5 แลนด์มาร์ค ญี่ปุ่น แห่งใหม่ ที่คนไทยยังไม่เคยไป
พอเข้าสู่เดือนกรกฎาคมของทุกปี ประเทศ ญี่ปุ่น เข้าสู่โหมด low season เพราะอากาศจะเริ่มร้อนไปจนถึงเดือนกันยายน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไทยเองไม่ค่อยนิยมไปเที่ยวในช่วงนี้กันสักเท่าไหร่
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า…ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวไม่แพ้ฤดูกาลอื่นๆ เลย แถมช่วงนี้มีเทศกาลต่างๆ ให้เที่ยวชมมากมายอีกด้วย และวันนี้ Rabbit Care ได้รวบรวมกิจกรรมดีๆ ในช่วงนี้มาฝากกัน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ที่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่หลายคนไม่ควรพลาด
5 แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใน ญี่ปุ่น ที่ไม่ควรพลาด
1.ภูเขาซาโอะ – ยามากาตะ
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก ความน่าสนใจอยู่ที่ทุ่งปีศาจน้ำแข็งอันโด่งดัง เกิดจากหิมะและน้ำแข็งปกคลุมต้นไม้จนทำให้มองดูเหมือนเป็นรูปปั้น ยามากาตะยังเป็นหนึ่งในแหล่งแช่ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนกระจายอยู่ทั่วจังหวัด ซึ่งแต่ละที่ก็มีความพิเศษแตกต่างกันไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง จากโตเกียวด้วยรถไฟยามากาตะชินคันเซ็น
2.วัดยามาเดระ – ยามากาตะ
หนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติ วัดตั้งอยู่บนภูเขาอันเงียบสงบ มีจุดชมวิว Godaido เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของวัด สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด และการเดินทางจากโตเกียวมายามากาตะ สามาถเดินทางได้ด้วยรถไฟยามากาตะชินคันเซ็น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเช่นกัน
3.หอคอย PL Tower – โอซาก้า
ญี่ปุ่นอาจจะมีหอคอยสวยๆ มากมาย ทั้งโตเกียวทาวเวอร์ โตเกียวสกายทรี แต่หอคอยนี้ก็มีความสวยและความโดดเด่นแบบไม่เหมือนใคร สูง 180 เมตร ที่ตั้งอยู่ในเมือง Tondabayashi ซึ่งอยู่ห่างจากออกมาจากใจกลางเมืองพอสมควร เดินทางด้วยสถานีรถไฟที่ใกล้ๆ จนสามารถเดินได้ก็คือสถานี Tondabayashi ของรถไฟสาย Kintetsu Nagano Line จากที่นี่ถ้าเดินเท้าไปจะใช้เวลา 15 – 20 นาที หรือถ้าจะนั่งแท็กซี่ไปก็ใช้เวลาไม่เกิน 3 – 4 นาที
4.ช่องเขาเกบิเค
เป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งธรรมชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเมืองอิวะเตะ ภูมิภาคโทโฮกุ ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงตระหง่านกว่า 50 เมตร ชื่อ “เกบิ” ซึ่งแปลว่า “จมูกสิงโต” ซึ่งมีช่องเขายาว 2 กิโลเมตร เดินทางจากสาย JR โอฟุนาโตะ จากสถานีอิจิโนะเซกิ จุดขึ้นลงรถที่ 3 ไปที่สถานีเกบิเค ประมาณ 32 นาที และเดินจากสถานีประมาณ 5 นาที
5.น้ำตก ฟุกิวาเร
เป็นน้ำตกที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นแต่นักท่องเที่ยวมักจะยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ มีรูปร่างและลักษณะคล้ายกับน้ำตกไนแองการ่าของประเทศสหรัฐอเมริกา จนได้ฉายาว่า Niagara of Japan ซึ่งอยู่ที่ Tone town, Numata City จังหวัดกุนมะ เดินทางด้วยรถไฟ Numata Station สาย JR Jōetsu line จากนั้นให้ต่อรถบัสของ Kanetsu Bus ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
5 เทศกาลเด็ดใน ญี่ปุ่น ช่วงฤดูร้อน (ก.ค. – ก.ย.)
1.ทานาบาตะ
เทศกาลแห่งความโรแมนติกของคนญี่ปุ่นหรือ ที่เรียกอีกอย่างว่าเทศกาลดวงดาว มีความเชื่อว่าเจ้าหญิงทอผ้าและชายเลี้ยงวัวจะได้พบกันเพียงปีละครั้ง และจะมีการเขียนคำอธิษฐานต่างๆ บนกระดาษแผ่นเล็กๆ หลากสีสันที่เรียกว่า ทังซะกุ (Tanzaku) แล้วจึงนำไปแขวนประดับกับกิ่งไผ่เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาวโอริฮิเมะ (Orihime ) ที่เชื่อว่าจะทำให้สมหวังตามที่ปรารถนา โดยจะมีการจัดเทศกาลนี้ทั่วทั้งญี่ปุ่น
2.ชินจูกุ ไอสะ
เทศกาลการร่ายรำแบบโอกินาว่าที่จัดขึ้นในย่านชินจูกุของกรุงโตเกียว งานเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. ไปจนถึง 20.00 น.โดยมีขบวนนักเต้นรำและนักดนตรีแต่งตัวแบบดั้งเดิมมากกว่า 23 คณะแสดงการร่ายรำด้วยศิลปะแบบโอกินาว่าอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสนุกสนานด้วยจังหวะการตีกลองไทโกะประกอบเพลงด้วยลีลาที่พลิ้วไหว ฟังแล้วแทบขยับตาม ประกอบการร่ายรำที่พร้อมเพรียงสวยงามไปตลอดเส้นทาง
3.ดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ
จัดขึ้นในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมเป็นประจำทุกปี เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีมากว่า 400 ปี โดยมีจุดยิงดอกไม้ไฟ 2 จุด จุดแรกอยู่ในเขตไทโต ที่มีวัดเซนโซจิอาซากุสะ และอีกจุดอยู่ในเขตสุมิดะ ที่มีโตเกียว สกายทรี ซึ่งจะยิงดอกไม้ไฟจุดแรกจประมาณ 9,350 ลูก และจุดที่สองจะยิงดอกไม้ไฟประมาณ 10,650 ลูก รวมแล้วกว่า 20,000 ลูก เป็นงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่
4.เท็นจินจัดโดยศาลเจ้าเท็นมังกู
นับเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเทศกาลที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ เทศกาลนี้ยังนับเป็นเทศกาลเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย ซึ่งจะมีการประกอบพิธีกรรมเฉลิมฉลองประจำปี เพื่อระลึกถึงเทพเท็นจิ ณ ศาลเจ้าเท็นมังกูในเมืองโอซาก้า ปัจจุบันนับเป็นเวลานานถึง 1,050 ปี ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำ ทุกวันที่ 24 และ 25 กรกฏาคมทุกปี
5.ดนตรีระดับโลก
ที่โตเกียวชื่อว่า Summer Sonic จัดขึ้นทุกปีและจัดมายาวนานตั้งแต่ปี 2000 จนมาถึงปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในงานเทศกาลดนตรีระดับโลกที่คัดสรรวงดนตรี และนักดนตรีคุณภาพทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น มาโชว์ฟอร์มให้ชาวญี่ปุ่นได้แดนซ์กันกระจายเต็มที่กับเทศกาลดนตรีในฤดูร้อนนี้
นี่เป็นแค่ตัวอย่างบางส่วนที่ทีมงานนำมาเสนอเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วญี่ปุ่นยังมีอีกหลากหลายสถานที่ที่เชื่อว่าใครหลายคนก็ยังไม่เคยไปแน่นอนค่ะ รวมถึงเทศกาลช่วงฤดูร้อนด้วยเช่นกัน ซึ่งเอาไว้คราวหน้าจะมาต่อภาคสองให้ได้ยลกันนะคะ
มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี