รู้จัก! บัญชีกระแสรายวัน ใช้ทำอะไรได้บ้าง? มีข้อดีอะไร?
บัญชีกระแสรายวัน คืออะไร?
เงินฝากกระแสรายวัน หรือบัญชีกระแสรายวัน (Current Account) คือ บัญชีธนาคารประเภทหนึ่งที่ไม่มีการให้ดอกเบี้ยเงินฝากหรือหากมีดอกเบี้ยก็ได้รับในอัตราที่ต่ำมาก เพราะถือว่าเจ้าของบัญชีประเภทนี้จะมีสถานะกึ่งลูกหนี้ เงินที่มีอยู่ในบัญชีทางธนาคารจะไม่สามารถนำไปใช้หมุนเวียนต่อยอดได้ เรียกอีกชื่อว่า บัญชีเดินสะพัด บัญชีประเภทนี้จะมีการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะสามารถใช้งานบัญชีประเภทนี้ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องเป็นบุคคลที่ประกอบกิจการและจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือพาณิชย์ และมีบัญชีประเภทนี้จากหลายธนาคารที่บุคคลธรรมดาสามารถทำได้ อย่างเช่น บัญชีกระแสรายวัน บุคคลธรรมดาธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน บุคคลธรรมดาธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นต้น
บัญชีกระแสรายวันหรือบัญชีเดินสะพัดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับช่วยจัดการด้านการเงินเชิงธุรกิจ ทำให้ไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมากเมื่อต้องทำการโอนออกด้วยวงเงินจำนวนมาก เหมาะที่จะใช้เป็นบัญชีเงินหมุนเวียนหรือใช้สำหรับการออกเป็นเช็คในการเบิกจ่ายเงิน นอกจากนี้บัญชีกระแสรายวันนี้ยังสามารถขอเบิกเงินเกินบัญชีได้ด้วย โดยหากเลือกการขอเบิกเงินเกินบัญชีนี้ทางธนาคารเจ้าของบัญชีจะมีการคิดดอกเบี้ยส่วนหนึ่งจากที่มีการเบิกเงินเกิน เงินฝากกระแสรายวันแบบนี้ส่วนใหญ่จะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เงินที่เข้า-ออกผ่านบัญชีประเภทนี้ธนาคารจะไม่ถือว่าเป็นเงินฝากของธนาคาร เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่มีการหมุนเวียนภายในบัญชีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
การเปิดบัญชีกระแสรายวัน เงินฝากกระแสรายวัน มีเงื่อนไขอย่างไร?
ในการดำเนินการเปิดบัญชีกระแสรายวันจะมีการกำหนดคุณสมบัติสำหรับบุคคลที่ต้องการเปิดบัญชีประเภทนี้ อย่างเช่น กำหนดวงเงินในการเปิดบัญชีขั้นต่ำและธนาคารจะมีการคิดค่าธรรมเนียมในการบริการต่อเดือนหากบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงมียอดเงินเหลือในบัญชีน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2,000 บาท ซึ่งแต่บะธนาคารผู้ให้บริการอาจจะมีการกำหนดคุณสมบัติในการเปิดบัญชีกระแสรายวันแตกต่างกันออกไป
ข้อดีของการเปิดบัญชีกระแสรายวัน บัญชีเดินสะพัด
วัตถุประสงค์หลักของการเปิดบัญชีประเภทนี้จะเน้นการช่วยจัดการเงินหมุนเวียนได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถสรุปข้อดีของบัญชีกระแสรายวัน ดังนี้
• มีความปลอดภัย
ที่บัญชีกระแสรายวันมีความปลอดภัยเนื่องจากจะทำให้คุณไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก ๆ ในการทำธุรกรรมในธุรกิจของคุณ โดยเป็นการสั่งจ่ายเช็คเพื่อนำไปขึ้นเงินกับทางธนาคารและสามารถรับเช็คจากคู่ค้าได้โดยไม่ต้องกลัวถูกโกง เพราะมีการระบุชื่อ-ขีดคร่อมบนเช็คแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องเช็คสูญหาย
• ใช้วงเงินเกินได้
อีกหนึ่งข้อดีของบัญชีกระแสรายวันก็คือสามารถที่จะใช้วงเงินเบอกเกินหรือเบิกเงินเกินจากจำนวนในบัญชีได้ เรียกว่าวงเงิน O/D
• สะดวกสบาย
เพราะไม่ต้องเดินทางไปติดต่อธนาคารให้ดำเนินการเบิกเงินหรือไม่ต้องไปกดเงินที่ตู้ ATM บ่อย
• ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ
สร้างเครดิตในการดำเนินการด้านการเงินในธุรกิจให้ทั้งผู้สั่งจ่ายเช็คและผู้รับเช็ค สามารถตรวจสอบงานว่าเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่ตกลงก็สามารถสั่งอายัดเช็คได้
• เป็นเงินหมุนเวียนในบริษัท
สามารถสั่งจ่ายเช็คล่วงหน้าได้ในวงเงินที่ไม่จำกัด สามารถใช้ในการค้ำประกันเงินกู้อย่างกรณีหมุนเวียนเงินไม่ทันหรือจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน
• ตรวจสอบได้ง่าย
สามารถตรวจสอบรายการหักบัญชีต่าง ๆ เพื่อชำระเงินตามเช็คได้ตลอดเวลา
บัญชีกระแสรายวัน บุคคลธรรมดาทำได้หรือไม่?
ปัจจุบันบัญชีกระแสรายวัน บุคคลธรรมดาสามารถเปิดบัญชีประเภทนี้ได้เช่นกันและมีการกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติของเจ้าของบัญชีเช่นเดียวกับบัญชีกระแสรายวัน นิติบุคคล แต่อาจจะมีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชีหรือค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไป โดยผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีประเภทนี้จะต้องใช้เอกสารประกอบการเปิดบัญชี ได้แก่ บัตรประชาชนหรือบัตรที่มีรูปถ่ายอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ที่มีเลขประจำตัว 13 หลัก หากเป็นชาวต่างชาติจะต้องติดต่อสอบถามโดยตรงที่ธนาคารที่ต้องการเปิดบัญชี
บัญชีเงินฝากกระแสรายวันเหมาะสำหรับการออมเงินหรือไม่?
เนื่องจากบัญชีกระแสรายวันเป็นบัญชีที่ไม่มีดอกเบี้ยหรือมีการให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ๆ ซึ่งหากใครที่ต้องการเปิดบัญชีไว้สำหรับการออมเงินโดยเฉพาะ บัญชีประเภทนี้อาจจะไม่ตรงวัตถุประสงค์ จะต้องเปลี่ยนไปทำเป็นบัญชีเงินฝากประเภทอื่น ๆ โดยประเภทของเงินฝากในธนาคารโดยทั่วไปที่สามารถเก็บออมเงินได้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้
- บัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์
เป็นเงินฝากที่ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาในการฝากเงิน เจ้าของบัญชีสามารถที่จะฝากเงินเข้ามาหรือถอนเงินออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ในวันและเวลาทำการ ลักษณะคล้ายกับเงินฝากกระแสรายวันหรือบัญชีกระแสรายวันแต่จะแตกต่างกันตรงที่บัญชีแบบออมทรัพย์จะมีการให้ดอกเบี้ยในอัตราตามที่ธนาคารกำหนดและสามารถใช้ใบถอนเงินแทนการออกเช็คธนาคารได้
- บัญชีเงินฝากประจำ
เป็นบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่มีเงื่อนไขในการถอนเงินที่จะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้หากยังไม่ครบระยะเวลาที่ตกลงว่าจะฝากเงิน หากมีการถอนเงินก่อนครบกำหนดดอกเบี้ยที่จะได้รับอาจจะลดลงหรือไม่ได้เลย โดยปกติแล้วบัญชีเงินฝากประจำจะมีการกำหนดระยะเวลาในการฝากเงินหลายระยะเวลาเริ่มจาก 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปีหรือมากกว่านั้น บัญชีเงินฝากประเภทนี้จะมีอยู่ 2 แบบให้เลือก คือ ฝากประจำทั่วไปและฝากประจำแบบปลอดภาษี ซึ่งหากเป็นการฝากประจำแบบทั่วไป จะมีการหักภาษีจากผลตอบแทนหรือดอกเบี้ย 15%
บัญชีประเภทนี้เจ้าของบัญชีจะได้รับดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนด ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าบัญชีประเภทอื่น ๆ และบัญชีกระแสรายวัน เฉลี่ยจะได้รับดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.4-3% จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝากเงินเพื่อออมและเพิ่มทรัพย์สินในระยะยาว ๆ โดยไม่ต้องใช้เงินในการทำธุรกิจหรือใช้ในการจ่ายจ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น ควรจะต้องระวังไม่ให้บัญชีไม่เคลื่อนไหว 10 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการถูกยึดเงินไปไว้ในคงคลังนั่นเอง
ต้องการออมเงินเพิ่มเติม ประกันออมทรัพย์ยังเป็นทางเลือกที่ดี!
ประกันออมทรัพย์นั้นถือเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำให้คุณมีความคุ้มครองทั้งชีวิตและการเงินไปพร้อม ๆ กัน และยังถือเป็นการลงทุนระยะยาวรูปแบบหนึ่งที่สามารถออมเงินได้โดยมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก บริษัทประกันจะให้ดอกเบี้ยกับผู้เอาประกันในรูปแบบเงินคืนตามระยะเวลาที่กำหนดตามเงื่อนไขกรมธรรม์ เมื่อครบกำหนดสัญญาผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนเป็นเงินก้อนสะสมตลอดสัญญา ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้แน่นอนว่าช่วงเวลาใดในชีวิตจะต้องมีการใช้เงินก้อน ก็สามารถวางแผนซื้อประกันออมทรัพย์เก็บไว้ล่วงหน้าได้เลย พอครบกำหนดสัญญาก็นำเงินก้อนออกมาใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ได้ทันที เป็นการบริหารการเงินที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ตามแพลน นอกจากนี้ในระหว่างที่คุณถือกรมธรรม์ประกันออมทรัพย์อยู่ ก็จะได้รับผลประโยชน์ความคุ้มครองที่เป็นเงินทุนประกันชีวิตในกรณีเสียชีวิตด้วย ซึ่งเป็นการวางแผนด้านการเงินที่ดีเยี่ยมมากได้ประโยชน์ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม แน่นอนว่ามันคนละวัตถุประสงค์โดยสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับการเปิดบัญชีกระแสรายวัน ที่สำคัญการออมเงินด้วยประกันออมทรัพย์จะไม่ถูกหักภาษีเหมือนการฝากประจำด้วย และนอกจากจะไม่ถูกหักภาษีแล้วค่าเบี้ยประกันออมทรัพย์ที่จ่ายไปก็ยังสามารถนำเอาไปใช้ในการลดหย่อนภาษีประจำปีสูงสุด 100,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากรได้ด้วย
ประกันออมทรัพย์ที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ