสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัยน้องแคร์จึงขอรวบรวมสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนในทุก ๆ ด้านมานำเสนอ บอกเลยว่าเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เว็บไซต์ไหน ๆ ก็ไม่เคยนำเสนอมาก่อน แล้วคุณจะพบข้อเท็จจริงบนท้องถนนที่คุณจะต้องอึ้ง
เพื่อเป็นการชี้ให้คุณเห็นสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนในแต่ละประเภท น้องแคร์จึงนำข้อมูลอุบัติเหตุรถยนต์ปี 2564 (ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุด) จากสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม มาวิเคราะห์ข้อเท็จจริงให้คุณได้เห็นในแง่มุมต่าง ๆ และถ้ามีข้อมูลชุดใหม่ ๆ ในอนาคตเราก็จะมาอัพเดทให้คุณได้ทราบก่อนใคร
ในแต่ละปีมีอุบัติเหตุบนท้องถนนกี่ครั้ง
จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุรถยนต์ที่บันทึกโดยกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยนั้นได้ระบุว่า เมื่อปี พ.ศ 2564 ที่ผ่านมานั้นมีการเกิดอุบัติเหตุรถชนน้อยใหญ่รวมทั้งหมดถึง 20,457 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าปี พ.ศ. 2563 ที่เกิดอุบัติเหตุรวม 21,052 ครั้ง, ส่วนปี พ.ศ. 2562 จะเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งสิ้น 19,189 ครั้ง, ซึ่งบ่งบอกได้ว่าในแต่ละปีนั้นมีอุบัติเหตุรถชนกันจำนวนมากเฉลี่ยแล้วประมาณวันละ 50 – 60 ครั้ง เลยทีเดียว
หมายเหตุ – บันทึกข้อมูลดังกล่าวมาจากกรมทางหลวง โดยเป็นอุบัติเหตุรถชนบนท้องถนนและเป็นคดีความ ยังไม่รวมกับข้อมูลของสำนักงานตำรวจ
จาก 77 จังหวัดในประเทศไทยในปี 2564 เราได้รวบรวมมาให้แล้วว่าจังหวัดไหนเกิดอุบัติเหตุรถยนต์มากที่สุดเรียงตามลำดับข้อมูลมากที่สุดดังนี้
เห็นได้ว่ากรุงเทพฯ ยังคงครองแชมป์อันดับ 1 ของจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุรถชนบ่อยที่สุด ซึ่งอัตราเกิดอุบัติเหตุทั้งหมดนั้นย่อมขึ้นกับจำนวนผู้ใช้รถใช้ถนน จึงไม่แปลกใจว่าจังหวัดใหญ่ ๆ ที่มีการสัญจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี ฯลฯ ย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ประกอบกับจังหวัดใหญ่ ๆ มักมีแยกเยอะ ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยได้เช่นกัน ตรงข้ามกับจังหวัดที่มีผู้อาศัยน้อยย่อมเกิดอุบัติเหตุน้อยอย่าง จังหวัดพิจิตร หรือจังหวัดระนองนั่นเอง
การเกิดอุบัติเหตุรถชนในแต่ละครั้ง ทางกระทรวงคมนาคมได้มีการบันทึกประเภทของยานยนต์เอาไว้ด้วย ซึ่งสถิติปี 2564 ได้ระบุไว้ว่ามีรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์รวมทั้งสิ้น 30,869 คัน จากอุบัติเหตุรวมทั้งสิ้น 20,457 ครั้ง โดยแบ่งออกตามประเภทยานยนต์ดังนี้
เห็นสถิติแล้วต้องบอกว่าน่าทึ่งมาก เพราะรถที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุดนั้นเป็นรถกระบะ 4 ล้อ ซึ่งมากกว่ารถยนต์ทั่วไปตามที่เราคาดการณ์กัน ส่วนรถจักรยานยนต์ก็เองก็นับว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อยไม่แพ้รถยนต์เลยทีเดียว(ทั้งนี้ทางกระทรวงคมนาคมอาจบันทึกแต่อุบัติเหตุรถชนใหญ่ ๆ ที่มีการเป็นคดีความ ไม่ได้นับการเฉี่ยวชนเล็กน้อย) ทางด้านรถที่เกิดอุบัติน้อยอย่างรถสามล้อและรถโดยสารนั้นไม่ต้องสงสัยเลยเพราะเป็นประเภทยานยนต์ที่ใช้งานบนนถนนน้อยนั่นเอง
จากอุบัติเหตุรถยนต์ทั้งหมด 20,457 ครั้ง ในปี 2564 พบว่า
ในขณะที่บริเวณทางโค้งหักศอก, บริเวณถนนที่มีการเปลี่ยนจำนวนช่องเลน, และบริเวณจุดกลับรถต่างระดับ มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุดแค่อย่างละ 1 ครั้งในปี 2564
จากสถิติดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าถนนที่เป็นทางตรงธรรมดา ๆ นั่นแหละเป็นจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด เนื่องจากลักษณะท้องถนนในเมืองไทยส่วนใหญ่มักจะเป็นทางตรง อุบัติเหตุบนท้องถนนจึงมักเกิดกับถนนเส้นทางตรง แต่ทั้งนี้ก็ตั้งข้อสังเกตได้ว่าแม้จะเป็นทางตรงขับขี่ง่าย ๆ แต่ผู้ขับขี่ก็ยังขับรถโดยประมาทจนเกิดอุบัติเหตุได้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ขับขี่ทั่วไปขาดวินับทางจราจรอยู่มากนั่นเอง แต่ในทางกลับกันถนนที่เป็นโค้งหักศอกที่เป็นถนนอัตรายกลับมีสถิติเกิดอุบัติเหตุรถชนน้อยมาก อาจเป็นเพราะยิ่งถนนอันตรายผู้ขับก็มักจะตั้งสมาธิและลดความเร็วลงจนทำให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุต่ำ
จากบันทึกของกระทรวงคมนาคมได้มีการทำหลักฐานอธิบายมูลเหตุของการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ในแต่ละเคสไว้ดังนี้
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุดได้แก่ มีสิ่งบดบังการมองเห็น, ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ, ถนนชำรุด ซึ่งทั้งหมดนี้มีอัตราเกิดอุบัติเหตุเพียงประเภทละ 1 ครั้งเท่านั้น
ส่วนลักษณะการเกิดอุบัติเหตุส่วนมากจะเป็นการพลิกคว่ำหรือตกถนนในทางตรงมากที่สุด โดยเกิดเหตุไปทั้งสิ้นรวม 8,222 ครั้ง, ตามมาด้วยการชนท้าย 5,942 ครั้ง, การพลิกคว่ำหรือตกถนนในทางโค้ง 2,570 ครั้ง, การชนในทิศทางตรงข้าม 950 ครั้ง, และการชนสิ่งกีดขวาง 702 ครั้ง’
จะเห็นได้ว่าจากการเกิดอุบัติเหตุรถชนทั้งหมดนั้นส่วนใหญ่มีมาจากการไม่เคารพกฎจราจรของตัวผู้ขับขี่เอง โดยเฉพาะการใช้ความเร็วเกินกฏหมายกำหนดซึ่งเทียบตามอัตราแล้วมากกว่าสาเหตุใด ๆ รวมกันเสียอีก ขณะที่การหลับในและเมาสุราขณะขับขี่เป็นเป็นสาเหตุต้น ๆ ของการเกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน ส่วนปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่อย่างคน/รถ/สัวต์วิ่งตัดหน้า รวมถึงยานพาหนะบกพร่องนั้น ยังนับว่าเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนน้อยกว่าความบกพร้องของตัวผู้ขับขี่อยู่มาก
จากข้อมูลสถิติที่บันทึกไว้พบว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในวันที่สภาพอากาศแจ่มใส ซึ่งเกิดขึ้น 17,447 ครั้ง หรือเทียบเป็นอันตรา 85.28%, ตามมาด้วยสภาพอากาศฝนตก ซึ่งมีการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 2,769 ครั้ง หรือเทียบเป็น 13.53%, และอากาศหมอกหนา มีควัน หรือมีฝุ่น ซึ่งเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 130 ครั้ง หรือเทียบเป็น 0.63%, ส่วนสภาพอากาศมืดครึ้มมีอุบัติเหตุเกิดรวมดันทั้งสิ้น 74 ครั้ง หรือเทียบเป็น 0.36%
ดูจากสถิติแล้วนับว่าไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะสภาพอากาศส่วนมากมักจะแจ่มใส่อยู่แล้ว แต่ก็สะท้อนให้คนขับเห็นว่าแม้จะเป็นสภาพอากาศแจ่มใส แต่ถ้าขับรถประมาทหรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุรถชนได้เช่นกัน ในทางกลับกันหากขับรถในสภาพอากาศฝนตก ผู้ขับก็ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น
จากสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งหมดที่อ้างอิงจากปี พ.ศ. 2564 นั้น มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งสิ้นดังนี้
ประกันรถยนต์แต่ละชั้นมีความคุ้มครองในกรณีอุบัติเหตุบนท้องถนนที่แตกต่างกันไปตามระดับความคุ้มครอง โดยหลัก ๆ แล้ว การคุ้มครองในกรณีอุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถสรุปได้ดังนี้:
1. ประกันรถยนต์ชั้น 1
2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+
3. ประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง
4. ประกันรถยนต์ชั้น 3+
5. ประกันรถยนต์ชั้น 3
จะเห็นได้ว่าจากอัตราการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ทั้งหมดส่วนมากมักจะเป็นการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บสาหัสก็ยังคงมีจำนวนมากนับหลักพันต่อปีเลยทีเดียว จึงไม่แปลกใจเลยที่ทุกวันนี้มีรายงานข่าวอุบัติเหตุและมีผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์อันเศร้าสลดให้ได้เห็นกันอยู่ทุกวัน
สุดท้ายนี้น้องแคร์ขอฝากให้ทุกคนใช้ถนนอย่างระมัดระวังเพื่อหลักเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพราะหากพลาดพลั้งเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วย่อมมีการสูญเสียตามมาแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียทรัพย์สินจนถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือชีวิตของคุณเองและชีวิตของคนที่คุณรัก จากสถิติอุบัติเหตุบนถนนที่นำมาให้ดูทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องที่ไม่คาดฝันนั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
สิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับรถเลยก็คือประกันรถยนต์ต้องมีติดไว้เสมออย่าขาด เพราะประกันจะช่วยคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์ คุ้มครองค่ารักษาเวลาบาดเจ็บ รวมไปถึงคุ้มครองชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากคุณรู้ตัวว่าประกันรถยนต์กำลังจะหมด อย่ารอช้า! รีบติดต่อมาเช็กความคุ้มครองและตรวจสอบเบี้ยประกันรถยนต์กับเราได้ทันทีกับแรบบิท แคร์ ตลอด 24 ชั่วโมง
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
บทความแคร์ขับขี่ปลอดภัย
แผลรถล้มอันตรายหรือไม่ ? มีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร ?
การจอดและถอยรถแบบครบสูตร อ่านแล้วช่วยให้เก่งขึ้นได้!
อบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2568 ยากไหม ? มีขั้นตอนในการอบรมใบขับขี่ออนไลน์อย่างไร ?