Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

รถมอเตอร์ไซค์ Ducati

ประวัติและความเป็นมาของมอเตอร์ไซค์ Ducati

หากจะพูดถึงแบรนด์รถ Bigbike ระดับหรู ใคร ๆ ก็อยากได้ครอง ชื่อ Ducati คงจะอยู่ในลิสต้น ๆ ของหลายคนเป็นแน่ เพราะชื่อชั้นของ Ducati นั้นดังไปไกลทั่วโลกและมีชื่อเสียงในฐานะมอเตอร์สปอร์ตที่มีความเท่ไม่ซ้ำใคร ประกอบกับเครื่องยนต์กันดุดันที่มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว หากได้ลองซื้อมาขี่แล้วจะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูดีขึ้นไปอีกระดับเลยทีเดียว ซึ่งในประเทศไทยเองในช่วงหลังมานี้แบรนด์ดูคาติก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ดูคาตินั้นมีจุดเริ่มต้นจาก กลุ่มพี่น้องทั้งสามคนชาวอิตาลีได้แก่ Adriano Marcello และ Bruno จากตระกูล Ducati ได้ก่อตั้งบริษัทในปี ค.ศ. 1926 เพื่อผลิตชิ้นส่วนเครื่องวิทยุในเมือง Bologna ซึ่งธุรกิจก็ดำเนินไปได้ด้วยดีจนกระทั่งถึงช่วงสงครามโลก ทางบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากถูกภาครัฐสั่งให้โรงงานผลิตอุปกรณ์เพื่อใช้งานในกองทัพ และต่อมาโรงงานก็ได้ถูกระเบิดจนพังทลายลงไป

หลังสงครามโลกผ่านไป พี่น้อง Ducati จึงได้สนใจร่วมลงทุนกับ SIATA ในการพัฒนาเครื่องยนต์จักรยานขนาดเล็กลูกสูบเดี่ยวที่ชื่อว่า Cucciolo เครื่องยนต์ดังกล่าวนี้มีจุดเด่นคือสามารถนำไปติดตั้งกับจักรยานธรรมดาแล้วนำมาใช้ได้เลย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจนมียอดขาย 250,000 เครื่องทั่วโลก และเครื่องยนต์นี้จะเป็นต้นแบบให้กับมอเตอร์ไซค์ดูคาติในลำดับต่อไป

ผลงานของดูคาติเริ่มเป็นที่ประจักษ์ในปี 1954 ร่วมงานกับวิศกรฟาบิโอ Fabio Taglioni ในการผลิตมอเตอร์ไซค์รุ่น Gran spot 100 CC หรือ Marianna และได้นำลงแข่งในงาน Milan-Taranto" และ "Tour of Italy" เป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นทางบริษัทก็ได้พัฒนายานยนต์ลงแข่งในรายการต่าง ๆ ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์คือก็เครื่องยนต์นวัตกรรม Desmodromic และ L-Twin ที่มีความเร็วและแรงกว่าเจ้าอื่น สามารถสร้างสถิติและคว้ารางวัลมากมาย จนสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์เป็นที่รู้จัก

ตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นไป กระแสมอเตอร์ไซค์แข่งเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง ทางดูคาติจึงได้มุ่งเน้นไปพัฒนามอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานสำหรับคนทั่วไปด้วย อย่างรุ่น Ducati Apollo 1260 ที่ออกมาในช่วงนี้ก็จะเน้นการขายในตลาดผู้ใช้ชาวอเมริกันเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ทางดูคาติก็ไม่ได้ละทิ้งการพัฒนารถแข่งแต่อย่างใด จึงได้มีการผลิตควบคู่กันไปกับรถที่ขายทั่วไปด้วย และมีการนำเทคโนโลยีรถแข่งมาใส่ไว้ในรถที่จำหน่ายทั่วไปเช่นกัน โดยรุ่นดัง ๆ ที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์ก็มีมากมายเช่น รุ่น Mark 3D, รุ่น 500 GP, รุ่น 750 GT, รุ่น 750 Imola Desmo รุ่น 851, รุ่น 916 เป็นต้น ทั้งนี้ดูคาติ ได้ประสบความสำเร็จจากการแข่งขันระดับโลกหลายครั้ง โดยสามารถคว้าแชมป์ WorldSBK ได้ถึง 18 ครั้ง และแชมป์ MotoGP จำนวน 2 ครั้ง

มอเตอร์ไซค์ Ducati อีกรุ่นที่น่าสนใจคือ Ducati Desmosedici D16RR NCR M16 ซึ่งเป็นรุ่นที่แพงที่สุดของค่ายแบรนด์ โดยมีราคาคันละประมาณ 7.3 ล้านบาท ตัวรถทำมาจากวัสดุไทเทเนียมผสมกับคาร์บอนไฟเบอร์ ให้กำลังขับมากถึง 200 แรงม้า

ตลาดมอเตอร์ไซค์ Ducati ในประเทศไทย



สำหรับการเปิดตลาดมอเตอร์ไซค์ Ducati ในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นเมื่อปี 2003 เป็นต้นมา โดยมี บริษัท ดูคาติ ประเทศไทย จำกัด เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และได้นำรุ่น Multistrada 1000 DS เข้ามาจำหน่ายเป็นรุ่นแรก และต่อมาในช่วงปี 2010 แบรนด์ดูคาติ ก็ได้มีการขยายโชว์รูมทั่วประเทศมากขึ้นในไทยเพื่อรองรับกับฐานลูกค้าที่กำลังนิยมในแบรนด์ พร้อมกับมีการจัดแคมเปญต่าง ๆ มากมายเพื่อสร้าง Community ให้กับผู้ที่หลงใหลในสไตล์ของดูคาติ

ในยุคปัจจุบันที่กระแสรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาแรง ทางค่ายดูคาติเองก็มีโครงการผลิตรถ Bigbike ไฟฟ้าด้วย โดยชื่อคือการคือ Ducati Zero ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวและผลิตจริงในปี 2025 เป็นต้นไป เรียกได้จากอดีตจนถึงปัจจุบันกว่า 100 ปี ทางแบรนด์ก็ได้พัฒนายานยนต์สมรรถนะสูงในตลาดเสมอมา และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

Ducati ราคาเท่าไหร่?

สำหรับใครที่สงสัยว่า Ducati มีรุ่นอะไรบ้าง ทางเราขอนำลิสรายชื่อรุ่นและ Ducati ราคาแต่ละรุ่นจากเว็บไซต์ Oficial มาเผยข้อมูลให้ดังนี้

 

ราคา

รุ่นรถ

ต่ำกว่า 500,000 บาทMonster  
Scrambler
500,001 - 1,000,000 บาทMonster SP  
Hypermotard  
Panigale V2  
Streetfighter V2  
Multistrada V2  
DesertX
1,000,000 - 1,500,000 บาทPanigale V4  
Streetfighter V4  
Multistrada V4  
Diavel
สูงกว่า 1,500,000 บาทPanigale V4 SP2  
Multistrada V4 Pikes Peak

ประเภทของรถมอเตอร์ไซค์ Ducati

ประเภท

รุ่นรถ

น้อยกว่า 1000 ซีซีMonster
Scrambler
Hypermotard
Panigale V2
Streetfighter V2
Multistrada V2
มากกว่า 1000 ซีซีPanigale V4
Streetfighter V4
Multistrada V4

ดีไซน์รถมอเตอร์ไซค์ Ducati

  • รุ่น Monster เป็นรถ bigbike ดีไซน์สปอร์ต รูปทรงกะทัดรัด ขับขี่ได้เหมาะสมกับในชีวิตประจำวัน มีความคล่องตัวสูง มีการทำให้ตัวรถน้ำหนักเบาด้วยล้ออลูมิเนียมอัลลอยและซับเฟรมด้านหลังใช้วัสดุ Glass Fiber Reinforced Polymer ระบบความปลอดภัย Cornering ABS ล้อหน้า พร้อมระบบช่วยปรับแรงดันน้ำมันเบรกให้เหมาะสม ตัวเบามีขนาดกระชับสูงจากพื้น 775 มม. ช่วงขาหนีบของรถออกแบบมาให้แคบสามารถใช้ขาเหยียบพื้นได้เต็มเท้า เหมาะกับผู้ขับที่ไม่สูงมากนัก

  • รุ่น Scrambler เป็นรุ่นที่ออกแบบมาโดยผสมผสานระหว่างความเป็นวินเทจและสไตล์สมัยใหม่ ทั้งไฟหน้าทรงกลม ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ พร้อมท่อไอเสียทรงสูง และโครงรถแบบเปิดโล่งสื่อถึงพลัง เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นยานพานะแล้วยังเป็นงานศิลป์ที่สื่อถึงจิตวิญญาณของดูคาติอย่างแท้จริง

  • รุ่น Hypermotard มีการออกแบบรูปทรงที่ออกมาดูดุดัน พร้อมประสิทธิภาพการใช้งานสูง มีขอบลายเส้นโค้งเฉียบคม มีส่วนเปิดให้เห็นโครงภายในราวกับมีพลังอันเปี่ยมล้น ประสบการณ์การขับขี่อันน่าตื่นเต้น ขณะเดียวกันก็รักษารูปลักษณ์ที่สวยงามไม่ซ้ำใคร มาพร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น สัญญาณไฟ pass, ปุ่มเข้าถึงเมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ของตัวรถ. สวิทช์สัญญาณไฟ hazard บังโคลนและครอบสายพานที่ทำจากคาร์บอน

  • รุ่น Panigale ออกแบบมาให้ดูแข็งแกร่งด้วยโครงเฟรมปกคลุมแทบรอบคัน พร้อมองค์ประกอบอันน่าสนใจมากมาย เช่น ไฟหน้า LED, ไฟท้าย LED ทรงปีก, แฟริ่งแบบ Dual Layer, ท่อไอเสียทรง Compact ออกใต้ท้อง, จอแสดงผล TFT 4 สีขนาด 4.3 นิ้ว, เบาะนั่งสองตอนเล่นระดับแบบสปอร์ต, ถังน้ำมันขนาดความจุ 14 ลิตร, ดิสก์เบรกคู่หน้าขนาด 320 มม. กึ่งลอยตัว

  • รุ่น Streetfighter ออกแบบมาที่ดูโฉบเฉี่ยวและดุดัน ให้ความรู้สึกถึงพลังและสมรรถนะ เหมือนรถแข่งในสนาม มอบการเดินทางที่เร้าใจให้กับผู้ขับขี่อีกด้วย จุดเด่นของรุ่นนี้คือหน้ากากที่ดูเท่ และไฟหน้าทรง V Shape ตัดกับกรอบเรือนไมล์สีดำ และช่องดักอากาศ 2 ช่องที่นำอากาศเข้าสู่กรองอากาศ

  • รุ่น Multistrada ออกแบบในลักษณะรถทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ ตัวรถมีความสูงโปร่งให้ทัศนวิสัยที่ดีในขณะขับขี่ โครงรถมีน้ำหนักเบาเสริมความคล่องตัวยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยก้านหน้าโค้งเว้า พร้อมไฟหน้าคู่แบบ LED โดยรวมทั้งไฟสูงและไฟต่ำในโคมเดียวกัน ล้อหน้าใช้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมรัดยางขนาด 120/70 ZR19 และหน้าจอแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน

ความคุ้มครองและผลประโยชน์

ตารางความคุ้มครอง        
 
ผลประโยชน์ 
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 2+ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 2ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3+ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3
คู่กรณี
บุคคล ✔️✔️✔️✔️✔️
ทรัพย์สินของคู่กรณี✔️✔️✔️✔️✔️
รถของผู้เอาประกันภัย
การชนแบบมีคู่กรณี✔️✔️✔️
การชนแบบไม่มีคู่กรณี✔️
ไฟไหม้✔️✔️✔️
รถหาย✔️✔️✔️
ภัยธรรมชาติ✔️✔️✔️
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง✔️✔️
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล
อุบัติเหตุส่วนบุคคล✔️✔️✔️✔️✔️
การรักษาพยาบาล✔️✔️✔️✔️✔️
การประกันตัวผู้ขับขี่✔️✔️✔️✔️✔️

บริษัทประกันภัยชั้นนำที่เราคัดสรรมาให้คุณ

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

รถมอเตอร์ไซค์ Ducati เหมาะกับประกันชั้นไหนมากที่สุด?

เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ Ducati เป็นรถที่มีราคาแพง ซึ่งแต่ละรุ่นมีราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 500,000 ถึง 1,000,000 บาท ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุและได้รับความเสียหายขึ้นมา ย่อมจ่ายค่าซ่อมแพงแน่นอน นอกจากนี้ด้วยมูลค่าของรถยังเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมอีกด้วย ดังนั้นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสมกับดูคาติมากที่สุดก็คือ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ Ducati ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุมมากที่สุดนั่นเอง โดยประกันจะให้ความคุ้มครองความเสียหายจากประเภทต่าง ๆ ไปจนถึงคุ้มครองรถจากการโจรกรรม คุ้มครองกรณีรถเสียหายจากไฟไหม้ และภัยธรรมชาติต่าง ๆ ให้คุณลองคิดว่าในเมื่อซื้อรถราคาแพงมาใช้ ก็ควรจ่ายเงินซื้อประกันภัยให้มีความคุ้มครองเหมาะสมกับรถของคุณย่อมดีที่สุด

Ducati ราคาเบี้ยประกันภัยเท่าไหร่ ซื้อกับแรบบิท แคร์ ดีกว่าอย่างไร?

เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ดูคาติเป็นรถที่มีมูลค่าสูง เงินเอาประกันภัยย่อมสูงกว่าตัวรถ เบี้ยประกันจึงมีราคาแพง และแผนประกันค่อนข้างยาก แต่ทั้งนี้เนื่องด้วยแรบบิท แคร์ เป็นโบรกเกอร์ประกันภัยอันดับหนึ่ง และเรามีแผนประกันภัยมากมาย เราจึงมีแผนประกันมอเตอร์ไซค์ดูคาติให้คุณเลือกแน่นอน ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าไปเช็กเบี้ยประกันได้ง่าย ๆ โดยไปเช็กราคาออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของแรบบิท แคร์ ได้เลย ซึ่งระบบก็ใช้งานง่ายมาก เพียงแค่คุณระบุชื่อรุ่นรถ แผนประกันที่ต้องการ และข้อมูลของผู้ขับขี่ ระบบก็จะแสดงราคาประกันให้คุณทราบทันที!

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา