การฝากประจำคืออะไร และจะต้องฝากทุกเดือนไหม?
การใช้ชีวิตประจำวันของคนเรานั้นนอกจากจะต้องมีการวางแผนในเรื่องของการงานหรือการใช้ชีวิตแล้ว ในเรื่องของการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่เราควรจะต้องมีการวางแผนด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งในส่วนของรายรับรายจ่ายและการเก็บออม
โดยบัญชีเงินฝากนั้นก็ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานในการออมเงินเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะปราศจากความเสี่ยงแล้ว ก็ยังจะได้รับความคุ้มครองจากสถาบันทางการเงินหรือธนาคารอีกด้วย และเมื่อถึงจุดที่เราฝากเงินได้พอสมควรแล้ว เราก็จะสามารถนำเงินตรงนี้ไปใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่เราต้องการ เช่น การลงทุน การซื้อประกันภัยหรือประกันชีวิต และการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ
ฝากประจำ คืออะไร?
สำหรับการฝากประจำ(Fixed Deposit Account) นั้นจะเป็นการที่เรานำเงินไปฝากไว้กับทางธนาคาร โดยที่ทางธนาคารจะสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ หรือไปใช้ในการลงทุนได้ตามระยะเวลาในการรับฝากของเรา ซึ่งทางธนาคารจะมีกำหนดระยะเวลาในการฝากเงินไว้ให้เราเลือกได้ เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน และในบางครั้งก็อาจจะมีระยะเวลาอื่นด้วย เช่น 5 เดือน หรือ 8 เดือน เป็นต้น
ซึ่งการฝากประจำนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินก้อนและไม่ได้มีแผนจะใช้เงินก้อนนี้ในช่วงเวลาอันใกล้ ซึ่งข้อดีของการฝากประจำคือเราจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์ โดยจะต้องคงเงินไว้ในบัญชีจนกว่าจะครบกำหนด แต่ถ้าหากว่ามีการถอนเงินก่อนกำหนด ก็จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ธนาคารระบุไว้นั่นเอง ซึ่งการฝากประจำก็จะมีอีกประเภท เรียกว่า บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี โดยการฝากประจำในรูปแบบนี้จะเป็นการฝากเงินอย่างต่อเนื่องในแต่ละเดือน เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 24 เดือนขึ้นไป และจะได้รับการยกเว้นในเรื่องของภาษีสำหรับดอกเบี้ยที่เราจะได้รับอีกด้วย
ซึ่งดอกเบี้ยในเงินฝากประจำประเภทนี้จะสูงกว่าประเภทอื่นประมาณ 2.0-2.6% โดยมีเงื่อนไขคือจะต้องมีการฝากเงินที่เท่ากันและติดต่อกันทุกเดือน ขั้นต่ำเดือนละ 1,000-25,000 บาท(ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร) เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 24 เดือนขึ้นไป ซึ่งผู้ฝากหนึ่งคนจะได้รับการยกเว้นภาษีคนละหนึ่งบัญชีเท่านั้น
การฝากประจำ ถอนได้ไหม?
สามารถถอนเงินได้ โดยถ้าหากว่าเราถอนตอนครบกำหนดก็จะได้รับเงินฝากและดอกเบี้ยครบตามที่ธนาคารระบุไว้ แต่ถ้าหากว่าเราถอนก่อนกำหนด ในกรณีแบบนี้เราจะได้รับดอกเบี้ยไม่ครบ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นก็ได้มีการวางเงื่อนไขไว้ให้ธนาคารพาณิชย์ คือ ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยหรือสามารถหักดอกเบี้ยได้เลย และถ้าจะถามว่าฝากประจำ 12 เดือน ถอนได้ไหม? คำตอบคือสามารถถอนได้ แต่ก็ต้องมาดูว่าระยะเวลาที่กำหนดฝากประจำนั้นคือกี่เดือน และในกรณีที่มีการฝากเงินไม่ครบตามระยะเวลาที่กำหนด จะมีรายละเอียดดังนี้
- สำหรับในกรณีที่มีการปิดบัญชีฝากประจำก่อนกำหนด(ไม่ถึง 3 เดือน) ทางธนาคารอาจจะไม่จ่ายดอกเบี้ยให้เรา
- ส่วนในกรณีที่มีการปิดบัญชีฝากประจำในระยะเวลาตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป แบบนี้เราจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่เหมือนกับดอกเบี้ยของเงินฝากแบบออมทรัพย์ทั่วไป โดยถือเอาตามประกาศของทางธนาคารในวันที่มีการปิดบัญชี
- และในกรณีที่ทางธนาคารนั้นมีการจ่ายดอกเบี้ยล่วงหน้าไปให้แล้ว เช่น ดอกเบี้ยรายเดือน ธนาคารจะหักดอกเบี้ยส่วนเกินคืน โดยหักจากเงินต้นที่เหลืออยู่ (ซึ่งจะมีผลคือเงินต้นที่ได้จากการปิดบัญชีฝากประจำจะไม่เท่ากับตอนเปิดบัญชีฝากประจำครั้งแรก)
บัญชีฝากประจำมีกี่ประเภท?
บัญชีเงินฝากประจำ(Fixed Deposit Account) มีทั้งหมด 2 ประเภท คือ
บัญชีเงินฝากประจำแบบทั่วไป (General Fixed Deposit)
จะเป็นการฝากเงินก้อนใหญ่กับทางธนาคารเป็นแบบรายครั้งไป โดยจะไม่มีการถอนเลยภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งเราจะฝากกี่ครั้งก็ได้และจะฝากครั้งละเท่าไหร่ก็ได้ตามใจผู้ฝาก แต่จะต้องเป็นเงินก้อนใหญ่และจะนับช่วงเวลาที่แยกกัน
เช่น เราฝากเงินครั้งแรกในเดือนมกราคมเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท และฝากเงินครั้งที่สองในเดือนมีนาคมเป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท ซึ่งสมมติว่าบัญชีนั้นจะจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และถ้าหากว่าเราไม่ได้มีการถอนเลย เราก็จะได้รับดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน โดยจะคิดดอกเบี้ยจากเงิน 300,000 บาท และก็จะได้รับดอกเบี้ยครั้งที่สองในเดือนกันยายน โดยจะคิดดอกเบี้ยจากเงิน 600,000 บาท และบัญชีเงินฝากประจำประเภทนี้จะต้องมีการเสียภาษี 15% โดยหักจากดอกเบี้ยไปเลย ซึ่งหนึ่งคนจะเปิดได้หลายบัญชี และเราจะสามารถคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากประจำได้จากสูตรนี้ คือ
จำนวนเงินที่ฝาก x ดอกเบี้ย(%) / 365 วัน x จำนวนวันที่ฝาก - ภาษี 15% จากดอกเบี้ยทั้งหมด = ดอกเบี้ยที่เราจะได้รับ
บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี (Tax Free Monthly Deposit)
สำหรับบัญชีฝากประจำปลอดภาษีประเภทนี้จะเป็นการฝากเงินในจำนวนที่เท่า ๆ กันทุกเดือน โดยที่เราจะไม่มีการถอนเลยภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งมักจะฝากเงินเริ่มต้นที่ 1,000-25,000 บาท และจะมีข้อจำกัดคือ 1 คนจะเปิดได้แค่คนละ 1 บัญชีเท่านั้น เพื่อที่ทุกคนจะได้รับความเป็นธรรมกันอย่างเท่าเทียมสำหรับการยกเว้นภาษีนั่นเอง
ข้อดีและข้อเสียของการฝากประจำ
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
สามารถเลือกได้ว่าจะฝากประจำนานเท่าใด 3, 6, 12, 24 หรือ 36 เดือน | สามารถเปิดบัญชีเงินฝากประจำได้เพียง 1 คนต่อ 1 บัญชีเท่านั้น สำหรับการฝากประจำแบบปลอดภาษี |
ฝากได้หลายวิธี เช่น เครื่องรับฝากเงินสด ตู้เอทีเอ็ม แอปพลิเคชันของธนาคาร หรือที่ธนาคารทุกสาขา | สำหรับการฝากประจำแบบทั่วไปจะต้องมีการเสียภาษี 15% |
สามารถใช้บัญชีฝากประจำนี้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อหรือธุรกรรมทางการเงินได้ | หากถอนก่อนกำหนดอาจจะไม่ได้รับดอกเบี้ยเลย หรืออาจจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำมาก |
การฝากประจำจะช่วยสร้างวินัยทางการเงินได้ดี | การฝากประจำจะได้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงิน |
บัญชีเงินฝากประจำมีความเสี่ยงต่ำ | การฝากประจำแบบทั่วไปจะต้องใช้เงินฝากเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง |
ความแตกต่างระหว่างการฝากประจำแบบทั่วไป กับการฝากประจำแบบปลอดภาษี
การฝากประจำแบบทั่วไป | การฝากประจำแบบปลอดภาษี |
---|---|
ฝากเงินแบบก้อนเดียวโดยที่ไม่ถอนเลยภายในระยะที่กำหนด | ฝากเงินจำนวนที่เท่ากันในทุก ๆ เดือนภายในระยะเวลาที่กำหนด |
เปิดบัญชีเงินฝากประจำได้ไม่จำกัดจำนวนต่อคน | จำกัดการเปิดบัญชี 1 คนต่อ 1 บัญชีเท่านั้น |
ได้รับดอกเบี้ยเป็นแบบขั้นบันได ยิ่งฝากนาน ดอกเบี้ยยิ่งสูง | ได้รับดอกเบี้ยเป็นแบบขั้นบันได ยิ่งฝากนาน ดอกเบี้ยยิ่งสูง |
เสียภาษี 15% | ไม่ต้องเสียภาษี |
คิดดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และตามจำนวนเงินฝาก | คิดดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ |
ใครบ้างที่ควรจะทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์?
สำหรับการทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์นี้ จะเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการจะสร้างวินัยทางการเงิน อยากจะต่อยอดเงินออม หรือกำลังมองหาหลักประกันทางการเงินเพื่อความมั่นคงในชีวิตและต้องการที่จะวางแผนชีวิตในระยะยาว เพราะการที่เราออมเงินเองนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากจะควบคุมได้ หากเรามีจิตใจที่ไม่หนักแน่นมากพอก็อาจจะทำให้เสียวินัยทางการออมไปได้ง่าย ๆ เลย
ดังนั้นการออมผ่านประกันชีวิตแบบออมทรัพย์จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการช่วยสร้างวินัยทางการเงินได้ อีกทั้งยังได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากแบบธรรมดา และยังได้รับความคุ้มครองชีวิตตลอดอายุสัญญาของกรมธรรม์ ซึ่งเป็นสิ่งที่การออมเงินในรูปแบบอื่นให้เราไม่ได้ จึงสามารถทำให้เราอุ่นใจและมั่นใจในการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี
ซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ผ่าน แรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
เพราะถึงแม้ว่าในท้องตลาดจะมีบริษัทประกันชีวิตแบบออมทรัพย์มากมายให้คุณได้เลือกแล้ว แต่ที่แรบบิท แคร์ นั้นเราจะสามารถให้คุณได้มากกว่า นั่นก็คือความสะดวกสบาย การบริการสุดพิเศษ และมีแผนประกันสะสมทรัพย์ให้คุณเลือกมากมาย
เพราะเราได้คัดสรรประกันชีวิตแบบออมทรัพย์มาให้คุณเรียบร้อยแล้ว คุณจึงสามารถอ่านรายละเอียดความคุ้มครองได้ทันที อีกทั้งยังสามารถชำระค่าเบี้ยประกันได้หลากหลายช่องทาง และแผนประกันสะสมทรัพย์เหล่านี้ก็มาจากบริษัทประกันภัยชั้นนำระดับประเทศ จึงทำให้คุณยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าจะได้รับทั้งความปลอดภัยและความคุ้มครองที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่า และที่แรบบิท แคร์ เราเป็นบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยชั้นนำจากในเครือของ BTS ซึ่งเป็นบริษัทระดับใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย และดำเนินธุรกิจโดยมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเงื่อนไขของ คปภ. หรือถ้าหากว่ายังตัดสินใจไม่ได้ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำจากเราได้เลยที่ Care Center เบอร์โทรศัพท์ 1438 พร้อมให้บริการตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง เพราะเราดูแลคุณดียิ่งกว่าใคร
ประกันชีวิตที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ