รถติดเช็คได้! กับ 7 ช่องทางที่ทำให้รู้สภาพท้องถนนก่อนออกจากบ้าน
ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย หรือเย็น หากคุณคือคนใช้รถใช้ถนนแล้ว ล้วนมีโอกาสเจอสถานการณ์รถติดได้แทบทุกเวลาสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ที่สภาพการจราจรในช่วงวันธรรมดานั้นบางทีต้องติดแหงก ชนิดที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตร แต่กลับต้องใช้เวลาเดินทางนานเกือบชั่วโมง
ด้วยเหตุผลที่ว่ารถติดทำให้เราเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แรบบิท แคร์ เลยอยากนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเช็ครถติดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีให้เราเลือกใช้งานหลายแพลตฟอร์ม ทั้งเว็บไซต์ที่มีสภาพการจราจรอัปเดตตลอดเวลา, มีให้ดูกล้องวงจรปิดบนถนนหลายเส้น, อัปเดตข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา และแอปพลิเคชันที่โหลดมาใช้งานได้เหมือนแผนที่ เพียงแต่มีรายงานทั้งหมดเป็นฟีเจอร์นั่นเอง
ปัญหารถติดที่ทำให้การจราจรบนถนนประเทศไทยติดขัด
แล้วทุกคนเคยคิดไหมว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหารถติด หรือการจราจรติดขัดอย่างหนักหน่วงบนท้องถนนประเทศไทย แท้จริงแล้วมาจากเรื่องใดบ้าง? เพราะในทางทฤษฎี มีการตั้งข้อสังเกตใหญ่ได้สัก 5 ข้อ ที่ทำให้ประเทศไทยรถติดในหลายช่วงเวลา โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ที่ต้องรับศึกหนักมากกว่าจังหวัดอื่น
ก่อนเข้าไปดูปัญหารถติดจากข้อมูลตามลิสต์ด้านล่าง อยากให้ทุกคนลองคิดในใจเล่น ๆ ว่าจากที่ใช้รถใช้ถนนอยู่ทุกวันนี้ เจอเหตุการณ์อะไรบ้างที่ทำให้การจราจรติดขัด จนขยับไปไหนไม่ได้โดยเฉพาะในช่วงเวลาพีคไทม์อย่างตอนเช้า และตอนเย็น
- การเติบโตของเมืองที่กระจุกตัวอยู่เพียงบางที่: ทำให้ประชาชนที่ต้องพุ่งตรงเพื่อไปทำงาน มีเป้าหมายเป็นพื้นที่เดียวกัน ทำให้รถติดมากในที่สุด
- การวางผังเมืองที่ไม่ได้มีแผนรองรับอนาคตตั้งแต่แรก: เพราะหากเทียบขนาดบล็อกในกรุงเทพฯ กับต่างประเทศ เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าบล็อกของกรุงเทพฯ นั้นมีขนาดใหญ่ ต้องเดินทางเป็นระยะที่ยาว กว่าจะสามารถเลี้ยวไปทิศทางอื่นได้ บวกกับผังเมืองที่เจริญเพียงบางจุด ดังเหตุผลแรก ทำให้เกิดปัญหารถติดสะสมในที่สุด
- จำนวนรถไม่สัมพันธ์กับถนน อ้างอิงข้อมูลจากกลุ่มสถิติการขนส่ง: เพราะปัจจุบันมีรถจดทะเบียนสะสมบนท้องถนนกรุงเทพฯ ไปแล้วกว่า 11 ล้านคัน ต่อให้มีซอยทะลุไปได้ แต่สุดท้ายก็ต้องไปโผล่ที่ถนนใหญ่ แล้วเจอรถติดมากเหมือนเดิม
- ระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่พร้อมต่อประชากร: ด้วยจำนวนประชากรของกรุงเทพฯ ประมาณ 5.4 ล้านคน ซึ่งสูงสุดในประเทศ แต่พอเทียบกับรถขนส่งสาธารณะที่มีแค่ประมาณ 2 แสนคัน บวกกับความถี่ในการวิ่งบนท้องถนน ยังไงก็ไม่พอ สุดท้ายผู้คนก็ต้องหันไปใช้รถส่วนตัวเพื่อความสะดวกสบาย จนกลายมาเป็นปัญหารถติดอีกเช่นเดิม
- สิ่งกีดขวางบนท้องถนนที่คาดเดาไม่ได้: บางครั้งเจอหลุม เจอถนนขรุขระ ถนนที่กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกำลังทำงาน โดยที่ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะทำเสร็จในแต่ละเส้นทาง ทำให้เกิดปัญหารถติดสะสมบางพื้นที่ เพราะสิ่งกีดขวางบนถนน
พอเอามาคิดเข้าจริง ๆ แล้วรถติดแบบนี้คงไม่ผิดแปลกอะไรนัก ในเมื่อท้องถนนมีรถเยอะขึ้นทุกปี ผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ยังคงมีจำนวนเท่าเดิม ในขณะที่รถสาธารณะกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตามรถยนต์ส่วนบุคคลเลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นสิ่งที่เราพอจะทำให้ได้ คือ เลี่ยงถนนที่มีการจราจรติดขัดในบางช่วงเวลา โดยสามารถเช็ครถติดหรือการทำถนนผ่านแอปพลิเคชั่นหรือช่องทางออนไลน์ได้
เช็ครถติดผ่านแอปพลิเคชั่นและช่องทางออนไลน์
ทีนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอาตัวรอดจากปัญหารถติด บนท้องถนนประเทศไทย หรืออีกนัยหนึ่งคือโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ นั่นแหละที่แค่แยกเดียวสามารถติดได้เป็นครึ่งชั่วโมง ต่างจังหวัดอย่างน้อย 10-20 นาที ก็คงหลุดพ้นจากมหากาพย์รถติด หรือหนีไปเส้นทางอื่นได้ทันทีแล้ว งั้นมาเริ่มดูกันว่าจะมีช่องทางเช็ครถติดออนไลน์ให้ใช้งานมากแค่ไหน
1. Traffic Longdo
อันดับที่ 1 แพลตฟอร์มเช็ครถติด รวมถึงสภาพการจราจรทั่วไปบนท้องถนน สามารถดูรายละเอียดค่อนข้างลึกได้ประมาณหนึ่งโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชัน แต่ทุกคนสามารถเข้าไปใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์โดยตรง ในด้านฟังก์ชันในสำหรับเช็คการจราจรออนไลน์ จะมีทั้งหมดดังนี้
- รายงายเหตุการณ์การจราจรล่าสุด
- ตรวจสอบรถติดผ่านแผนที่หลัก
- มีฟีเจอร์รายงายคุณภาพอากาศประจำวัน
- มีแถบนำเสนอข้อมูลจาก Twitter
- เช็ครถติดออนไลน์ผ่านการดูกล้องวงจรปิดบนถนนเส้นหลัก
- มีแอปพลิเคชันให้โหลดใช้งาน เช็ครถติดได้ เช็คสภาพการจราจรได้หมด
2. สวพ.FM91
อันดับที่ 2 ถัดมาเป็นสื่อที่พูดถึงเรื่องรถติดและการจราจรบนท้องถนนกรุงเทพฯ เป็นหลัก โดยที่มีช่องทางให้ติดตามอย่างหลากหลาย เช่น เว็บไซต์, Social Media และวิทยุ ความเจ๋งของสื่อนี้จะมีทีมงานภาคพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้การอัปเดตรายชั่วโมงค่อนข้างครบถ้วน มีความต่อเนื่องขอเหตุการณ์
- รายงานข่าวการจราจรบนแบบทันเหตุการณ์
- รายงานสภาพปัญหารถติดบนท้องถนนแต่ละสาย
- ติดตามได้หลายช่องทาง
- มีข่าวพยากรณ์อากาศให้เช็คทุกวัน
- อัปเดตข่าวสารทั่วไป
- มีรับแจ้งของหายได้คืน ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะสิ่งของ แต่รวมถึงสัตว์เลี้ยงด้วย
- มี Call Center พร้อมตอบรับและโทรฟรี 24 ชั่วโมง
3. 1197 สายด่วนจราจร
อันดับที่ 3 เป็นหน่วยงานกองบังคับการตำรวจจราจร ที่นอกเหนือจากการติดตามเรื่องรถติดแล้ว ยังสามารถติดตามข่าวสาร ๆ พร้อมกับข้อมูลการจราจรต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ถือเป็นหนึ่งในการเช็ครถติดออนไลน์ที่ควรรู้จักเอาไว้ เผื่อกรณีมีเหตุฉุกเฉินเราสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- มีเบอร์ติดต่อแบบสายด่วนผ่านเบอร์ 1197
- เช็คการจราจรออนไลน์ผ่าน Social Media
- สามารถสอบถามสภาพบนท้องถนนได้ตลอดเวลา
- เจาะลึกข้อมูลปัญหารถติดได้แบบเฉพาะจุด โดยแจ้งพนักงานได้เลย
4. JS100 (จส.100)
อันดับที่ 4 อีกตัวช่วยในการติดตามเรื่องปัญหารถติดที่เราคิดว่าหลายคน อาจรู้จักอยู่แล้ว เนื่องจากชื่อ จส.100 นั้นค่อนข้างโด่งมากในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในหมวดหมู่รถแท็กซี่ หรือคนใช้รถทั่วไปก็ยังมีเปิดฟังกันจำนวนมาก เพื่อรับทราบข่าวสารทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนท้องถนน แต่ในเมื่อตอนนี้คือยุค 4.0 แล้วทาง JS100 มีการพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาให้ใช้ด้วย
- แอป JS100 มีแผนที่ให้ใช้งาน แสดงสีเส้นทางเพื่อบอกสถานการณ์รถติด และสภาพการจราจรบนท้องถนน ขยายรายละเอียดด้วยสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น มีอุบัติเหตุตรงจุดไหน หากเราอยู่ในรัศมีอีก 1 กิโลเมตร ทางแอปจะมีแจ้งเตือนขึ้นมา และสุดท้ายฟีเจอร์ SOS เพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน
- มีช่องทาง Social Media ให้เช็ครถติดได้ตลอดเวลา สะดวกแพลตฟอร์มไหนเข้าไปดูได้เลย
- มีช่องทางวิทยุคลื่น FM100
- มี LIVE ในบางวัน เหมือนกับการรายงานข่าวสด เช่น มีรถติดมากบนพื้นที่ไหนบ้าง
5. แอปพลิเคชัน Thailand Highway Traffic
อันดับที่ 5 แอปพลิเคชันที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมแนะนำให้ดาวน์โหลดติดมือถือเอาไว้ เพราะนอกจากจะใช้งานง่ายในรูปแบบแอปแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการตรวจสอบรถติดให้เช็คเพิ่มเติม
- สามารถตรวจสอบสภาพการจราจรผ่านภาพจาก CCTV แบบ Real-Time
- มีฟีเจอร์โชว์ป้าย VMS แสดงข้อมูลสภาพจราจร และระยะเวลาเดินทาง
- มีแจ้งเตือนจุดก่อสร้าง, จุดซ่อมบำรุง และอุบัติเหตุบนท้องถนน
- มีหมุดแสดงจุดบริการทางหลวง เผื่อจอดแวะพักระหว่างทาง
6. แอปพลิเคชันท่องทางหลวง (Trips On Thai Highways)
อันดับที่ 6 หากคุณต้องการแอปพลิเคชันที่สามารถใช้เดินทางไกลได้ด้วย จากฟีเจอร์หนึ่งที่ค่อนข้างมีประโยชน์สำหรับคนที่กลัวขับรถแล้วความเร็วเกินกำหนด อย่าลืมติดตั้งแอปพลิเคชันนี้เผื่อเอาไว้ใช้ดูรถติด รวมไปถึงการดูสภาพการจราจรขั้นพื้นฐานด้วย
- รายงานสถานการณ์การจราจรแบบ Real-Time
- แจ้งตำแหน่งกล้องตรวจจับความเร็ว
- มีฟีเจอร์ช่องช่วยเหลือแจ้งสถานที่ หรือจุดสำคัญอีกเพียบ
- มีระบบแนะนำเส้นทางให้พร้อมสรรพ
7. แอปพลิเคชัน Waze
อันดับที่ 7 รายการสุดท้ายแอปจากต่างประเทศ ที่ไม่ได้มีดีแค่การดูรถติด แต่มันสามารถแจ้งรายละเอียดตำแหน่ง GPS รวมถึงเส้นทางต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ มีการรายงานสภาพจราจรแบบเบื้องต้นครบถ้วน
- ข้อมูลที่แสดงผลเกี่ยวกับการจราจรมีครบทุกข้อที่ต้องการ
- มีการแจ้งว่าถ้าเราเดินทางไปบนถนนไหน จะสามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้เท่าไหร่ รถติดมากไหม จะถึงเป้าหมายเวลาใด
- รองรับการสั่งการด้วยเสียง
- สามารถเชื่อมกับแอปพลิเคชัน Music Streaming ได้
ถ้าเผลอไปชนรถคันหน้าระหว่างรถติด เคลมประกันแต่ละชั้นได้อย่างไรบ้าง
หากคุณเผลอชนรถคันหน้าในระหว่างที่รถติด การเคลมประกันจะแตกต่างกันตามประเภทของประกันที่คุณทำไว้ แต่ละชั้นของประกันจะมีการคุ้มครองและการเคลมที่แตกต่างกันดังนี้:
1. ประกันรถยนต์ชั้น 1
- ความคุ้มครอง: ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองทั้งความเสียหายของรถคุณและรถคู่กรณี ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือไม่
- ค่าซ่อมแซม: บริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมแซมรถของทั้งคุณและรถคู่กรณีเต็มจำนวนตามมูลค่าความเสียหาย
สรุป: ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี และการเคลมประกันสามารถทำได้ง่าย ครอบคลุมค่าซ่อมทั้งของคุณและคู่กรณี
2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+
- ความคุ้มครอง: ประกันชั้น 2+ คุ้มครองในกรณีมีคู่กรณี ดังนั้นในกรณีที่คุณชนรถคันหน้า บริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมแซมทั้งรถของคุณและรถคู่กรณี
- ค่าซ่อมแซม: ครอบคลุมค่าซ่อมแซมรถของคู่กรณีและรถของคุณ แต่เฉพาะกรณีที่มีคู่กรณี
สรุป: ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองทั้งรถของคุณและรถคู่กรณีในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชนกับยานพาหนะอื่น
3. ประกันรถยนต์ชั้น 2
- ความคุ้มครอง: ประกันชั้น 2 จะคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น หากคุณชนรถคันหน้า บริษัทประกันจะชดเชยค่าเสียหายของรถคู่กรณี แต่ไม่คุ้มครองรถของคุณ
- ค่าซ่อมแซม: ประกันจะครอบคลุมค่าซ่อมแซมรถคู่กรณีเต็มจำนวน แต่คุณต้องรับผิดชอบค่าซ่อมแซมรถของตนเอง
สรุป: ประกัน ประเภท 2 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น 2 คุ้มครองเฉพาะรถคู่กรณี หากคุณเป็นฝ่ายผิด ต้องซ่อมรถของตนเอง
4. ประกันรถยนต์ชั้น 3+
- ความคุ้มครอง: ประกันชั้น 3+ คุ้มครองการชนกับยานพาหนะที่มีคู่กรณี ดังนั้นหากคุณชนรถคันหน้า บริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมแซมรถของทั้งคู่กรณีและรถของคุณ
- ค่าซ่อมแซม: คุ้มครองทั้งรถของคุณและรถคู่กรณีในกรณีที่เกิดการชนกับรถคันหน้า
สรุป: ประกัน3+คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น 3+ คุ้มครองทั้งรถของคุณและคู่กรณีในกรณีชนกันกับรถคันอื่น
5. ประกันรถยนต์ชั้น 3
- ความคุ้มครอง: ประกันประเภท3 จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายของรถคู่กรณี หากคุณเป็นฝ่ายผิด ประกันจะจ่ายค่าซ่อมแซมรถคู่กรณี แต่ไม่คุ้มครองรถของคุณ
- ค่าซ่อมแซม: บริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถคู่กรณี แต่รถของคุณจะไม่ได้รับการซ่อมแซมจากประกัน
สรุป: ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะความเสียหายของรถคู่กรณี คุณต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถของตัวเอง
สุดท้ายนี้ขึ้นอยู่กับทุกคนแล้วว่าจะร่วมเดินทางเพื่อหนีรถติด กับช่องทางเช็คการจราจรออนไลน์ช่องทางใด เพราะอย่างน้อยถ้าเรารู้จักสัก 3-4 ช่องทาง ก็นับว่าค่อนข้างครบถ้วนแล้วนั่นเอง และทั้งนี้ในช่วงเวลาเร่งรีบ เราไม่อาจทราบได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างบนท้องถนน หากมีคนอื่นที่ไม่ระวัง เข้ามาเฉี่ยวชนรถของเรา ในขณะที่เราเองก็รีบไม่ต่างกัน ถ้าไม่อยากที่จะต้องเจอสถานการณ์แบบนั้นอย่างโดดเดี่ยว แถมไม่มีคนคอยช่วยเหลือ
แนะนำว่าควรเสริมความปลอดภัย และความอุ่นใจในทุกการเดินทางของคุณด้วยประกันรถยนต์ ที่สามารถเปรียบเทียบความเหมาะสมกับคุณได้อย่างละเอียด ผ่าน แรบบิท แคร์ ได้โดยตรงที่เว็บไซต์ rabbitcare.com หรือโทรติดต่อได้ที่ 1438 (ตลอด 24 ชั่วโมง) รับรองคุ้มค่ากว่าซื้อเอง แถมมีผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน พร้อมเข้าถึงส่วนลดสูงสุดถึง 70%
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ที่ Rabbit Care และ Asia Direct ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก