รถยนต์ Haval Jolion
ประวัติและวิวัฒนาการของรถยนต์ Haval Jolion
ประวัติความเป็นมาของรถยนต์ Haval Jolion เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2020 ซึ่งได้มีการเปิดตัวในประเทศจีนภายใต้ชื่อรุ่นว่า Haval H2 หรือมีชื่อภาษาจีนว่า ฉูเหลียน (Chu Lian) ที่มีความหมายว่า รักแรก (First Love) จากนั้นทางค่าย Great Wall Motor (GWM) ได้มีการเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในชื่อใหม่อย่าง Haval Jolion ซึ่ง ณ ช่วงเวลาการเปิดตัวมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ Tect, Pro และ Ultra ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีจนรุ่นเริ่มต้น 2 รุ่นแรกขายหมดเกลี้ยง ทำให้ทางค่าย GWM หันมาผลิต Ultra ขายเป็นหลัก และปี 2023 ก็ได้ออกรุ่นใหม่ด้วยไมเนอร์เชนจ์อีกเล็กน้อย พร้อมแปะป้ายชื่อ New Ultra ในราคาเท่าเดิม
และในปีเดียวกัน 2023 ทาง GWM ได้เปิดตัว Haval Jolion Sport เพิ่มขึ้นมาอีกรุ่น ที่เน้นราคาถูกลง ลดระบบบางอย่างจากรุ่น Ultra ลง เพื่อให้มีราคาที่เข้าถึงง่าย แต่ก็ปรับเปลี่ยนรูปโฉมเพิ่มความสปอร์ตได้อย่างดุดัน จนได้รับการตอบรับในตลาดไทยเป็นอย่างดี
Haval Jolion ราคาแต่ละรุ่นเท่าไหร่
รุ่นรถ | ราคาแต่ละรุ่น |
|---|---|
| Haval Jolion Ultra | 999,900 บาท |
| Haval Jolion Sport | 799,900 บาท |
สมรรถนะเครื่องยนต์ Haval Jolion
เครื่องยนต์ของรถฮาวาล โจไลออนส์ Haval Jolion นั้นใช้งานเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น โดยใช้เป็นเครื่องยนต์ LEMON DHT (Dedicated Hybrid Transmission) ด้วยเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบมัลติโหมด DHT ทำให้รองรับการขับขี่ได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมัน โดยขนาดเครื่องยนต์อยู่ที่ 1.5 ลิตร มีเทอร์โบที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถให้กำลังได้สูงสุดถึง 150 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดที่ 375 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 เฉลี่ยได้ประมาณ 9-11 วินาที ดังนั้นสามารถไว้วางใจ ฮาวาลโจไลออนส์ ในทุกเส้นทางได้เลยว่าจะขับขี่ตอบสนองคันเร่งได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมกับช่วยประหยัดน้ำมันได้ในระดับหนึ่งตามประสิทธิภาพรถไฮบริด
จุดเด่นและดีไซน์ของ Haval Jolion
เรื่องดีไซนีรถฮาวาล โจไลออนส์ นั้นต้องแยกออกเป็น 2 รุ่น คือ Haval Jolion Ultra กับ Haval Jolion Sport ที่มีการดีไซน์แตกต่างกันในบางจุด เนื่องจาก Haval Jolion Ultra นั้นออกมาก่อนตัว Haval Jolion Sport ที่ออกมาภายหลังพร้อมกับการตัดออพชั่นเสริมบางส่วน เพื่อทำราคาให้เข้าถึงง่ายมากขึ้น แต่มีการดีไซน์ใหม่เพิ่มเติมเข้ามาจนน่าดึงดูด
ดีไซน์ Haval Jolion Ultra
เริ่มกันที่ดีไซน์ของรถฮาวาล โจไลออนส์ Haval Jolion Ultra ที่เน้นความสะดุดตาด้วยกระจังหน้าแบบ Star Matrix ที่มองผ่านเพียงพริบตาก็รู้เลยว่ารถคันนี้มีการขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าร่วมด้วย ตามแบบฉบับสไตล์การออกแบบในรถไฮบริดส่วนใหญ่ในท้องตลาด ผสมผสานเข้ากับระบบไฟ LED ที่ลากยางลงมาจนเกือบถึงโซนด้านล่าง ซึ่งเป็นจุดเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Haval Jolion เลยก็ว่าได้ ส่วนรอบคันรถจะเน้นความโค้งมนที่ดูสมูทและสมส่วนอย่างสวยงาม ทำให้ตัวถังรถดูมีมีติที่กว้างใหญ่เป็นพิเศษ แม้จะอยู่ในขนาด B-Segment ก็ตาม ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหราโดยใช้โทนสีขาวครีม และมีเส้นตัดเป็นสีโรสโกลด์ ทำให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร
ดีไซน์ Haval Jolion Sport
ในด้านการดีไซน์ของรถฮาวาล โจไลออนส์ Haval Jolion Sport ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน มีการไมเนอร์เชนจ์การตกแต่งบางส่วน ที่เพิ่มสีดำเข้าไปบนตัวรถให้ดูดุดัน และล้อไปกับความสปอร์ตตามชื่อรุ่นย่อยมากขึ้น โดยส่วนที่เปลี่ยนอย่างชัดเจน คือ กระจังหน้าแบบตั้งสีดำ Black Symmetric ที่รวมถึงชุดกันชนทั้งหน้าและหลังก็ปรับเป็นแบบเดียวกัน ลดการใช้ส่วนที่เป็นโครเมียมด้วยการเดินแถบคิ้วสีดำเข้าไปทดแทน แถมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเองก็เปลี่ยนไปใช้งานสีดำเช่นเดียวกัน แต่มีการตัดกระจก Panoramic Sunroof ออกไป สำหรับภายในก็เปลี่ยนเป็นสีดำล้วนทั้งห้องโดยสาร มีในส่วนของเกียร์ที่ติดลายเคฟล่าเข้าไปแทน
Haval Jolion ข้อเสีย ข้อดีเป็นอย่างไรบ้าง?
รีวิวภาพรวมของฮาวาล โจไลออนส์ นั้นจัดเป็นรถ SUV ขนาด B-Segment ที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามและลงตัว ไหนจะมีเรื่องระบบความปลอดภัยใน ฮาวาล โจไลออนส์ Haval Jolion Ultra ที่ถือว่าจัดเต็มและครบเครื่องอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบ Adaptive Cruise Control ช่วยในการขับขี่สะดวกสบายมากขึ้น หรือระบบช่วยดึงพวงมาลัยให้อยู่ในเลนก็มีเช่นกัน แต่ทว่าระบบที่น่าสนใจเหล่านั้นกลับถูกตัดออกไปใน ฮาวาล โจไลออนส์ Haval Jolion Sport เพราะทางค่ายต้องการทำราคาให้รุ่นนี้เข้าถึงง่ายมากขึ้นนั่นเอง สำหรับเรื่องการสรุป Haval Jolion ข้อเสียข้อดี สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากตารางดังต่อไปนี้
ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| หากเทียบขนาดรถ Haval Jolion ใน B-Segment ทุกค่าย ดูเหมือนว่ารถรู้จะให้มิติตัวถังที่ค่อนข้างกว้างกว่า ใหญ่กว่าเล็กน้อยในความรู้สึกของคนที่ได้เข้าไปสัมผัส | ในรุ่น Haval Jolion Sport มีการตัดระบบความปลอดภัย และระบบอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ออกไปค่อนข้างเยอะ |
| มีระบบช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ที่ครบครัน โดยเฉพาะใน Haval Jolion Ultra ซึ่งถือว่าราคาเกือบแตะหลักล้านนั้นให้มาได้ค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว | ความประหยัดอัตราสิ้นเปลืองในระบบไฮบริดของ Jolion ทั้งสองรุ่นอาจจะยังทำได้ไม่ดีเท่ากับรถยนต์ไฮบริดแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาด |
| สมรรถนะเครื่องยนต์ของรถ Jolion ที่ดึงพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยให้การขับขี่กระฉับกระเฉงมากขึ้น สามารถขับได้ในความเร็วที่ค่อนข้างดี ตอบสนองไว | เบาะหลังของ Jolion อาจทำให้ผู้โดยสายรู้สึกนั่งในมุมองศาที่ไม่ชินเท่าไหร่นัก เพราะตัวเบาะเป็นองศาลาดเอียงไปด้านหลังมากกว่าเล็กน้อย |
| ช่วงล่างถือว่ากระชับ และนุ่มนวลได้เกือบดีที่สุดในรุ่น B-Segment ทำให้ Haval Jolion เหมาะกับการเป็นรถครอบครัวไม่แพ้รุ่นไหนในตลาด | |
| สิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถ Haval Jolion ที่ค่อนข้างครบครัน เช่น แอร์ 2 ตัวสำหรับผู้โดยสาร, ช่องชาร์จ USB และยังมีที่พักแขนพร้อมช่องวางแก้วน้ำให้ด้วย | |
| Haval Jolion มีระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบ Paddle Shift ที่เพิ่มความทันสมัยและความสะดวกสบาย ความรวดเร็วในการใช้งานได้อย่างลื่นไหล | |
| หน้าจอ Multi Information Display ช่วยควบคุมระบบของตัวรถ Haval Jolion ได้อย่างครบวงจร ผ่านหน้าจอกว้าง 12.3 นิ้ว |
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท
พันธมิตรประกันภัยรถยนต์
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
ออกรถ Haval Jolion มาควรทำประกันชั้นไหนดีที่สุด
ผู้ที่ออกรถ Haval Jolion มาใหม่แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อให้สามารถดูแลทั้งคุณที่เป็นผู้ขับขี่ และผู้โดยสารคนสำคัญได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นดูแลได้ทุกส่วนอย่างแท้จริง เช่น
- การชนแบบไม่มีคู่กรณี
- ซ่อมรถคุณกรณีรถชนรถ
- ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
- คุ้มครองรถยนต์หาย
- คุ้มครองรถยนต์ไฟไหม้
- คุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์และทรัพย์สินคู่กรณี
- คุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลคู่กรณี
- คุ้มครองชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- คุ้มครองค่ารักษาของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- เงินประกันตัวผู้ขับขี่
ซื้อประกันรถยนต์ Haval Jolion กับ แรบบิท แคร์ มีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง
ถ้าตอนนี้คุณกำลังสนใจอยากซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก แรบบิท แคร์ เพื่อดูแลคุ้มครอง Haval Jolion รวมถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสาร บอกเลยว่าเรามีความพิเศษเหนือระดับที่พร้อมมอบให้คุณอยากครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสูงสุดถึง 70% ที่ทำให้เรากล้าการันตีความคุ้มค่าเฉพาะลูกค้า แรบบิท แคร์ ได้อย่างจริงใจ หรือจะเป็นการเลือกผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน รวมถึงการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีรถให้ใช้แทนระหว่างที่รถซ่อมอยู่ สุดท้าย แรบบิท แคร์ เรามีศูนย์ซ่อมทั่วประเทศไทยไปที่ไหนก็อุ่นใจแน่นอน
อยากลองเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่เหมาะสม จากเหล่าบริษัทพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศกว่า 30 บริษัท สามารถเข้าไปที่หน้าเว็บประกันรถยนต์ของ แรบบิท แคร์ ได้เลย ใช้เวลาเพียง 30 วินาทีก็ทราบผลแล้ว หรือหากใครอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโดยตรง โทรติดต่อตอนนี้ได้เลยที่เบอร์ 1438 (ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง
