รถยนต์ Toyota Corolla
ประวัติและความเป็นมาของ Toyota Corolla
Toyota Corolla เป็นรุ่นรถเรือธงของค่ายโตโยต้ามาอย่างยาวนาน และยังเป็นช่วงรุ่นที่สามารถทำยอดขายได้สูงสุดตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันอีกด้วย โดยทำยอดขายรวมทั่วโลก 150 ประเทศ ไปแล้วกว่า 50 ล้านคัน เหล่าผู้ใช้งานจริงต่างยกย่องว่า โตโยต้าโคโรลล่าเป็นรถยนต์ที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เนื่องจาก Toyota Corolla ราคาไม่แพง ความปลอดภัย และสมรรถนะการขับขี่ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นรถที่สร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำให้กับวงการยานยนต์มากมาย
ชื่อของ Toyota Corolla นั้น แปลว่ากลีบดอกไม้ โดยจุดเริ่มต้นของยานยนต์รุ่นนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1966 โดยทางค่ายโตโยต้าได้ดีไซน์ออกมาให้เป็นรถครอบครัวที่มีขนาดกะทัดรัด หลังจากเปิดตัวทางผู้ผลิตก็ได้นำโตโยต้าโคโรลล่ามาขายในประเทศไทยด้วย ซึ่งก็ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคเพราะราคาไม่แพง
ตั้งแต่อดีตจนถึงยุคปัจจุบันเกือบ 60 ปี ทางผู้ผลิตก็ได้พัฒนาปรับปรุง Toyota Corolla ให้ครองตลาดอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งมีการออกรุ่นย่อยต่าง ๆ
มากมาย โดย ณ ตอนนี้ Toyota Corolla ก็เดินทางผ่านมาถึงเจนเนอเรชั่น 12 แล้ว ซึ่งเราขอสรุปการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเจนเนอเรชั่นดังนี้
- เจนเนอเรชั่นที่ 1 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1966 Toyota Corolla รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่าย เน้นการใช้งาน มีทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบคูเป้ 2 ประตู และใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี มีเกียร์ให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 4 ระดับ และเกียร์ อัตโนมัติ 2 สปีด
- เจนเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1970 Toyota Corolla ให้ถูกปรับปรุงตัวถังให้ใหญ่ขึ้น ดีไซน์ดูสปอร์ตตามสากลนิยม เพราะต้องการเจาะตลาดทั่วโลก มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลาย และมีจุดเด่นคือ มีความทนทานสูง จึงได้รับความนิยมแพร่หลาย
- เจนเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1974 มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงกว่าเดิม และมีการปรับตัวถังหลายแบบให้ผู้ใช้งานเลือกใช้ ทั้ง Toyota Corolla แบบซีดาน คูเป้ สเตชั่นวากอน ฯลฯ และมีการเสริมฟังก์ชันต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- เจนเนอเรชั่นที่ 4 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1979 ช่วงล่างมีการปรับให้นุ่มนวลขึ้น มีการปรับตัวถังให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่จดจำมาถึงทุกวันนี้ Toyota Corolla รุ่นนี้ได้รับความนิยมในไทยมาก เพราะมักเอามาทำเป็นรถแท็กซี่
- เจนเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1983 มีการปรับมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้ห้องโดยสารกว้างขึ้น ส่วนช่วงล่างเปลี่ยนมาใช้เป็นแบบ Strut อิสระ 4 ล้อ ตอนนี้ Toyota Corolla มีเครื่องยนต์ ดีเซล 1,800 ซีซี ให้เลือกใช้งานด้วย
- เจนเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1987 เป็นรถ Toyota Corolla ที่คนไทยรู้จักกันในชื่อเล่นว่าโดเรม่อน เพราะตัวถังคล้ายการ์ตูนโดเรม่อน ช่วงนี้มีการพัฒนาระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีดให้ใช้งาน เครื่องยนต์มีให้เลือกเยอะมาก และเริ่มมีการใช้เทคโนโลยี เครื่องยนต์ 16 วาล์ว เป็นครั้งแรก และเติม
- เจนเนอเรชั่นที่ 7 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1991 มีการพัฒนาชุดเกียร์เพิ่มขึ้นเป็นแบบ 6 สปีด รวมถึงเพิ่มความจุเครื่องยนต์แบบดีเซลให้มากถึง 2,000 ซีซี โดย Toyota Corolla รุ่นนี้มีตัวถังให้เลือกหลากหลายทั้ง Sedan 4 ประตู, Hatchback 5 ประตู, Coupe 2 ประตู, Liftback 3 ประตู และ Station Wagon 4
- เจนเนอเรชั่นที่ 8 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1995 Toyota Corolla มีการปรับปรุงด้านความปลอดภัย เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ลดการปล่อยก๊าซเสียให้น้อยลง และได้เพิ่ม ฟีเจอร์ขั้นสูงมากมาย เช่น กระจกไฟฟ้า ระบบล็อคกันขโมย และกุญแจรีโมท
- เจนเนอเรชั่นที่ 9 เปิดตัวในปี ค.ศ. 2000 โตโยต้าโคโรลล่ารุ่นนี้คนไทยจะรู้จักกันแพร่หลายในชื่อ Toyota Corolla Altis ซึ่งจะได้รับความนิยมต่อไปจากนี้ โดยเฉพาะการใช้เป็นรถแท็กซี่ ตัวถังมีการปรับโฉมใหม่ให้มีความโค้งมนเข้ากับยุคสมัย และยกเลิกตัวถังแบบ 2 ประตูไปแล้ว โดยมาใช้แบบ 4 ประตูซีดานเป็นหลัก
- เจนเนอเรชั่นที่ 10 เปิดตัวในปี ค.ศ. 2007 เป็น Toyota Corolla เจนเนอเรชั่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะคุ้มค่าสมราคา ทั้งประหยัดน้ำมัน ทนทาน ขับขี่นุ่มนวล ตัวถังปรับปรุงให้ใหญ่นั่งสบาย และที่สำคัญคือใช้งานได้ดีแทบไม่มีปัญหาขัดข้องมาให้รบกวนใจ
- เจนเนอเรชั่นที่ 11 เปิดตัวในปี ค.ศ. 2013 เจนนี้ได้รับการปรับโฉมอีกครั้งโดยบริเวณด้านหน้าดูเรียวขึ้นให้ดูสปอร์ตทันสมัย ตัวเกียร์ได้หันมาใช้ระบบอัตโนมัติ CTV จับคู่กับเครื่องยนต์รหัส ZR ทำให้ประสิทธิภาพขับขี่สูงขึ้น จึงยกระดับ Toyota Corolla ให้หรูหราไปอีกขั้นโดยเปลี่ยนจาก Segment B เป็น C อย่างเต็มตัว
- เจนเนอเรชั่นที่ 12 เปิดตัวในปี ค.ศ. 2019 เป็น Toyota Corolla เจนล่าสุด ซึ่งในยุคนี้จะมีการปรับปรุงให้เข้ากับเทรนด์รถอเนกประสงค์ Crossover โดยมีการผลิตรุ่นใหม่เข้ามาตีตลาดอย่าง Toyota Corolla Cross ส่วนสมรรถภาพการขับขี่ก็ได้มีลูกเล่นใส่มามากมาย ทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เป็นต้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทั้ง 12 เจนเนอเรชั่น Toyota Corolla ได้ออกรุ่นย่อยรวมมากมาย หลาย ๆ รุ่นก็ออกมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ จึงไม่เคยเห็นขายในประเทศไทย คนไทยจึงคุ้นชื่อโตโยต้าโคโรลล่าแต่ในช่วงรุ่น Limo, Altis, และ Corolla Cross เท่านั้น ส่วน Toyota Corolla Hatchback ที่หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้าง ทางโตโยต้าไม่ได้มีการนำเข้ามาขายในประเทศไทยแต่อย่างใด ซึ่งรุ่นนี้ได้ผลิตมาขายแต่ในตลาดต่างประเทศเท่านั้น ส่วนอีกรุ่นที่เคยได้ยินข่าวมาบ้างคือ Toyota GR Corolla นั้น แม้ว่าจะมีการขายในไทยจริง แต่ก็ขายเฉพาะกลุ่มเพียง 9 คันเท่านั้น ไม่ได้ขายให้จับจองอย่างเป็นทางการจากโตโยต้า
Toyota Corolla ราคาเท่าไหร่?
แม้ว่า Toyota Corolla จะมีรุ่นย่อยมาก ๆ แต่อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของโตโยต้าได้ระบุว่า ณ ปัจจุบันนี้ Toyota Corolla มีจำหน่ายเพียงแค่ Corolla Altis และ Corolla Cross เท่านั้น โดยมีราคาดังนี้
รุ่นรถ | ราคาแต่ละรุ่น |
---|---|
Corolla Altis 1.6 G | <900,000 |
Corolla Altis 1.8 Sport, Corolla Cross 1.8 Sport | 900,001 – 1,000,000 |
Corolla Altis HEV Premium, Corolla Cross 1.8 Hybrid Smart, Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium | 1,000,001 – 1,100,000 |
Corolla Altis HEV GR Sport, Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium Safety, Toyota GR Corolla | 1,100,000 บาทขึ้นไป |
Segments ของ Toyota Corolla
Toyota Corolla ทั้งหมดนั้นจะอยู่ในกลุ่ม C-Segment ทั้งหมด เพราะทางค่ายได้ตั้งเป้านำโตโยต้าโคโรลล่า เจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป
Segment | รุ่นรถ |
---|---|
C-Segment | Corolla Altis 1.6 G, Corolla Altis 1.8 Sport, Corolla Altis HEV Premium, Corolla Altis HEV GR Sport, Corolla Cross 1.8 Sport, Corolla Cross 1.8 Hybrid Smart, Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium, Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium Safety, Toyota GR Corolla |
ประเภทของรถยนต์ Toyota Corolla
ประเภท | รุ่นรถ |
---|---|
Seadan | Toyota Corolla Altis |
Hatchback | Toyota GR Corolla |
SUV | Toyota Corolla Cross |
Toyota Corolla ดีไหม?
สำหรับใครที่สงสัยว่า Toyota Corolla ดีไหม? สรุปข้อดีจากรีวิวผู้ใช้งานจริงมาให้คือ โตโยต้าโคโรลล่าเป็นรุ่นรถที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ค่าซ่อมแพง หาอู่ง่าย อะไหล่หาง่าย มีฟังก์ชันพื้นฐานใช้งานครบ และที่สำคัญคือมีรุ่นย่อยให้เลือกมากมายตามวัตถุประสงค์ผู้ใช้งาน แต่ก็มีข้อเสียคือดีไซน์ ส่วนข้อเสียก็คือการดีไซน์ภายในห้องโดยสารอาจดูไม่หรูหรา และฟังก์ชันอาจดูไม่เยอะเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่มีราคาเดียวกัน
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
เบี้ยประกัน Toyota Corolla ราคาเท่าไหร่?
ราคาเบี้ยประกันภัยของ Toyota Corolla แต่ละคันนั้นไม่เท่ากัน เนื่องจากราคาเบี้ยประกันย่อมขึ้นกับปัจจัยรายละเอียดต่าง ๆ ได้แก่ สภาพความสมบูรณ์ของตัวรถ ประวัติพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ประเภทของเบี้ยประกันภัย ลักษณะการใช้งานของรถ เป็นต้น หากคุณอยากทำประกันภัยกับ Toyota Corolla และอยากรู้ว่าจะมีค่าเบี้ยประกันเท่าไหร่? คุณสามารถเช็กราคาแผนประกันภัยโตโยต้าโคโรลล่าง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์แรบบิท แคร์ ซึ่งเราพร้อมให้คำปรึกษาและเช็กเบี้ยประกันให้คุณอย่างแม่นยำตลอด 24 ชั่วโมง ให้คุณได้ประกันรถยนต์ในราคาถูก แต่ได้รับความคุ้มครองที่ตรงใจ 100 เปอร์เซ็นต์
ควรซื้อประกันภัยรถยนต์ Toyota Corolla ดีไหม? ทำไมต้องซื้อกับแรบบิท แคร์?
เราแนะนำว่ารถยนต์ทุกคันควรมีประกันภัย ยิ่งคุณใช้รถ Toyota Corolla ยิ่งต้องซื้อประกันภัย เพราะจะได้มีค่าซ่อม และค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทำให้คุณขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ เกิดเหตุไม่คาดฝันก็มีคนช่วยดูแล อย่างแรบบิท แคร์ เรามีแผนประกันรถยนต์ Toyota Corolla ให้คุณเลือกมากมาย ราคาถูก สามารถเลือกผ่อนได้ 0% ตลอด 10 เดือน พร้อมกับมีโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย หากมีปัญหาบนท้องถนนเมื่อไหร่เรายินดีให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คุณพึงพอใจกับการบริการอย่างถึงที่สุด