เลี้ยวรถอย่างมืออาชีพ ด้วยคู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน





การขับรถบนท้องถนนนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย และหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดคือการ เลี้ยวรถ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือการกลับรถ การเลี้ยวรถที่ถูกต้องและปลอดภัยนั้น จะช่วยให้คุณควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของการ เลี้ยวรถ ตั้งแต่ความหมาย การจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง การให้สัญญาณไฟ การกะระยะ ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นขณะเลี้ยว พร้อมด้วยข้อควรรู้เกี่ยวกับกฎหมายและข้อควรระวังต่าง ๆ เพื่อให้คุณเป็นผู้ขับขี่ที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ
เลี้ยว หมายถึง อะไร
เลี้ยว หมายถึง การเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของรถยนต์ โดยการหมุนพวงมาลัยเพื่อบังคับให้ล้อหน้าเปลี่ยนทิศทาง ทำให้รถเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ การเลี้ยวเป็นทักษะพื้นฐานที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องมี และต้องฝึกฝนให้ชำนาญ เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยในทุกสถานการณ์
การเลี้ยวที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่การหมุนพวงมาลัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประเมินสถานการณ์ การให้สัญญาณไฟ การใช้ความเร็วที่เหมาะสม และการควบคุมรถอย่างนุ่มนวล เพื่อให้การเลี้ยวเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด
การจับพวงมาลัยรถยนต์ที่ถูกต้องขณะเลี้ยวรถ
การจับพวงมาลัยที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญของการควบคุมรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะ เลี้ยวรถ ตำแหน่งการจับพวงมาลัยที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ลดความเมื่อยล้า และตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
- ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และ 3 นาฬิกา
เป็นตำแหน่งที่แนะนำสำหรับการจับพวงมาลัย เนื่องจากช่วยให้คุณควบคุมรถได้อย่างมั่นคงและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดี การจับพวงมาลัยในตำแหน่งนี้ ช่วยให้คุณสามารถหมุนพวงมาลัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องยกมือออกจากพวงมาลัย
- จับพวงมาลัยให้กระชับ
จับพวงมาลัยให้กระชับพอดี ไม่แน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เมื่อยล้า และไม่หลวมจนเกินไป เพราะจะทำให้ควบคุมรถได้ไม่แม่นยำ การจับพวงมาลัยที่กระชับ ช่วยให้คุณรู้สึกถึงการตอบสนองของรถ และสามารถควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำ
- หลีกเลี่ยงการจับพวงมาลัยด้วยมือเดียว
การจับพวงมาลัยด้วยมือเดียวเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ควบคุมรถได้ยาก และอาจเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะ เลี้ยวรถ การจับพวงมาลัยด้วยมือเดียว จะลดความสามารถในการควบคุมรถอย่างมาก และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
เลี้ยวรถหมุนพวงมาลัยกี่รอบ
จำนวนรอบในการหมุนพวงมาลัยขณะ เลี้ยวรถ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รัศมีของการเลี้ยว ความเร็วของรถ และประเภทของรถยนต์ โดยทั่วไปแล้ว การเลี้ยวในที่แคบ เช่น การจอดรถ หรือการกลับรถ อาจต้องหมุนพวงมาลัยหลายรอบ ในขณะที่การเลี้ยวบนถนนใหญ่ อาจใช้การหมุนพวงมาลัยเพียงเล็กน้อย
- การหมุนพวงมาลัยมากเกินไป
อาจทำให้รถเสียการควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับด้วยความเร็วสูง การหมุนพวงมาลัยมากเกินไป จะทำให้ล้อหน้าหมุนมากเกินไป และอาจทำให้รถลื่นไถล
- การหมุนพวงมาลัยน้อยเกินไป
อาจทำให้รถเลี้ยวไม่พ้น หรือต้องแก้ไขการเลี้ยวหลายครั้ง การหมุนพวงมาลัยน้อยเกินไป จะทำให้รถเลี้ยวไม่เข้าโค้ง และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ฝึกฝนการควบคุมพวงมาลัย
เพื่อให้สามารถเลี้ยวได้อย่างแม่นยำและนุ่มนวล การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับการตอบสนองของรถ และสามารถควบคุมพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์

ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยวจะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าใด
การให้สัญญาณไฟเลี้ยวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ทราบถึงความตั้งใจในการเลี้ยวของคุณ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ กฎหมายกำหนดว่า ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยวจะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร
- ตรวจสอบไฟเลี้ยว
ก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบไฟเลี้ยวให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ไฟเลี้ยวที่ชำรุด จะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ไม่สามารถรับรู้ถึงความตั้งใจในการเลี้ยวของคุณได้
- ให้สัญญาณไฟล่วงหน้า
ก่อนเลี้ยวควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าอย่างน้อย 30 เมตร การให้สัญญาณไฟล่วงหน้า จะช่วยให้ผู้ขับขี่คนอื่นๆ มีเวลาในการประเมินสถานการณ์ และเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยวของคุณ
- ดับไฟเลี้ยวทันที
หลังจากเลี้ยวเสร็จ ควรดับไฟเลี้ยวทันที เพื่อไม่ให้ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ เกิดความสับสน การปล่อยให้ไฟเลี้ยวติดค้างไว้ จะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ เข้าใจผิดว่าคุณกำลังจะเลี้ยวไปในทิศทางนั้น
ต้องเปิดไฟเลี้ยวก่อนไฟเลี้ยวกี่เมตร
ตามกฎหมายจราจรทางบกของประเทศไทย กำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟเลี้ยวก่อนที่จะเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถในระยะไม่น้อยกว่า 30 เมตร เพื่อให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางคนอื่น ๆ ได้รับทราบถึงความประสงค์ในการเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
ระยะทาง (เมตร) | ความหมาย |
0-30 | อันตราย! เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากผู้ร่วมใช้เส้นทางอาจไม่ทันสังเกตเห็น |
30-60 | ระยะที่เหมาะสมสำหรับการให้สัญญาณไฟเลี้ยว ช่วยให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางมีเวลาในการตอบสนอง |
มากกว่า 60 | อาจทำให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางเกิดความสับสน หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับความประสงค์ในการ เลี้ยว |
ข้อควรรู้ การเปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ เป็นการแสดงความมีน้ำใจและความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมทาง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน
รถตัดหน้า ประมาทร่วมหรือไม่ ใครผิด
กรณีรถตัดหน้า เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และการพิจารณาว่าใครเป็นฝ่ายผิดนั้น ต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว หากรถคันที่ตัดหน้ากระทำโดยประมาท เช่น เปลี่ยนช่องทางเดินรถอย่างกระทันหัน หรือเลี้ยวตัดหน้ารถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด รถคันที่ตัดหน้าจะเป็นฝ่ายผิด
- ประมาทร่วม
ในบางกรณี อาจถือว่าเป็นประมาทร่วม หากรถทั้งสองคันต่างมีส่วนในการกระทำที่ประมาท เช่น รถคันที่ถูกตัดหน้าขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือไม่ได้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวการพิจารณาว่าเป็นประมาทร่วมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือศาล
- รถเลี้ยวตัดหน้า
กรณีรถเลี้ยวตัดหน้า ใครผิด รถคันที่เลี้ยวจะต้องให้ทางแก่รถที่วิ่งมาทางตรงก่อน หากเลี้ยวตัดหน้ารถทางตรงจนเกิดอุบัติเหตุ รถคันที่เลี้ยวจะเป็นฝ่ายผิด เพราะกฎหมายกำหนดให้รถที่เลี้ยวต้องให้ทางแก่รถที่วิ่งมาทางตรงก่อนเสมอ
- ตรวจสอบข้อเท็จจริง
สิ่งสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างยุติธรรม พยานหลักฐานต่าง ๆ เช่น กล้องติดหน้ารถ ร่องรอยความเสียหายของรถ และคำให้การของพยาน จะช่วยให้การพิจารณาเป็นไปอย่างถูกต้อง

เลี้ยวซ้ายรอสัญญาณไฟ หมายถึงอะไร
เลี้ยวซ้ายรอสัญญาณไฟ หมายถึง การที่ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวซ้าย แต่ต้องรอสัญญาณไฟเขียวที่อนุญาตให้เลี้ยวซ้ายได้ เนื่องจากทางแยกนั้นมีการควบคุมการจราจรด้วยสัญญาณไฟ ซึ่งอาจมีสัญญาณไฟเขียวสำหรับรถทางตรง และสัญญาณไฟเขียวสำหรับรถที่จะเลี้ยวซ้ายแยกกัน
- ปฏิบัติตามกฎจราจร
ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาณไฟอย่างเคร่งครัด และรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวที่อนุญาตให้เลี้ยวซ้ายได้ เพราะการฝ่าฝืนสัญญาณไฟเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
- สังเกตป้ายจราจร
นอกจากสัญญาณไฟแล้ว ผู้ขับขี่ควรสังเกตป้ายจราจรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยวซ้าย เช่น ป้าย “ให้ทาง” หรือ “หยุด” ป้ายจราจรเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าใจกฎจราจรในบริเวณนั้น และปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง
- ระมัดระวังคนข้ามถนน
ก่อนเลี้ยวซ้าย ผู้ขับขี่จะต้องระมัดระวังคนข้ามถนน และให้ทางแก่คนข้ามถนนก่อนเสมอ คนข้ามถนนเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดบนท้องถนน และผู้ขับขี่ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนข้ามถนนเป็นอันดับแรก
วิธีกะระยะเลี้ยวรถ ทำอย่างไร
การกะระยะ เลี้ยวรถ เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝน เพื่อให้สามารถเลี้ยวได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้
- ประเมินรัศมีการเลี้ยว
ก่อนเลี้ยวให้ประเมินรัศมีการเลี้ยวว่าแคบหรือกว้างเพียงใด เพื่อปรับองศาการหมุนพวงมาลัยให้เหมาะสม การประเมินรัศมีการเลี้ยวที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณเลี้ยวได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องแก้ไขการเลี้ยวหลายครั้ง
- มองไปยังทิศทางที่ต้องการเลี้ยว
มองไปยังทิศทางที่ต้องการเลี้ยวจะช่วยให้คุณกะระยะและควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ การมองไปยังทิศทางที่ต้องการเลี้ยวจะช่วยให้คุณโฟกัสกับการเลี้ยวและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
- ใช้ความเร็วที่เหมาะสม
ใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับรัศมีการเลี้ยวโดยลดความเร็วก่อนเลี้ยวเพื่อให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น การใช้ความเร็วที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณเลี้ยวได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เสียการควบคุมรถ
- ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับการตอบสนองของรถ และสามารถกะระยะเลี้ยวได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์ การฝึกฝนในสถานที่ที่ปลอดภัย จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการ เลี้ยวรถ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุ
พวงมาลัยหนักเวลาเลี้ยว แก้ไขอย่างไร
อาการพวงมาลัยหนักขณะเลี้ยวหรือเลี้ยวรถพวงมาลัยไม่คืนกลับอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุมีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน
- แรงดันลมยางต่ำ
ตรวจสอบและเติมลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แรงดันลมยางที่ต่ำ จะทำให้พวงมาลัยหนักขึ้น และอาจทำให้ยางสึกหรอผิดปกติ
- น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
ตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ และเติมหากระดับน้ำมันต่ำกว่าเกณฑ์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์มีหน้าที่ช่วยผ่อนแรงในการหมุนพวงมาลัย หากน้ำมันพร่อง จะทำให้พวงมาลัยหนักขึ้น
- ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์
ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์อาจชำรุด อาจต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ทำหน้าที่สร้างแรงดันน้ำมัน เพื่อช่วยผ่อนแรงในการหมุนพวงมาลัย หากปั๊มชำรุดจะทำให้พวงมาลัยหนักมาก
- ลูกหมากหรือแร็คพวงมาลัย
ลูกหมากหรือแร็คพวงมาลัยสึกหรอ อาจต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ลูกหมากและแร็คพวงมาลัยมีหน้าที่เชื่อมต่อพวงมาลัยกับล้อหน้า หากชิ้นส่วนเหล่านี้สึกหรอ จะทำให้พวงมาลัยหนักขึ้น และควบคุมรถได้ยาก

เลี้ยวรถแล้วมีเสียง เกิดจากอะไร
อาการ เลี้ยวรถ แล้วมีเสียง อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุมีลักษณะเสียงที่แตกต่างกัน
- เวลาเลี้ยวรถมีเสียงดังครืด ๆ อาจเกิดจากลูกปืนล้อแตก หรือเพลาขับมีปัญหา เสียงดังครืด ๆ มักจะดังขึ้นเมื่อเลี้ยวหรือขับผ่านพื้นผิวขรุขระ
- เลี้ยวรถมีเสียงดังเอี๊ยด อาจเกิดจากสายพานหย่อน หรือผ้าเบรกหมด เสียงดังเอี๊ยดมักจะดังขึ้นเมื่อเหยียบเบรก หรือเลี้ยวในขณะที่เบรกทำงาน
- เลี้ยวรถล้อมีเสียงดัง อาจเกิดจากลูกหมากกันโคลงหลวม หรือโช้คอัพมีปัญหา เสียงดัง มักจะดังขึ้นเมื่อเลี้ยวหรือขับผ่านพื้นผิวที่ไม่เรียบ
- ตรวจสอบและแก้ไข หากได้ยินเสียงผิดปกติขณะ เลี้ยวรถ ควรรีบนำรถไปตรวจสอบและแก้ไขโดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
เลี้ยวรถ เส้นทึบ ทำได้ไหม
การ เลี้ยวรถ ในบริเวณที่มีเส้นทึบ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากเส้นทึบเป็นเครื่องหมายจราจรที่บ่งบอกว่า ห้ามเปลี่ยนช่องทางเดินรถ หรือเลี้ยวข้ามเส้นทึบ หากฝ่าฝืน อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจราจร
- เส้นทึบเดี่ยว ห้ามเลี้ยวข้าม หรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ การเลี้ยวข้ามเส้นทึบเดี่ยว จะทำให้กีดขวางการจราจร และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
- เส้นทึบคู่ ห้ามเลี้ยวข้าม หรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถโดยเด็ดขาด เส้นทึบคู่ มักจะใช้ในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ทางโค้ง หรือทางขึ้นลงเนิน
- ปฏิบัติตามกฎจราจร ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการเลี้ยวในบริเวณที่มีเส้นทึบ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น การปฏิบัติตามกฎจราจร เป็นหน้าที่ของผู้ขับขี่ทุกคน และเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน
การ เลี้ยวรถ เป็นทักษะที่สำคัญในการขับขี่ ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการ การฝึกฝน และความระมัดระวัง การ เลี้ยวรถ อย่างปลอดภัยนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังสร้างความมั่นใจในการขับขี่ และทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ขับขี่ทุกท่าน และช่วยให้ท่าน เลี้ยวรถ ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยจากเลี้ยวรถที่ถูกวิธี นอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับเราที่เป็นผู้ขับและเพื่อนร่วมถนนแล้ว ยังช่วยการขับขี่ของคุณถูกต้องเป็นไปตาม้ขอกำหนดกฎหมายอีกด้วย และสำหรับใครที่ต้องการเพิ่มความอุ่นใจให้มากขึ้นในทุกเส้นการขับรถยนต์ ต้องนี้เลย ประกันรถยนต์ จาก แรบบิท แคร์ พร้อมบริการให้คำแนะนำจาก แครืเอเจ้นท์ ที่ช่วยเหลือคุณตั้งแต่ก่อนการซื้อจนถึงบริการหลังการขาย คลิกเลย!
สรุป
การกะระยะ เลี้ยวรถ เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝน เพื่อให้สามารถเลี้ยวได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยก่อนเลี้ยวให้ประเมินรัศมีการเลี้ยวว่าแคบหรือกว้างเพียงใด เพื่อปรับองศาการหมุนพวงมาลัย ลดความเร็วเพื่อให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น เพียงเท่านี้ก็สามารถเลี้ยวได้อย่างแม่นยำแล้ว และสำหรับการเปิดไฟเลี้ยวรถในระยะที่เหมาะสมนั้น จะอยู่ที่ 30-60 เมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่ให้ผู้ขับรถตามหลังเห็นชัด ไม่กระชันชิดมากจนเกินไป และเตรียมตัวชะลอรถตามได้ง่ายมากขึ้น และเมื่อเลี้ยวเสร็จแล้ว ควรดับไฟเลี้ยวทันที เพื่อไม่ให้ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ เกิดความสับสนต่อ

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บทความแคร์ขับขี่ปลอดภัย

ในการบรรทุกสิ่งของ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

วิธีแก้ง่วงตอนขับรถ ขับรถแล้วง่วงต้องทำอย่างไร เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

หางาน ขับรถยนต์ส่วนตัว งานอิสระ มีรถยนต์ส่วนตัว มีอะไรบ้าง แนะนำงานที่น่าสนใจ