แคร์ขับขี่ปลอดภัย

วิธีดูทางเอก-ทางโท จะดูอย่างไรให้ปลอดภัย

ผู้เขียน : Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
Published January 21, 2021

การขับขี่ยานยนต์บนท้องถนนนั้น ผู้ขับขี่จะต้องทำความเข้าใจกับสัญลักษณ์ เครื่องหมายจราจร และป้ายจราจรต่าง ๆ ที่แสดงอยู่บนพื้นถนนและระหว่างทาง โดยจะต้องเข้าใจความหมายพร้อมทั้งรู้วิธีปฎิบัติเมื่อเห็นสัญลักษณ์จราจรนั้น ๆ 

เชื่อว่าถ้าคุณคือผู้ขับขี่ยานยนต์ที่สัญจรบนท้องถนนอยู่เป็นประจำแล้ว จะต้องรู้จักกับทางเอก-ทางโท แต่ก็เชื่ออีกว่ามีผู้ขับขี่หลายคนที่ยังไม่เข้าใจความแตกต่างของมัน จนทำให้เกิดอุบัตอเหตุทางรถยนต์อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น บทความนี้ Rabbit Care จะขอแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับทางเอก-ทางโท ให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้น จะได้ขับขี่อย่างปลอดภัย

ทางเอก ทางโท

นักขับต้องรู้ ดู ทางเอก-ทางโท ดูอย่างไรให้ปลอดภัย

ทางเอก-ทางโท เป็นชื่อเรียกของทางที่มีลักษณะแบบ “ทางร่วมแยก” ที่สามารถสร้างความสับสนให้กับผู้ขับขี่ได้จนเกิดอุบัติเหตุ โดยทางเอก-ทางโทนั้นใช้เรียกแทนทางหลักและทางรอง

ซึ่งถนนแต่ละสายจะมีทั้งถนนสายหลัก และถนนที่แบ่งย่อยเป็นซอยเล็ก ๆ ลงไป ผู้ใช้รถควรจำให้ได้ว่าลักษณะของทางที่ขับเป็นถนนแบบไหน เพื่อช่วยในการไกล่เกลี่ยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ทางเอกคืออะไร?

ทางเอก จะเป็นลักษณะของถนนที่มีเส้นใหญ่สุด เป็นเส้นทางหลักที่รถสามารถวิ่งสัญจรไป-กลับได้ด้วยจำนวนช่องเดินรถที่มีพื้นที่กว้างมากกว่า พร้อมทั้งมีสัญลักษณ์จราจรที่ชัดเจน จะไม่มีเส้นหยุดหรือป้ายหยุดอยู่ตรงทางร่วม

ทางโทคืออะไร?

ทางโท จะเป็นลักษณะของถนนเส้นที่ตัดแยกจากทางเอกออกมาอีกที ซึ่งจะมีขนาดช่องจราจรที่เล็กกว่า แคบกว่า หรือมีช่องทางการเดินรถที่ไม่ชัดเจน เช่น ซอยเล็ก ๆ ที่ตัดกับถนนหลัก หรือลานจอดรถที่มีทางเชื่อมกับถนนหลักในบ้าน หรือถนนใหญ่ นอกจากนี้การสังเกตทางโทดูได้จากเส้นหยุดหรือป้ายหยุดก่อนจะเข้าทางแยกที่ตัดกับถนนอีกเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนขนาดใดก็ตาม ๆ จะมีเส้นหยุดหรือป้ายหยุดก่อนจะเข้าทางแยกที่ตัดกับถนนอีกเส้น

ความแตกต่างของการใช้ทางเอก-ทางโท

หากพูดถึงทางแง่ของกฏหมาย ทางเอกจะมีสิทธิ์มากกว่าทางโท ซึ่งจะช่วยการขับขี่บนท้องถนนมีวินัยในการขับขี่ยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมสติ เพื่อเจรจาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประกันได้อย่างมั่นใจเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ลดเหตุการณ์บานปลายได้มากขึ้น ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ตั้งแต่มาตรา 71 ถึงมาตรา 74

ขับขี่บนเส้นทางของ ทางเอก-ทางโท อย่างปลอดภัย

หากคุณเป็นนักขับมือใหม่ที่อาจจะยังไม่สันทัดเรื่องงเส้นทางมากนัก หรืออาจจะยังสังเกตลักษณะของเส้นทางไม่ได้อย่างชัดเจนว่าทางลักษณะไหนเรียกว่าทางเอกหรือทางโท ลองสังเกตตามแนวทางต่อไปนี้ และลองนำคำแนะนำเรื่องการขับขี่ไปปฏิบัติตามได้เลย

  • ทางเอก-ทางโท ตัดกัน

ในกรณีที่เจอกับทางเอกและทางโทตัดกัน แต่ไม่มีป้ายแสดงสัญลักษณ์ที่บอกว่าเส้นทางนี้เป็นทางเอก ให้ลองสังเกตจากพื้นถนน หากพบเส้นขาวทึบหรือเส้นประตัดขวางถนนเส้นใด แสดงว่าถนนเส้นนั้นเป็นทางโทนั่นเอง

  • ถนนที่ไม่มีเส้นตัดขวาง

หากถนนเส้นที่กำลังสัญจรผ่านนั้น เป็นถนนที่ไม่มีเส้นขาวทึบหรือเส้นประตีเส้นอยู่บนพื้นถนน ให้ลองสังเกตที่ช่องทางเดินรถ (เลนจราจร) หากถนนเส้นใดมีจำนวนช่องมากกว่า ถือว่าถนนเส้นนั้นเป็นเส้นหลัก หรือทางเอกนั่นเอง ส่วนถนนที่มีช่องทางเดินรถน้อยกว่าก็คือทางโท

  • เมื่อขับรถยนต์ผ่านเส้นทางร่วม

เมื่อคุณต้องขับขี่ยานยนต์ผ่านเส้นทางที่เป็นทางแยกหรือทางร่วม ให้สังเกตให้ดีเลยว่าตอนนี้คุณกำลังอยู่บนทางเอกหรือทางโท หากอยู่บนเส้นทางเอกก็สามารถขับผ่านไปได้ก่อน หากอยู่บนทางโท ก็ต้องชะลอรถเพื่อให้รถที่ขับอยู่บนเส้นทางเอกผ่านไปก่อน เพื่อความปลอดภัย และในกรณีที่ขับขี่ผ่านเส้นทางที่เป็นวงเวียน ผู้ที่ขับอยู่ทางขวามือจะต้องให้รถที่อยู่ทางซ้ายมือของผู้ขับนั้นขับผ่านไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ

  • เมื่อเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางร่วม

ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บนพื้นที่ทางแยกหรือทางร่วม ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ขับขี่ในทางโทนั้นจะเป็นผู้ผิดเสมอไป แล้วทางเอกจะเป็นฝ่ายถูกเสมอไป เพราะต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกันก่อนที่จะตัดสินใจว่าฝ่ายใดผิดหรือถูก

และนี่ก็คือเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับทางเอก-ทางโท ที่ Rabbit Care นำมาแบ่งปันทุกท่านในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเพิ่มความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนให้กับเหล่านักขับขี่ยานยนต์กันมากขึ้น ที่สำคัญต้องไม่ลืมปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ขับขี่โดยไม่ประมาท และมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในทุก ๆ เส้นทาง


ใครที่สนใจ ซื้อรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ คลิก one2car.com และอย่าลืมประกันรถยนต์ พร้อมรับข้อเสนอโดนใจ จาก Rabbit Care กันด้วยนะ

สนับสนุนบทความโดย Autospinn ติดตามเรื่องรถใหม่ รถมือสองก่อนใครได้ที่นี่

ห้ามพลาด! ประกันรถชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 1,000.-/เดือน

รถของคุณยี่ห้ออะไร

< กลับไป
< กลับไป

ระบุยี่ห้อรถของคุณ

ระบุปีผลิตรถของคุณ


บทความแคร์ขับขี่ปลอดภัย

แคร์ขับขี่ปลอดภัย

พวงมาลัยสั่น อันตรายไหม เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

การเดินทางด้วยรถยนต์นั้นพวงมาลัยถือเป็นส่วนสำคัญมากในการควบคุม ถ้าเกิดเจอพวงมาลัยสั่นระหว่างเดินทาง คงทำให้หลายคนตกใจอย่างมากว่ารถยนต์ของเรา
Thirakan T
17/04/2024

แคร์ขับขี่ปลอดภัย

สรุปสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย

รวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย ว่าแท้จริงแล้วมันมาจากอะไรได้บ้าง และถ้าหากเปรียบเทียบข้อมูลจากหน่วยงาน
Thirakan T
11/04/2024

แคร์ขับขี่ปลอดภัย

ขับรถปวดหลัง เพราะนั่งนานหลายชั่วโมง มีวิธีแก้ปวดแบบไหนให้ทำตามบ้าง

อาการขับรถปวดหลังสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลหรือระยะสั้นก็ตาม
Thirakan T
11/04/2024