แคร์รถยนต์

โอนลอย ผิดกฎหมายหรือไม่ ? ต่างกับการโอนปกติอย่างไร ?

ผู้เขียน : Thirakan T
Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
linkedin icon
 
ตรวจทาน : Natthamon
Natthamon

ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการประกันรถยนต์และยานยนต์มาตั้งแต่ปี 2019 ในหลากหลายตำแหน่งทั้ง SEO Specialist, Senior Executive, SEO / Web Analytics และ SEO Content Writer ในบริษัทประกันรถยนต์่และรถมือสองชั้นนำ นอกจากนั้น ยังเคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนนานถึง 3 ปีในตำแหน่งนักข่าวไอทีนิตยสารชื่อดังแวดวง E-Commerce ด้านการศึกษาจบระดับชั้นปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

close
linkedin icon
Published: January 12,2025
  
 
  
Reviewed: January 12, 2025
โอนรถ โอนลอย ผิดกฎหมายหรือไม่ ?

โอนลอย อีกหนึ่งวิธีการในการโอนรถที่มีการทำอย่างแพร่หลาย ความจริงแล้วการโอนลอย คืออะไร ผิดกฎหมายไหม ? มีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ? แรบบิท แคร์ สรุปเรื่องราวเกี่ยวกับการโอนรถลักษณะนี้ให้ในบทความนี้แบบครบครัน

โอนลอย คืออะไร ?

โอนลอย คือ การซื้อขายรถยนต์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ไปยังผู้ซื้อ แม้จะมีสัญญาการซื้อขายที่แสดงว่ารถคันนั้นได้ถูกขายแล้ว การโอนรถลักษณะนี้มักเกิดขึ้นในกรณีของการขายรถยนต์มือสองให้กับเต็นท์รถ โดยในแบบฟอร์มคำขอโอนจะมีเพียงชื่อของผู้โอนหรือเจ้าของรถเดิมเท่านั้น แต่ยังไม่ได้กรอกชื่อผู้รับโอนหรือกรอกแล้วแต่ยังไม่ได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้เสร็จสมบูรณ์ ผู้ซื้อจะต้องนำรถไปตรวจสภาพและดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ด้วยตนเองตามขั้นตอนที่สำนักงานขนส่งกำหนด

โอนลอย ผิดกฎหมายไหม ?

โดยทั่วไปแล้ว การโอนรถลักษณะนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายซะทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่าการซื้อรถไม่ควรใช้เอกสารแบบโอนรถลอย เนื่องจากมีความเสี่ยงหลายด้าน เช่น ความไม่ชัดเจนในกรรมสิทธิ์ และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ดังนั้นการซื้อรถควรดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง มีเอกสาร และข้อมูลครบถ้วนเพื่อความปลอดภัย รวมถึงความมั่นใจในกรรมสิทธิ์ของรถ ทั้งนี้หากเป็นการขายรถมือสองให้กับเต็นท์ และมีความจำเป็นที่จะต้องโอนลอย ให้พิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ และความน่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจ

ขายรถ โอนลอย อันตราย ไหม ?

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าการขายรถแบบโอนรถลอยมีความเสี่ยงอันตรายหรือไม่นั้น การขายรถโดยใช้การโอนรถลอยมีความเสี่ยงอยู่หลายประการด้วยกัน คือ

  • ความไม่ชัดเจนในกรรมสิทธิ์ : เนื่องจากกรรมสิทธิ์ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ ผู้ซื้ออาจไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเจ้าของรถอย่างเต็มตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคตเมื่อมีการตรวจสอบหรือเกิดข้อพิพาท
  • ปัญหาเกี่ยวกับเอกสาร : การโอนลอยอาจทำให้เอกสารไม่ครบถ้วน หรือมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่สามารถจดทะเบียนรถได้อย่างถูกต้อง หรือเกิดปัญหาในการขอประกันภัย
  • ความเสี่ยงทางกฎหมาย : หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การกระทำที่ไม่เป็นธรรมจากผู้ขายหรือผู้ซื้อ หรือหากเกิดปัญหากับรถที่ถูกซื้อขาย การที่กรรมสิทธิ์ยังไม่ถูกโอนอย่างสมบูรณ์อาจทำให้เกิดความยุ่งยากในการเรียกร้องสิทธิ์หรือความรับผิดชอบ
  • ปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย : การใช้การโอนลอยอาจส่งผลให้ผู้ขายหรือผู้ซื้อมีปัญหากับการบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่เกิดข้อพิพาท หรือกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุ

ดังนั้น การขายรถควรดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและให้ความมั่นใจทั้งแก่ผู้ขายและผู้ซื้อให้มากที่สุดนั่นเอง

โอนลอยต่างกับการโอนทั่วไปอย่างไร ?

ในส่วนของผู้ที่สงสัยว่าการโอนลอยนั้นมีความแตกต่างกับการโอนรถทั่วไปอย่างไร การโอนลอยแตกต่างจากการโอนทั่วไปในหลายด้าน คือ

ด้านกรรมสิทธิ์ของรถ

  • การโอนลอย : กรรมสิทธิ์ของรถยังไม่ได้ถูกโอนให้กับผู้ซื้ออย่างเป็นทางการ ผู้ขายและผู้ซื้อมีเพียงสัญญาการซื้อขายที่ไม่แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มตัว
  • การโอนทั่วไป : กรรมสิทธิ์ของรถจะถูกเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ โดยมีการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง รวมถึงการกรอกเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์และการจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบก

ด้านเอกสาร

  • การโอนลอย : ในเอกสารการโอนลอย จะมีการกรอกชื่อของผู้โอน (เจ้าของรถเดิม) แต่ไม่มีการกรอกชื่อผู้รับโอน หรือกรอกแล้วแต่ยังไม่ได้ดำเนินการโอนอย่างเป็นทางการ
  • การโอนทั่วไป : มีเอกสารครบถ้วนที่ระบุข้อมูลของผู้ซื้อ และผู้ขายอย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการโอนและจดทะเบียนที่กรมการขนส่ง

ด้านความเสี่ยงและปัญหา

  • การโอนลอย: มีความเสี่ยงสูงในการพิสูจน์กรรมสิทธิ์ และอาจเกิดปัญหาในกรณีที่เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาเกี่ยวกับรถ เช่น การรับประกันภัย หรือการตรวจสอบเอกสาร
  • การโอนทั่วไป: ลดความเสี่ยงในเรื่องการพิสูจน์กรรมสิทธิ์และเอกสาร เนื่องจากกรรมสิทธิ์ของรถถูกโอนอย่างเป็นทางการ ทำให้มีความชัดเจนในเรื่องของความเป็นเจ้าของ

ด้านการดำเนินการ

  • การโอนลอย : ไม่จำเป็นต้องมีการดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการทันที แต่ต้องมีการดำเนินการต่อในภายหลัง
  • การโอนทั่วไป : การโอนกรรมสิทธิ์ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องและครบถ้วนตั้งแต่ต้น รวมถึงการจดทะเบียนที่กรมการขนส่ง

ทั้งนี้การโอนทั่วไปถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีความชัดเจนมากกว่า เนื่องจากกรรมสิทธิ์ของรถได้รับการโอนอย่างเป็นทางการและครบถ้วนนั่นเอง

วิธีโอนรถมอเตอร์ไซค์ โอนลอย

สำหรับการโอนรถมอเตอร์ไซค์ โอนลอย การโอนรถมอไซค์ เปลี่ยนเจ้าของ โอนลอย จะมีขั้นตอนวิธีการในการปฏิบัติ ดังนี้

  • ตกลงซื้อขาย : ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงราคาซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์และรายละเอียดอื่น ๆ ของการซื้อขาย เช่น วันเวลาที่จะทำการโอน
  • จัดเตรียมเอกสาร : เอกสารของผู้ขาย คือ บัตรประชาชน, เล่มทะเบียนรถ, และเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ และเอกสารของผู้ซื้อ คือ บัตรประชาชน (อาจไม่จำเป็นต้องใช้ทันทีในขั้นตอนนี้) และเตรียมแบบฟอร์มคำขอโอนรถซึ่งมีชื่อของผู้ขายเท่านั้น (ชื่อผู้รับโอนจะยังไม่ถูกกรอกหรือกรอกแล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์)
  • ทำการโอนลอย : ผู้ขายกรอกแบบฟอร์มการโอนรถ โดยจะมีเพียงชื่อของผู้ขายและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นผู้ซื้อจะได้รับรถมอเตอร์ไซค์พร้อมเอกสารการซื้อขาย แต่กรรมสิทธิ์ของรถยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ
  • ตรวจสอบและจดทะเบียน : ผู้ซื้อจะต้องนำรถมอเตอร์ไซค์ไปตรวจสอบสภาพรถและจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งทางบกตามขั้นตอนที่กำหนด *ผู้ซื้อจะต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการโอนกรรมสิทธิ์ และจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
  • ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ : ผู้ซื้อไปที่สำนักงานขนส่งเพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการ โดยต้องมีเอกสารที่ครบถ้วน รวมถึงการจ่ายค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
  • รับเอกสาร : หลังจากที่กรรมสิทธิ์ของรถได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับเอกสารใหม่ เช่น เล่มทะเบียนรถที่มีชื่อของผู้ซื้อ

วิธีโอนรถยนต์ โอนลอย

เช่นเดียวกับการโอนลอยรถมอเตอร์ไซค์ การโอนลอยรถยนต์นั้นจะมีข้อปฏิบัติ และวิธีการ ดังต่อไปนี้

  • ตกลงซื้อขาย : ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงราคาซื้อขายรถยนต์และรายละเอียดอื่น ๆ ของการซื้อขาย เช่น วันเวลาที่จะทำการโอน
  • จัดเตรียมเอกสาร : เอกสารของผู้ขาย คือ บัตรประชาชน, เล่มทะเบียนรถ, และเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ และเอกสารของผู้ซื้อ คือ บัตรประชาชน (อาจไม่จำเป็นต้องใช้ทันทีในขั้นตอนนี้) และเตรียมแบบฟอร์มคำขอโอนรถซึ่งมีชื่อของผู้ขายเท่านั้น (ชื่อผู้รับโอนจะยังไม่ถูกกรอกหรือกรอกแล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์)
  • ทำการโอนลอย : ผู้ขายกรอกแบบฟอร์มการโอนรถ โดยจะมีเพียงชื่อของผู้ขายและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นผู้ซื้อจะได้รับรถยนต์พร้อมเอกสารการซื้อขาย แต่กรรมสิทธิ์ของรถยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ
  • ตรวจสอบและจดทะเบียน : ผู้ซื้อจะต้องนำรถยนต์ไปตรวจสอบสภาพรถและจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งทางบกตามขั้นตอนที่กำหนด *ผู้ซื้อจะต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการโอนกรรมสิทธิ์ และจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
  • ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ : ผู้ซื้อไปที่สำนักงานขนส่งเพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการ โดยต้องมีเอกสารที่ครบถ้วน รวมถึงการจ่ายค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
  • รับเอกสาร : หลังจากที่กรรมสิทธิ์ของรถได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับเอกสารใหม่ เช่น เล่มทะเบียนรถที่มีชื่อของผู้ซื้อ

เอกสารโอนรถ โอนลอย โอนลอย ใช้เอกสารอะไรบ้าง

ในการโอนลอยนั้นแม้จะไม่ใช่การโอนที่สมบูรณ์ครบถ้วนเป็นทางการเหมือนการโอนทั่วไป แต่ก็มีเอกสารมากมายที่ต้องเตรียม โดยเอกสารโอนลอยซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์/เอกสารซื้อขายรถยนต์ โอนลอย มีดังนี้

สัญญาซื้อขายมอเตอร์ไซค์ โอนลอย เอกสารโอนรถมอเตอร์ไซค์ โอนลอย

  • ใบโอนลอยมีใช้เล่มทะเบียนรถตัวจริง : เอกสารหลักที่แสดงการเป็นเจ้าของรถ
  • ใบโอนลอยมีใช้สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน : สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย) และผู้รับโอน (ผู้ซื้อ) โดยต้องมีลายเซ็นของทั้งสองฝ่าย
  • ใบโอนลอยมีใช้แบบคำขอโอนและรับโอน : เอกสารจากกรมการขนส่งทางบกที่ใช้ในการดำเนินการโอน โดยต้องมีลายเซ็นของผู้โอนและผู้รับโอน
  • ใบโอนลอยมีใช้หนังสือมอบอำนาจ (ใบโอนลอย ใบมอบอํานาจ) : เอกสารที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกซึ่งต้องมีลายเซ็นของผู้มอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจ และพยาน 2 คน

สัญญาซื้อขายรถยนต์ โอนลอย เอกสารโอนรถยนต์ โอนลอย

  • ใบโอนลอยมีใช้เล่มทะเบียนรถตัวจริง : เอกสารหลักที่แสดงการเป็นเจ้าของรถ
  • ใบโอนลอยมีใช้สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน : สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย) และผู้รับโอน (ผู้ซื้อ) โดยต้องมีลายเซ็นของทั้งสองฝ่าย
  • ใบโอนลอยมีใช้แบบคำขอโอนและรับโอน : เอกสารจากกรมการขนส่งทางบกที่ใช้ในการดำเนินการโอน โดยต้องมีลายเซ็นของผู้โอนและผู้รับโอน
  • ใบโอนลอยมีใช้หนังสือมอบอำนาจ (ใบโอนลอย ใบมอบอํานาจ) : เอกสารที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกซึ่งต้องมีลายเซ็นของผู้มอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจ และพยาน 2 คน

ใบโอนลอย คืออะไร ?

ใบโอนลอย (ใบโอนลอย รถยนต์ , ใบโอนลอย มอเตอร์ไซค์) คือ เอกสารที่ใช้ในการซื้อขายรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นการตกลงซื้อขายระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ แต่กรรมสิทธิ์ของรถยังไม่ได้รับการโอนอย่างเป็นทางการไปยังผู้ซื้ออย่างสมบูรณ์ โดยในใบโอนลอยจะมีรายละเอียดดังนี้

  • ใบโอนลอยมีข้อมูลผู้โอน : ชื่อและข้อมูลของเจ้าของรถเดิม (ผู้ขาย) จะถูกกรอกลงในแบบฟอร์ม แต่จะไม่มีการกรอกชื่อผู้รับโอนหรือกรอกแล้วแต่ยังไม่ดำเนินการโอนอย่างเป็นทางการ
  • ใบโอนลอยมีข้อมูลรถ : รายละเอียดเกี่ยวกับรถ เช่น หมายเลขทะเบียน, ยี่ห้อ, รุ่น ฯลฯ
  • ใบโอนลอยมีการตกลงซื้อขาย : สัญญาหรือหลักฐานการตกลงซื้อขายที่แสดงว่ารถคันนี้ได้ถูกขายแล้ว

โอนลอย ใบโอนลอย ซื้อที่ไหน ?

สำหรับผู้ที่ต้องการทราบว่าจะซื้อใบโอนลอยมาเพื่อดำเนินการได้จากที่ไหน แบบฟอร์ม สัญญาซื้อขายรถยนต์ โอนลอย ใบโอนลอย ขนส่งทางบก หาซื้อได้จากไหน คำตอบคือสามารถหาดาวน์โหลดได้ฟรีตามอินเทอร์เน็ต ไม่จำเป็นต้องซื้อนั่นเอง

โอนลอย เซ็นตรงไหนบ้าง ?

ผู้ขายเซ็นในช่องลงลายมือชื่อของผู้ขาย และผู้ซื้อเซ็นในช่องลายมือชื่อของผู้ซื้อ และพยานเซ็นในช่องของพยานเหมือนเอกสารทั่วไป

โอนลอยมีอายุกี่วัน ?

การโอนลอยไม่ได้มีระยะเวลาที่ชัดเจนตามกฎหมาย แต่โดยทั่วไปแล้วการใช้เอกสารแบบโอนลอยมีความเสี่ยงที่อาจเกิดปัญหาหากไม่ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการในระยะเวลาที่เหมาะสมหลังจากการทำการซื้อขาย

โอนลอย เจ้าของเสียชีวิต ยังมีผลอยู่หรือไม่ ?

เมื่อเจ้าของรถที่ทำการโอนลอยเสียชีวิต การโอนกรรมสิทธิ์ของรถต่อไปจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ซึ่งรวมถึงการพิสูจน์กรรมสิทธิ์ของผู้ที่มีสิทธิโอนกรรมสิทธิ์ ในลำดับถัดไปตามขั้นตอนที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้

ขายรถให้เต้นท์ โอนลอยได้ไหม ?

โดยทั่วไปแล้วเมื่อต้องการขายรถมือ 2 ให้กับเต้นท์รถ ผู้คนมักนิยมใช้วิธีการโอนลอย ซึ่งก็ถือว่าเป็นวิธีที่สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมเช็กความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยของเต้นท์รถที่ตัดสินใจทำการค้าขายด้วยนั่นเอง

จำนำเล่ม โอนลอยได้ไหม ?

โดยทั่วไปแล้วหากมีการจำนำเล่มรถเอาไว้ จะไม่สามารถนำรถมาทำการขาย และโอนลอยได้ เนื่องจากอาจเกิดปัญหาวุ่นวายด้านกรรมสิทธิ์ตามมาในอนาคตนั่นเอง

ข้อมูลเหล่านี้คือข้อมูลน่ารู้ที่เกี่ยวข้องกับการโอนลอย จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการโอนลอยเป็นการโอนที่มีความเสี่ยง ต้องเช็กให้ดี และเลือกที่จะเลี่ยงโอนลอยหากเลี่ยงได้ ที่สำคัญอย่าลืมว่าเมื่อได้รถยนต์คันใหม่ ต้องไม่ลืมทำประกันภัยรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ ดูแล อุ่นใจ ครอบคลุมเรื่องรถแบบครบครัน


สรุป

สรุปบทความ

โอนลอย คือการซื้อขายรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ที่ยังไม่ได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการไปยังผู้ซื้อ ซึ่งมักใช้ในการขายรถมือสองให้เต็นท์รถ โดยเอกสารโอนจะมีชื่อผู้โอนแต่ยังไม่ระบุผู้รับโอน การโอนลอยไม่ได้ผิดกฎหมายแต่มีความเสี่ยงสูง เช่น ปัญหาด้านกรรมสิทธิ์ เอกสารไม่ครบถ้วน และข้อพิพาททางกฎหมาย ในทางกลับกัน การโอนรถแบบทั่วไปจะมีการดำเนินการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องและชัดเจนที่กรมการขนส่ง การเลือกใช้โอนลอยควรพิจารณาความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของคู่ค้า รวมถึงดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการให้เร็วที่สุดเพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

จบสรุปบทความ

ที่มา


 

บทความแคร์รถยนต์

Rabbit Care Blog Image 98844

แคร์รถยนต์

ล้างอัดฉีด หมายถึงอะไร ในความจริงแล้วต่างจากล้างรถธรรมดาหรือไม่

เวลาที่เราต้องการทำความสะอาดรถภายนอก ให้ดูสวยเหมือนใหม่ หลายคนเลือกใช้บริการล้างอัดฉีดกับร้านที่ใกล้เคียง หรือร้านที่วางใจได้
Thirakan T
12/01/2025
Rabbit Care Blog Image 98839

แคร์รถยนต์

ป้ายทะเบียนรถหาย ทํายังไง 2568 ขอใหม่ได้ที่ไหน มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

อุบัติเหตุเกี่ยวกับการที่ป้ายทะเบียนรถหาย สามารถเกิดขึ้นได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะกรอบชำรุดเสียหาย ทำให้ป้ายทะเบียนของเราร่วงหายระหว่างทาง
Thirakan T
11/01/2025
Rabbit Care Blog Image 98481

แคร์รถยนต์

ถอยรถเข้าซองยากไหม วิธีถอยหลังเข้าซอง สอบใบขับขี่มีขั้นตอนอย่างไร ?

ถอยรถเข้าซอง เรื่องที่มือใหม่หัดขับทุกคนต่างก็กังวลใจตั้งแต่เริ่มหัดขับรถยนต์ครั้งแรก ไปจนถึงการสอบใบขับขี่ถอยหลังเข้าซอง
Natthamon
10/01/2025