แน่นอนว่าหากรายรับน้อยกว่ารายจ่าย คงจะสร้างความหนักใจให้ใครหลายคนไม่น้อย ทำให้หลายคนเป็นหนี้ เช่น หนี้รถยนต์ หรือโดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต พอไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ก็มักจะหนี นำมาซึ่งความเสียหายถึงชีวิตและหน้าที่การงานของคุณ บางคนอาจโดนฟ้องยึดทรัพย์ ยึดบ้าน ทำให้บางคนสงสัยว่า การปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม แล้วจะมีคนให้กู้ต่อไหม มันคืออะไรกันแน่ วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาทุกคนไปหาคำตอบว่า ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม แล้วปรับอีกได้ไหม ไปดูกันเลย!!
ปรับโครงสร้างหนี้ คืออะไร?
การปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม ซึ่งจริง ๆ แล้วความหมายหรือนิยามก็คือ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการชำระหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถจ่ายหนี้ได้โดยไม่ผิดนัดชำระ อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะการค้างชำระหนี้มักจะนำมาสู่ผลเสียมากมาย เช่น ถูกคิดดอกเบี้ย หรือมีประวัติค้างจ่ายในข้อมูลเครดิตบูโร
การปรับโครงสร้างหนี้ ทำได้หลายวิธี เช่น ลดค่างวดโดยการขยายเวลาจ่ายหนี้ หรือเปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายหนี้เพื่อลดภาระดอกเบี้ย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คำถามที่ว่า การปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม ปกติแล้วการขอปรับโครงสร้างหนี้ มีผลต่อประวัติในเครดิตบูโรแตกต่างกันออกไป ดังนั้น แนะนำให้ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเดินจากสถาบันทางการเงิน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ปรับโครงสร้างหนี้ มีกี่ประเภท?
ก่อนที่คุณจะกังวลว่า ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม มาศึกษาและทำความเข้าใจกันก่อนถึงประเภทของการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด โดยจะเลือกวิธีไหนขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ เราจ่ายไหวแค่ไหน และ จำนวนเงินและระยะเวลาในการจ่ายหนี้
1. การเปลี่ยนประเภทหนี้
อย่าพึ่งตระหนกตกใจไปว่า เปลี่ยนประเภทหนี้ หรือ ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม จริง ๆ แล้วมันคือ การเปลี่ยนหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลง เช่น หนี้บัตรเครดิต หากคุณชำระไม่ตรงเวลาและไม่ครบจำนวน จะถูกคิดดอกเบี้ย 16% ต่อปี วิธีแก้คือ การขอเปลี่ยนเป็นสินเชื่อแบบมีกำหนดระยะเวลาชำระ (term loan) โดยข้อดีคือ มีกำหนดเวลาจ่ายคืนที่ชัดเจนขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อย่างไรก็ตามจำนวนยอดที่ต้องจ่าย ขึ้นอยู่กับยอดหนี้ที่เราค้างจ่ายและระยะเวลาของสินเชื่อแบบ term loan วิธีนี้เหมาะกับ คนที่ยังจ่ายไหวแต่อยากลดภาระดอกเบี้ย
2. การรีไฟแนนซ์
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Refinance ถือเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม ความหมายจริง ๆ คือการปิดหนี้จากเจ้าหนี้เดิมเพื่อย้ายไปกู้กับเจ้าหนี้รายใหม่ที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง วิธีนี้สามารถใช้กับหนี้ชนิดอื่น ๆ ได้หมดเลย เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด แต่มักจะนิยมใช้กับหนี้บ้าน
3. การลดอัตราดอกเบี้ย
การขอลดอัตราดอกเบี้ย เป็นอีกหนึ่งวิธีในการปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม? แต่ข้อดีคือทำให้ภาระหนี้ที่จะต้องจ่ายลดลงบางส่วน โดยสถาบันทางการเงินมักลดอัตราดอกเบี้ยให้เพื่อให้ลูกหนี้มีเวลาปรับตัวในช่วงที่รายได้ลดกะทันหัน เช่น 3 เดือน หรือ 6 เดือน เป็นต้น ซึ่งรายได้ที่ลดลงอาจมาจาก มีคนในครอบครัวตกงาน คือลูกหนี้ตกงาน ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่เหมาะเมื่อรายได้เกิดลดลงแบบกะทันหัน
4. การพักชำระเงินต้น
การพักชำระเงินต้น เป็นหนึ่งในการปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม แล้วธนาคารให้ประนาณเท่าไหร่ ความหมายของมันคือการที่เราไม่ต้องจ่ายเงินต้นแต่ยังต้องจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งจำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับยอดหนี้ทั้งหมด ประเภทหนี้ ระยะเวลากู้ยืม และอัตราดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารมักให้พักชำระเงินต้นประมาณ 3 - 6 เดือน เหมาะกับคนที่รายได้หรือรายรับลดลงเพียงไม่นานและสามารถกลับมาชำระหนี้ตามเดิมได้
5. การขยายเวลาชำระหนี้
เป็นการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการจ่ายหนี้ และยอดผ่อนต่อเดือนลดลง บางคนขอเพิ่มได้ 5 ปี โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุลูกหนี้ ยอดหนี้ ประเภทหนี้ รวมถึงฐานะการเงินของลูกหนี้ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม ต้องตอบเลยว่ามีผลกระทบกับเครดิต และถ้ายิ่งผ่อนนาน จะทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น
ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม?
แน่นอนว่าหลายคนคงสงสัยว่า การปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม เสียแน่นอนเนื่องจากคุณเป็นหนี้ และไม่สามารถชำระหนี้ได้ นอกจากนี้การปรับโครงสร้างนี้ยังสะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดประวัติค้างชำระในข้อมูลเครดิตบูโรและเป็นการสร้างประวัติทางการเงินที่ดี เมื่อปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ควรชำระหนี้ให้ได้ ตามจำนวนและตรงเวลาที่กำหนดไว้
ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม แล้วสถานะเครดิตบูโร ที่ลูกหนี้ไม่ควรละเลย และควรทราบ หลัก ๆ มีดังต่อไปนี้
- สถานะบูโร 010 หรือ 10 : สถานะเป็นปกติ มีชำระหนี้ตรงเวลา จ่ายครบ ไม่มีหนี้ค้าง
- สถานะบูโร 011 หรือ 11 : มีการชำระหนี้ครบตามจำนวน ไม่ว่าจะเป็นหนี้ใหม่ หรือหนี้ที่เคยค้างชำระไว้เป็นเวลานาน และปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว
- สถานะบูโร 013 หรือ 13 : มีการขอพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ ทำให้สถานะไม่เป็นการค้างชำระ
- สถานะบูโร 033 หรือ 33 : ปิดบัญชี เนื่องจากตัดเป็นหนี้สูญ
เคยปรับโครงสร้างหนี้ ทำบัตรเครดิตได้ไหม?
เมื่อทราบคำตอบแล้วในคำถามที่ว่า การปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม หลายคนก็กังวลต่อว่า แล้วเมื่อประวัติเสีย สามารถสมัครบัตรเครดิตได้ไหม เมื่อเคลียร์หนี้เก่าและปิดบัญชีเรียบร้อย…
สำหรับใครที่เคยปรับโครงสร้างหนี้ สามารถทำบัตรเครดิตได้ โดยการพิจารณาอนุมัติบัตรนั้นจะขึ้นอยู่กับฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และ คุณสมบัติของผู้สมัครเบื้องต้น เช่น ข้อมูลเครดิตบูโร เอกสารแสดงรายได้ คุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด ประวัติการชำระสินเชื่อที่มีกับสถาบันการเงินความสามารถในการผ่อนชำระ และ ภาระหนี้ที่มีกับทุกสถาบันการเงิน
เอกสารที่ใช้ประกอบการสมัครบัตรเครดิต
- 1. ใบสมัครบัตรเครดิต และหนังสือให้ความยินยอมการตรวจสอบเครดิตบูโร
- 2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- 3. สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองรายได้ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
คุณสามารถยื่นเอกสารสมัครบัตรเครดิตได้ที่ธนาคาร และระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติบัตรจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัครและขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาและได้รับการอนุมัติที่รวดเร็ว ควรเตรียมและตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารก่อนยื่นทุกครั้ง
ปรับโครงสร้างหนี้ ปรับอีกได้ไหม?
ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม แน่นอนว่าเสียประวัติ และถ้าปรับแล้ว สามารถปรับอีกได้ไหม เนื่องจากเงื่อนไขใหม่ที่ได้มาก็ยังเกินความสามารถในการจ่ายคืน ให้คุณเจรจากับธนาคารเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจ่ายหนี้ไม่ได้ และถ้าขอปรับโครงสร้างหนี้อีก อาจทำได้ยากขึ้น เพราะมีผลแตกต่างกันต่อประวัติในเครดิตบูโร
ควรปรับโครงสร้างหนี้เมื่อไหร่?
ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม แล้วควรปรับเมื่อไหร่? จริง ๆ แล้วเป็นวิธีที่เสียประวัติการมีวินัยในการจ่ายหนี้ แต่ดีกว่าการหนีหนี้แน่นอน ควรเริ่มทำเมื่อพบว่าความสามารถในการชำระหนี้ไม่เหมือนเดิม เช่น หมุนเงินไม่ทัน รายได้ลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ควรรีบติดต่อสถาบันทางการเงินอย่างเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เสียประวัติข้อมูลเครดิตไปมากกว่านี้ เพราะอาจส่งผลกระทบกับการขอสินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคต
การรักษาเครดิตทางการเงิน ทำได้อย่างไรบ้าง?
จากคำถามที่ว่า ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม หากคุณค้างชำระหนี้ ยังไงก็เสียประวัติ แรบบิท แคร์ มีวิธีการรักษาเครดิตทางการเงินมาฝากทุกคน ประกอบไปด้วย
- การตรวจสอบหนี้ทั้งหมดที่เรามี เพื่อเห็นธุรกรรมทางการเงินของเราทั้งหมด ทำให้รู้ว่าตอนนี้มีหนี้ไหม มีเท่าไหร่ เพื่อที่จะบริหารจัดการถูก
- หากมีหนี้ ควรวางแผนการชำระหนี้รายเดือนให้ดี เช่นแบ่งสัดส่วน รายรับและรายจ่าย รวมถึงการเก็บออม เพื่อจะได้มีเงินสำรองเผื่อเหตุฉุกเฉินในอนาคต
- จ่ายหนี้ก่อนวันหรือตรงวันที่กำหนดไว้ และให้ตรงตามยอดที่กำหนด เพื่อป้องกันการค้างชำระหนี้
- รีบปิดหนี้ให้เร็วที่สุด โดยการนำเงินก้อนที่มีมา โปะหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงๆ ให้หมดไว ๆ
เหล่านี้คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม และเป็นการตอบคำถามที่ว่า การปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม เชื่อว่าทุกคนที่อ่านมาคงได้คำตอบที่ชัดเจนพร้อมความรู้ในการบริหารจัดการตัวเองเพื่อไม่ให้เสียประวัติ ดังนั้น เพื่อเป็นการรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียว อย่าลังเลที่จะสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล กับ แรบบิท แคร์ คุณจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง สามารถถอนออกมาใช้ได้ตลอด หากต้องการใช้เงินก้อนใหญ่ สามารถสมัครง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ปลอดภัย อนุมัติไว สนใจโทรเลย 1438
- ผ่อนนานสูงสุด 24 และ 72 เดือน
- วงเงินกู้ถึงหลักล้าน
- อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
- มีอายุงานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
- มีรายได้ต่อเดือน 15,000 บาทขึ้นไป
- ผ่อนชิลๆ 60 เดือน
- อนุมัติวงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท
- มีรายได้ต่อเดือน 20,000 บาทขึ้นไป
- อายุงานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
- ไม่เคยยื่นกับ Citi ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
LH Bank
- ดอกเบี้ยต่ำ 8.88%/ปี*
- วงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท*
- ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน*
- ไม่ต้องค้ำประกัน
- อายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปีขึ้นไป
- ทำงานในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
- รายได้ต่อเดือนขั้นต่ำ 30,000 บาทขึ้นไป
TTB
- อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 25% ต่อปี
- ไม่ต้องค้ำ
- ดอกเบี้ยพิเศษ ลดต้นลดดอก
- ผ่อนได้นานสุด 60 เดือน
- วงเงินอนุมัติสูง 5 เท่าของรายได้