Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info

💙 แจก Starbuck Voucher มูลค่า 800 บาทฟรี! เพียงเปิดบัญชี Webull ผ่านช่องทางของ Rabbit Care สนใจ คลิก! 💙

เปรียบเทียบบัตรเครดิต ง่าย ๆ ภายใน 30 วินาที กับ

Rabbit Care

open bank account_DESKTOP.png
user profile image
เขียนโดยPaweennuch W.วันที่เผยแพร่: Aug 29, 2023

เปิดบัญชีออนไลน์ มีขั้นตอนอย่างไร? ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? และต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือไม่?

ในปัจจุบัน การเงินและการเก็บออมเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจถดถอยหรือช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 คนส่วนมากมักไม่ค่อยใช้จ่ายกัน เพราะอยากเก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน สถาบันการเงินเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้คนฝากเงิน ถอนเงิน ขอสินเชื่อ กู้เงินเพื่อลงทุนทำธุรกิจ และอื่น ๆ ดังนั้น บทความนี้น้องแคร์จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการเปิดบัญชี ว่ามีรูปแบบยังไงบ้าง รวมถึงบอกความหมายของสมุดบัญชี พร้อมอธิบายหน่วยเดบิต เครดิต ไปดูกันเลย!

สมุดบัญชี คืออะไร?

สมุดบัญชีเป็นเอกสารที่ใช้บันทึกการเคลื่อนไหวของเงินและทรัพย์สินขององค์กรหรือบุคคลที่มีกิจการเพื่อให้สามารถติดตามและจัดการกับการเงินขององค์กรหรือบุคคลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสมุดบัญชีจะประกอบด้วยหลายหน้ากระดาษ ในหน้าแรกของสมุดบัญชีจะประกอบไปด้วยสาขาที่คุณเปิดบัญชี เลขที่บัญชี ทะเบียนเล่ม และชื่อบัญชี โดยหน้าที่สองเป็นต้นไปจะมีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเงิน เช่น เงินเข้า เงินออก โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนเดบิต เครดิต โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. เดบิต (Debit)

หน่วยเดบิตจะถูกบันทึกเมื่อเงินเข้า เช่น คุณฝากเงินจำนวน 300 บาท เลขส่วนนี้ก็จะถูกบันทึกไว้ที่ฝั่งเดบิต หรือฝั่ง deposit

2. เครดิต (Credit)

หน่วยเครดิต จะถูกบันทึกเมื่อเงินออก เช่น คุณถอนเงินจำนวน 500 เลขส่วนนี้ก็จะถูกบันทึกไว้ในฝั่งเครดิต หรือ withdrawal


ดังนั้นน้องแคร์ขอแนะนำให้คุณบริหารจัดการเงินเข้าเงินออกให้มีความสมดุลกันอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามการบันทึกข้อมูลในสมุดบัญชีจะต้องเป็นไปตามหลักการบัญชีที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประโยชน์

การเปิดบัญชี คืออะไร?

การเปิดบัญชี คือ กระบวนการที่ผู้เริ่มต้นกิจการหรือบุคคลที่ต้องการทำธุรกิจต้องเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการบันทึกและจัดการกับเงินของธุรกิจหรือกิจการต่างๆ โดยบัญชีที่เปิดขึ้นนี้จะถูกใช้เพื่อรับเงินจากลูกค้าหรือเจ้าของธุรกิจ จ่ายเงินต่อผู้ขาย จัดการกับค่าใช้จ่ายและกำไรของธุรกิจ และใช้ในการจัดทำเอกสารการเงิน เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน รายงานการเงิน ฯลฯ

การเปิดบัญชีสามารถทำได้โดยการติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อขอเปิดบัญชี หรือการเปิดบัญชีออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว โดยผู้เปิดบัญชีจะต้องนำเอกสารประกอบการเปิดบัญชีไปยังสถาบันการเงิน เช่น บัตรประชาชน หรือเอกสารสำหรับยืนยันการเปิดกิจการ และบางครั้งอาจต้องนำเงินมาฝากในบัญชีตามข้อกำหนดของสถาบันการเงินนั้นๆ ด้วย

** เพื่อความสะดวกสบาย ผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยควรติดต่อสถาบันการเงินที่ต้องการเปิดบัญชีก่อนเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องใช้

การเปิดบัญชีเงินฝาก มีกี่รูปแบบ?

บัญชีเงินฝากแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำและ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือบัญชีเงินฝากเดินสะพัด โดยแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์

เงินฝากออมทรัพย์ คือเงินฝากที่สามารถถอนได้เมื่อทวงถามและยังสามารถถอนได้ทุกสาขาของธนาคารทั่วประเทศโดยไม่มีจำกัดจำนวนครั้งและจำนวนเงิน อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการฝากหรือถอนเงินข้ามเขต อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร มากไปกกว่านั้นอัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ต่ำกว่าบัญชีประเภทอื่น ๆ แต่ก็ยังมีประเภทบัญชีออมทรัพย์แบบพิเศษที่มีเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยพิเศษมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียภาษีเงินหัก ณ ที่จ่ายเงินได้บุคคลธรรมดาจากดอกเบี้ยรับ แต่จำเป็นต้องเปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทและการฝากเงินต่อครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดในการเบิกถอนเงินในแต่ละเดือน เช่น สามารถเบิกถอนได้ไม่เกินเดือนละ 3 ครั้ง

2. บัญชีเงินฝากประจำ

หลายคนอาจมีความสงสัยว่าเงินฝากประจำกับบัญชีออมทรัพย์ต่างกันอย่างไร ในกรณีของบัญชีฝากประจำ จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ โดยที่ปัจจุบันบัญชีฝากประจำส่วนใหญ่มาพร้อมกับแคมเปญพิเศษ ซึ่งผู้ถือบัญชีไม่ต้องเสียภาษีเงินหัก ณ ที่จ่ายเงินดอกเบี้ยรับ นอกจากนี้ บัญชีฝากประจำเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินเหลือจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องกำหนดระยะเวลาฝากประจำที่ 3, 6, 12, 24 หรือ 36 เดือน หรือมากกว่า และห้ามถอนเงินก่อนกำหนด มิฉะนั้นธนาคารจะไม่คิดดอกเบี้ยตามอัตราที่กำหนดไว้ สำหรับผู้ที่ต้องการเงินออมและได้รับดอกเบี้ยสูง บัญชีออมทรัพย์ก็เป็นทางเลือกที่ดี ดังนั้น การเลือกใช้บัญชีเหล่านี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความต้องการของแต่ละบุคคล

3. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน / บัญชีเงินฝากเดินสะพัด

บัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นบัญชีหมุนเวียนที่เหมาะสำหรับการทำธุรกิจ สามารถขอใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (Overdraft) หรือวงเงิน O/D บนบัญชีนี้ได้ โดยผู้กู้สามารถใช้เงินได้ตามที่ต้องการ และธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่เจ้าของบัญชีเบิกเกินบัญชีเท่านั้น หากคุณกำลังมองหาว่า การฝากเงินแบบใดได้ดอกเบี้ยมากที่สุด ให้คุณเลือกบัญชีกระแสรายวัน เนื่องจากบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไม่มีดอกเบี้ย หรือหากมีอัตราดอกเบี้ย ก็จะต่ำกว่าบัญชีออมทรัพย์

เงื่อนไขสำคัญในการเปิดบัญชีคือจำนวนเงินฝากขั้นต่ำในการเปิดบัญชี 10,000 บาท ธนาคารจะให้สมุดเช็คแก่ผู้ฝากบัญชีประเภทนี้แทนสมุดคู่ฝาก และจะจัดส่งสเตทเมนท์ (statement) ทางไปรษณีย์ หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแจ้งยอดเคลื่อนไหวของบัญชีให้ทราบ และผู้ฝากสามารถสั่งจ่ายเช็คให้กับผู้อื่นไปดำเนินการขึ้นเงินจากบัญชีของตนได้

เปิดบัญชีออนไลน์ ทำได้อย่างไร?

หากคุณต้องการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ คุณสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธนาคารที่คุณสนใจสามารถทำได้ง่าย ทำได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังธนาคาร ไม่ต้องนั่งรอคิว หรือเซ็นเอกสารต่าง ๆ โดยการเปิดบัญชีออนไลน์จะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่สิ่งที่คุณต้องเตรียมพร้อมคือบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์เพื่อลงทะเบียนกับทางธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีขั้นตอนการเปิดบัญชีที่แตกต่างกันออกไป

บัญชีคู่ คืออะไร?

บัญชีคู่ หมายถึง บัญชีเงินฝากธนาคารที่เปิดขึ้นโดยสองคนหรือมากกว่าซึ่งมีสิทธิ์ใช้เงินในบัญชีเท่ากัน ซึ่งเป็นการเปิดบัญชีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการบริหารการเงินของคู่สมรส การเปิดบัญชีคู่จะทำให้สองคนสามารถดูแลการเงินร่วมกันได้ และสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งบัญชีคู่ส่วนใหญ่จะเป็นบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวัน เอกสารที่ต้องนำมาคือบัตรประชาชน หากทั้งคู่เป็นบุคคลที่เป็นสัญชาติไทย โดยจำนวนเงินในรการเปิดบัญชีจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร


เหล่านี้คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการเปิดบัญชีที่น้องแคร์รวบรวมมาให้คุณแล้ว หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกในการจ่ายเงิน ขอแนะนำให้คุณสมัครบัตรเครดิต กับ แรบบิท แคร์ เพราะเรามีสิทธิพิเศษและข้อเสนอให้คุณมากมาย มาพร้อมพันธมิตรกับธนาคารชั้นนำ เช่น ซิตี้แบงก์ กรุงไทยแบงก์ ทีเอ็มบีธนชาต และธนาคารอื่น ๆ สามารถสมัครง่าย รวดเร็ว และหากเกิดปัญหา เรามีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมดูแลคุณ หากสนใจโทรเลย 1438

บัตรเครดิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ

บัตรเครดิต วีซ่าแพลทินัม ท่องเที่ยวบัตรเครดิต วีซ่าแพลทินัม ท่องเที่ยว

ธ. กรุงเทพ / วีซ่า

  • ทุก 25 บาท รับคะแนน แลกรางวัลง่าย ๆ
  • แลกคะแนนสะสมเป็นไมล์บินไทย บางกอกแอร์ AirAsia
  • ประสานงานฉุกเฉินรถเสีย บริการช่วยเหลือครบวงจร
  • ประกันอุบัติเหตุเดินทาง คุ้มครองสูงสุด $200,000
  • บริการช่วยเหลือซ่อมภายในบ้าน ครบวงจร
  • ให้คำแนะนำเดินทาง วีซ่า สุขภาพ สัมภาระ หาย
บัตรเครดิตยูโอบี รอยัล ออร์คิด พลัสบัตรเครดิตยูโอบี รอยัล ออร์คิด พลัส

ธ. ยูโอบี / มาสเตอร์การ์ด

  • รับยูโอบี รีวอร์ด 1 คะแนน ทุก 20 บาท
  • ใช้บริการ Royal Silk Lounge 2 ครั้ง/ปี
  • บริการรถลีมูซีน เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
  • ไมล์สะสมเพิ่ม 20% เมื่อใช้บัตรยูโอบี
  • ส่วนลดบัตรหนัง 69 บาท ทุกเดือน SF Cinema
  • สิทธิ์ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 2 ครั้ง/ปี
บัตรเครดิต เคทีซี เจซีบี อัลติเมทบัตรเครดิต เคทีซี เจซีบี อัลติเมท

เคทีซี / เจซีบี

  • คะแนน KTC FOREVER x2 สำหรับการใช้จ่ายต่างประเทศ
  • ใช้สิทธิ์ห้องรับรอง MIRACLE LOUNGE 2 ครั้ง/ปี
  • บริการห้องรับรองสนามบินในญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์
  • สมาชิกใหม่ รับประกันอุบัติเหตุ 300,000 บาท
  • เปลี่ยนยอดเต็มเป็นผ่อน 0.74% สูงสุด 10 เดือน
  • ทุก 25 บาท ใช้จ่ายรับ 1 คะแนน KTC FOREVER
บัตรเครดิต CardX UP2MEบัตรเครดิต CardX UP2ME

CardX / มาสเตอร์การ์ด

  • คะแนนสะสม X5 เดือนเกิดในหมวดที่เลือก
  • รับสูงสุด X3 คะแนนทุก 25 บาท
  • ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีวิต
  • คะแนน X5 เดือนเกิดในหมวดที่เลือก
  • รับส่วนลด 30% ที่โรงแรมเครือครอส
  • รับส่วนลด 10% รถเช่าและเรือ

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา