ในการบรรทุกสิ่งของ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด





การบรรทุกของไม่ว่าจะเป็นบนรถกระบะ หรือรถบรรทุกขนาดใดก็ตาม กฎหมายมีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ในเรื่องของระยะความกว้าง ยาว สูง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดในการบรรทุกของขึ้นรถ ซึ่งคนที่กำลังเตรียมสอบใบขับขี่ด้านนี้ ต้องเตรียมความรู้ให้พร้อมว่ามีกำหนดเรื่องไหนบ้างที่มีโอกาสออกสอบ
โดยทาง แรบบิท แคร์ ได้สรุปรวมข้อมูลทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการบรรทุกของมาให้แล้ว ตั้งแต่การบรรทุกสิ่งของที่ยื่นออกนอกตัวรถต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง วิธีการวัด กว้าง ยาว สูงการบรรทุกสิ่งของ และข้อควรระวังเมื่อท่านขับรถที่บรรทุกสิ่งของที่มีความสูง จะมีผลอย่างไร สามารถหาคำตอบไปพร้อมกันได้ในบทความนี้
บรรทุกสิ่งของยื่นออกนอกตัวรถต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง?
การบรรทุกของที่ยื่นออกมานอกตัวรถ ต้องคำนึงถึงกฎหมาย บรรทุกของเกินตัวรถ, กฎหมายรถกระบะบรรทุก 4 ล้อ, กฎหมายรถบรรทุก 6 ล้อ และกฎหมายรถบรรทุก 10 ล้อ เพื่อให้เข้าใจได้อย่างครอบคลุมทั้งหมดในการบรรทุกของ ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนกรณีบรรทุกเกินขีดจำกัด
กฎหมาย บรรทุกของเกินตัวรถ
กฎหมาย บรรทุกของเกินตัว ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัตเหตุบนท้องถนน จากเหตุผลสำคัญ ได้แก่
- การบดบังวิสัยทัศน์ เพราะมีการบรรทุกของที่เกินออกมาจากตัวรถทุกทิศทาง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้เป็นปกติ
- เสี่ยงยางแตก เนื่องจากการบรรทุกที่เกินขนาด ยางรถยนต์ต้องแบกรับภาระหนักมากเกินขีดจำกัด หากมีการกระทบกระเทือนที่รุนแรง ก็มีโอกาสกลายเป็นอันตรายได้
- ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว เมื่อรับน้ำหนักมากขึ้น หมายความว่าหน้ายางต้องสัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้นเช่นกัน จึงส่งผลให้ยางสึกและสูญเสียประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนเร็วกว่าปกติ
- เสียสมดุลการทรงตัว พอน้ำหนักเปลี่ยนไปในปริมาณมาก ผู้ขับขี่จะไม่สามารถควบคุมรถได้เหมือนปกติ เสียสมดุลช่วงเวลาถ่ายน้ำหนักระหว่างเลี้ยว หรือไม่สามารถเบรกแล้วหยุดได้ดั่งใจนึก
นอกเหนือจากเรื่องความปลอดภัยที่เป็นวัตถุประสงค์หลัก ของกฎหมายรถบรรทุกแล้ว ผู้ขับขี่รถกระบะ, รถบรรทุก 6 ล้อ ไปจนถึงรถบรรทุก 10 ล้อเองก็ต้องพึงระวังไว้ด้วยว่าบรรทุกของในลักษณะไหน ถึงจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมเสี่ยงอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
กฎหมายรถกระบะบรรทุก 4 ล้อ
กฎหมายรถกระบะบรรทุก 4 ล้อ มีข้อกำหนด คือ ต้องบรรทุกของไม่เกินความกว้างตัวถังรถ, รถกระบะบรรทุกสูงจากพื้นไม่เกิน 3 เมตร (กรณีที่รถมีขนาดใหญ่กว่าบรรทุกได้สูงสุด 4 เมตร), ด้านหน้าต้องยื่นไม่เกินส่วนหน้าหม้อของรถ, ด้านหลังยื่นพ้นตัวรถได้ไม่เกิน 2.5 เมตร, หากมีของยื่นออกมาด้านหลัง ต้องติดผ้าแดงผูกท้ายรถ หรือไฟสัญญาณสีแดง ให้รถคันหลังสังเกตเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร และต้องมีการติดตั้งตัวช่วยป้องกัน ไม่ให้การบรรทุกของเสี่ยงร่วงหล่นจากท้ายกระบะด้วย
คำแนะนำเพิ่มเติม หากมีการฝ่าฝืนบรรทุกสูง เกินกว่า กฎหมายกําหนด มาตรากฎกระทรวง ฉบับที่ 20 พ.ศ. 2550 ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และกรณีที่มีการบรรทุกเกินน้ำหนักตามกฎหมายกำหนด ปรับเริ่มต้น 10,000 บาท สูงสุด 200,000 บาท และหากตรวจพบว่ามีการปรับเปลี่ยน ดัดแปลงรถให้บรรทุกได้เกินขีดจำกัด มีโทษปรับสูงสุดอีก 2,000 บาท
กฎหมายรถบรรทุก 6 ล้อ
กฎหมายรถบรรทุก 6 ล้อ จะเริ่มต้นด้วยเรื่องนำ้หนักบรรทุกของห้ามเกิน 15 ตัน และกฎหมาย ความสูง รถบรรทุก 6 ล้อกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 4 เมตร ซึ่งทุกครั้งที่มีการบรรทุกของ ต้องมีผ้าใบคลุมมิดชิด พร้อมกับรัดกุมป้องกันไม่ให้สิ่งของร่วงหล่น เพราะถ้าฝ่าฝืนจะถูกปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท นอกเหนือจากนั้นห้ามวิ่งในเวลาที่กำหนด ได้แก่
- รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งบนทางราบเวลา 06.00-09.00 น. และ เวลา 16.00-20.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ
- รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งบนทางด่วนเวลา 06.00-09.00 น. และ 16.00-20.00 น.
กฎหมายรถบรรทุก 10 ล้อ
กฎหมายรถบรรทุก 10 ล้อ จะมีกำหนดว่าห้ามบรรทุกของน้ำหนักเกินกว่า 25 ตัน เช่นเดียวกันต้องมีผ้าใบ สายรัดคลุมมิดชิด ปกป้องของร่วงหล่น ส่วนเรื่องเวลาเดินรถจะแตกต่างกันออกไปดังนี้
- รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งบนทางราบเวลา 06.00-10.00 น. และ เวลา 15.00-21.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ
- รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งบนทางด่วนเวลา 06.00-09.00 น. และ 15.00-21.00 น.
คำแนะนำเพิ่มเติม หากฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องการบรรทุกสิ่งของอาจมีโทษปรับเพิ่มเติม เริ่มต้น 10,000 บาท สูงสุด 100,000 บาทได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังการขับขี่รถบรรทุกไม่ว่าจะขนาด 6 ล้อหรือ 10 ล้อ จะต้องมีใบขับขี่ที่ได้รับการอนุญาตทางกฎหมายโดยเฉพาะ คือ รถบรรทุกสาธารณะ (ท.2) สำหรับการขับขี่รถบรรทุก 6-10 ล้อ ป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง และรถบรรทุกส่วนบุคคล (บ.2) สำหรับการขับขี่รถบรรทุก 6-10 ล้อ ป้ายทะเบียนพื้นสีขาว

วิธีวัด กว้าง ยาว สูงการบรรทุกสิ่งของ
วิธีการวัด กว้าง ยาว สูงการบรรทุกสิ่งของทั้งของรถยนต์ และรถกระบะต้องวัดอย่างไร เพื่อให้เรามั่นใจว่าเวลาจำเป็นต้องบรรทุกของขึ้นรถ เราจะไม่ทำผิดเรื่องความสูงรถบรรทุก ตามกฎหมาย ให้เสี่ยงเกิดอันตราย และอาจถูกปรับได้ สามารถติดตามดูว่ากว้าง ยาว สูง วัดยังไงแบบง่าย ๆ ได้ดังนี้
ขนาดรถยนต์ กว้าง ยาว สูง
ขนาดรถยนต์ กว้าง ยาว สูง สามารถวัดได้โดยเริ่มจากความกว้าง คือ การวัดจากมิติด้านหน้าหรือด้านหลัง จากอีกด้านไปอีกด้าน, การวัดความยาวให้เริ่มจากด้านหน้าส่วนหม้อรถ ไปจนถึงท้ายสุดของรถ และความสูงวัดจากพื้นที่ผิวยางสัมผัส จนถึงส่วนสูงที่สุดของหลังคา สำหรับเรื่องกฎหมายบรรทุกของกับรถยนต์ทั่วไป จะใช้พื้นฐานที่ว่าห้ามบรรทุกของเกินด้านกว้าง และยาวต่อท้ายไม่เกิน 2.5 เมตร เช่นกัน
รถกระบะ กว้าง ยาว กี่ เมตร
ความกว้างรถกระบะและความยาวกี่เมตร? ต้องทำการวัดโดยใช้วิธีเดียวกันกับการวัดขนาดรถยนต์ทั่วไป แต่กระบะจะมีความพิเศษที่ความสูง จะต้องสูงไม่เกิน 3 เมตรรวมสิ่งของที่บรรทุก หรือหากขนาดรถกระบะใหญ่ สามารถบรรทุกของได้มีความสูงถึง 4 เมตร น้ำหนักรวมกันไม่เกิน 9.5 ตัน
ท้าย รถกระบะ ยาว กี่ เมตร
ท้าย รถกระบะ ยาว กี่ เมตร? สามารถบรรทุกของแล้วยื่นออกมา จากความยาวรถกระบะได้ไม่เกิน 2.5 เมตร ทั้งยังต้องมีการติดธงหรือสัญญาณไฟสีแดง เพื่อให้รถคันหลังมองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตรด้วย
เมื่อท่านขับรถที่บรรทุกสิ่งของที่มีความสูงจะมีผลอย่างไร
ช่วงเวลาที่ต้องขับขี่รถบรรทุกของที่มีความสูง จะทำให้ตัวรถไม่สามารถถ่ายน้ำหนักได้ตามปกติ เสียสมดุลในการขับขี่ไปจากเดิม รวมถึงระยะเบรกที่เพิ่มขึ้นจากภาระหนัก ความเร็วที่อาจเร่งไม่ได้ตามเดิม ส่งผลให้ผู้ขับขี่ต้องมีสมาธิในการควบคุมรถ รวมถึงต้องมีทักษะความสามารถเพื่อบังคับทิศทางให้รถที่บรรทุกของ วิ่งตรงไปบนถนนได้ตามปกติ และไม่เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มเติม

รถกระบะบรรทุกของทำประกันรถยนต์ได้ไหม?
กรณีนี้สามารถทำประกันรถยนต์ได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 2, ประกันชั้น 3+ หรือประกันชั้น 3 แต่ทั้งนี้หากมีการใช้งานรถกระบะที่ดัดแปลงเพิ่มเติม ไว้สำหรับบรรทุกสิ่งของตามที่กฎหมายกำหนด เช่น มีโครงเหล็ก หรือโครงหลังคาเพิ่มขึ้นมา มีป้ายทะเบียนสีขาวตัวอักษรสีเขียว จะถูกบันทึกว่าเป็นรถยนต์บรรทุกที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ รับจ้างหรือให้เช่า แต่ถ้าเป็นรถกระบะที่ไม่ได้มีการดัดแปลง ใช่บรรทุกไม่เกิน 3 ตัน ป้ายทะเบียนสีขาวตัวอักษรสีเขียว จะได้รับการบันทึกว่าเป็นรถยนต์ใช้งานส่วนบุคคล ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
ดังนั้นก่อนเลือกประกันรถยนต์ให้เหมาะสม ต้องเลือกดูทั้งความคุ้มครองที่ครอบคลุม ผ่านเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ดีก่อนตัดสินใจ ซึ่งถือเป็นรายละเอียดที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด ถ้าหากลองเช็กแล้วยังไม่เข้าใจในส่วนไหนเรื่องประกันภัยรถ สามารถติดต่อสอบถามกับทาง แรบบิท แคร์ ได้โดยตรงที่เบอร์ 1438 (24 ชั่วโมง) เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมแนะนำประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัยชั้นนำมากกว่า 30 แห่ง และยังมีโปรโมชันส่วนลดสูงสุดถึง 70% หรือเลือกผ่อน 0% ได้นาน 10 เดือน
สรุป
หากฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องการบรรทุกสิ่งของอาจมีโทษปรับเพิ่มเติม เริ่มต้น 10,000 บาท – 100,000 บาท ได้ อีกทั้งยังการขับขี่รถบรรทุกจะต้องมีใบขับขี่ที่ได้รับการอนุญาตทางกฎหมายโดยเฉพาะ คือ รถบรรทุกสาธารณะ (ท.2) สำหรับการขับขี่รถบรรทุก 6-10 ล้อ ป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง และรถบรรทุกส่วนบุคคล (บ.2) สำหรับการขับขี่รถบรรทุก 6-10 ล้อ ป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ซึ่งจะจัดอยู่ในประเภทรถยนต์บรรทุกที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ ดังนั้น ควรเลือกประกันรถยนต์ให้เหมาะสมกับประเภทรถยนตืเสมอ

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บทความแคร์ขับขี่ปลอดภัย

วิธีแก้ง่วงตอนขับรถ ขับรถแล้วง่วงต้องทำอย่างไร เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

หางาน ขับรถยนต์ส่วนตัว งานอิสระ มีรถยนต์ส่วนตัว มีอะไรบ้าง แนะนำงานที่น่าสนใจ

แผลรถล้มอันตรายหรือไม่ ? มีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร ?