แคร์ไลฟ์สไตล์

5 แลนด์มาร์ค ญี่ปุ่น แห่งใหม่ ที่คนไทยยังไม่เคยไป

ผู้เขียน : ใบไม้ร่าเริง
ใบไม้ร่าเริง

มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 10 ปี เขียนด้านเงิน การลงทุน บทความวิเคราะห์สถานการณ์การเงินในประเทศ และฝากผลงานไว้ที่ Rabbit Care ถึง 4 ปี

close
แก้ไขโดย : Nok Srihong
Nok Srihong

มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น

close
linkedin icon
 
Published: July 5,2018
  
Last edited: January 5, 2021
ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่คนไทยยังไม่เคยไปถึง

พอเข้าสู่เดือนกรกฎาคมของทุกปี ประเทศ ญี่ปุ่น เข้าสู่โหมด low season เพราะอากาศจะเริ่มร้อนไปจนถึงเดือนกันยายน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไทยเองไม่ค่อยนิยมไปเที่ยวในช่วงนี้กันสักเท่าไหร่

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า…ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวไม่แพ้ฤดูกาลอื่นๆ เลย แถมช่วงนี้มีเทศกาลต่างๆ ให้เที่ยวชมมากมายอีกด้วย และวันนี้ Rabbit Care ได้รวบรวมกิจกรรมดีๆ ในช่วงนี้มาฝากกัน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ที่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่หลายคนไม่ควรพลาด

5 แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใน ญี่ปุ่น ที่ไม่ควรพลาด

ภูเขาซาโอะ – ยามากาตะ ญี่ปุ่น

1.ภูเขาซาโอะ – ยามากาตะ

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก ความน่าสนใจอยู่ที่ทุ่งปีศาจน้ำแข็งอันโด่งดัง เกิดจากหิมะและน้ำแข็งปกคลุมต้นไม้จนทำให้มองดูเหมือนเป็นรูปปั้น ยามากาตะยังเป็นหนึ่งในแหล่งแช่ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนกระจายอยู่ทั่วจังหวัด ซึ่งแต่ละที่ก็มีความพิเศษแตกต่างกันไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง จากโตเกียวด้วยรถไฟยามากาตะชินคันเซ็น

วัดยามาเดระ – ยามากาตะ ญี่ปุ่น

2.วัดยามาเดระ – ยามากาตะ

หนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติ วัดตั้งอยู่บนภูเขาอันเงียบสงบ มีจุดชมวิว Godaido เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของวัด สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด และการเดินทางจากโตเกียวมายามากาตะ สามาถเดินทางได้ด้วยรถไฟยามากาตะชินคันเซ็น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเช่นกัน

หอคอย PL Tower – โอซาก้า ญี่ปุ่น
ขอบคุณ allabout-japan.com

3.หอคอย PL Tower – โอซาก้า

ญี่ปุ่นอาจจะมีหอคอยสวยๆ มากมาย ทั้งโตเกียวทาวเวอร์  โตเกียวสกายทรี แต่หอคอยนี้ก็มีความสวยและความโดดเด่นแบบไม่เหมือนใคร สูง 180 เมตร ที่ตั้งอยู่ในเมือง Tondabayashi ซึ่งอยู่ห่างจากออกมาจากใจกลางเมืองพอสมควร เดินทางด้วยสถานีรถไฟที่ใกล้ๆ จนสามารถเดินได้ก็คือสถานี Tondabayashi ของรถไฟสาย Kintetsu Nagano Line จากที่นี่ถ้าเดินเท้าไปจะใช้เวลา 15 – 20 นาที หรือถ้าจะนั่งแท็กซี่ไปก็ใช้เวลาไม่เกิน 3 – 4 นาที

ช่องเขาเกบิเค
ขอบคุณ visitiwate.com

4.ช่องเขาเกบิเค

เป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งธรรมชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเมืองอิวะเตะ ภูมิภาคโทโฮกุ  ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงตระหง่านกว่า 50 เมตร ชื่อ “เกบิ” ซึ่งแปลว่า “จมูกสิงโต” ซึ่งมีช่องเขายาว 2 กิโลเมตร เดินทางจากสาย JR โอฟุนาโตะ จากสถานีอิจิโนะเซกิ จุดขึ้นลงรถที่ 3 ไปที่สถานีเกบิเค ประมาณ 32 นาที และเดินจากสถานีประมาณ 5 นาที

น้ำตก ฟุกิวาเร ญี่ปุ่น

5.น้ำตก ฟุกิวาเร

เป็นน้ำตกที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นแต่นักท่องเที่ยวมักจะยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ มีรูปร่างและลักษณะคล้ายกับน้ำตกไนแองการ่าของประเทศสหรัฐอเมริกา จนได้ฉายาว่า Niagara of Japan  ซึ่งอยู่ที่ Tone town, Numata City จังหวัดกุนมะ เดินทางด้วยรถไฟ Numata Station สาย JR Jōetsu line จากนั้นให้ต่อรถบัสของ Kanetsu Bus ใช้เวลาประมาณ 45 นาที


5 เทศกาลเด็ดใน ญี่ปุ่น ช่วงฤดูร้อน (ก.ค. – ก.ย.)

เทศกาล ทานาบาตะ ญี่ปุ่น

1.ทานาบาตะ

เทศกาลแห่งความโรแมนติกของคนญี่ปุ่นหรือ ที่เรียกอีกอย่างว่าเทศกาลดวงดาว มีความเชื่อว่าเจ้าหญิงทอผ้าและชายเลี้ยงวัวจะได้พบกันเพียงปีละครั้ง และจะมีการเขียนคำอธิษฐานต่างๆ บนกระดาษแผ่นเล็กๆ หลากสีสันที่เรียกว่า ทังซะกุ (Tanzaku) แล้วจึงนำไปแขวนประดับกับกิ่งไผ่เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาวโอริฮิเมะ (Orihime ) ที่เชื่อว่าจะทำให้สมหวังตามที่ปรารถนา โดยจะมีการจัดเทศกาลนี้ทั่วทั้งญี่ปุ่น

เทศกาล ชินจูกุ ไอสะ ญี่ปุ่น

2.ชินจูกุ ไอสะ

เทศกาลการร่ายรำแบบโอกินาว่าที่จัดขึ้นในย่านชินจูกุของกรุงโตเกียว งานเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น. ไปจนถึง 20.00 น.โดยมีขบวนนักเต้นรำและนักดนตรีแต่งตัวแบบดั้งเดิมมากกว่า 23 คณะแสดงการร่ายรำด้วยศิลปะแบบโอกินาว่าอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสนุกสนานด้วยจังหวะการตีกลองไทโกะประกอบเพลงด้วยลีลาที่พลิ้วไหว ฟังแล้วแทบขยับตาม ประกอบการร่ายรำที่พร้อมเพรียงสวยงามไปตลอดเส้นทาง

เทศกาล ดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ ญี่ปุ่น

3.ดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ

จัดขึ้นในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมเป็นประจำทุกปี เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีมากว่า 400 ปี โดยมีจุดยิงดอกไม้ไฟ 2 จุด จุดแรกอยู่ในเขตไทโต ที่มีวัดเซนโซจิอาซากุสะ และอีกจุดอยู่ในเขตสุมิดะ ที่มีโตเกียว สกายทรี ซึ่งจะยิงดอกไม้ไฟจุดแรกจประมาณ 9,350 ลูก และจุดที่สองจะยิงดอกไม้ไฟประมาณ 10,650 ลูก รวมแล้วกว่า 20,000 ลูก เป็นงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่

เทศกาลเท็นจินจัดโดยศาลเจ้าเท็นมังกู ญี่ปุ่น
ขอบคุณ commons.wikimedia.org

4.เท็นจินจัดโดยศาลเจ้าเท็นมังกู

นับเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเทศกาลที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ เทศกาลนี้ยังนับเป็นเทศกาลเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย ซึ่งจะมีการประกอบพิธีกรรมเฉลิมฉลองประจำปี เพื่อระลึกถึงเทพเท็นจิ ณ ศาลเจ้าเท็นมังกูในเมืองโอซาก้า ปัจจุบันนับเป็นเวลานานถึง 1,050 ปี ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำ ทุกวันที่ 24 และ 25 กรกฏาคมทุกปี

เทศกาลดนตรีระดับโลก ญี่ปุ่น

5.ดนตรีระดับโลก

ที่โตเกียวชื่อว่า Summer Sonic จัดขึ้นทุกปีและจัดมายาวนานตั้งแต่ปี 2000 จนมาถึงปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในงานเทศกาลดนตรีระดับโลกที่คัดสรรวงดนตรี และนักดนตรีคุณภาพทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น มาโชว์ฟอร์มให้ชาวญี่ปุ่นได้แดนซ์กันกระจายเต็มที่กับเทศกาลดนตรีในฤดูร้อนนี้

นี่เป็นแค่ตัวอย่างบางส่วนที่ทีมงานนำมาเสนอเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วญี่ปุ่นยังมีอีกหลากหลายสถานที่ที่เชื่อว่าใครหลายคนก็ยังไม่เคยไปแน่นอนค่ะ รวมถึงเทศกาลช่วงฤดูร้อนด้วยเช่นกัน ซึ่งเอาไว้คราวหน้าจะมาต่อภาคสองให้ได้ยลกันนะคะ


ที่มา


 

บทความแคร์ไลฟ์สไตล์

Rabbit Care Blog Image 96153

แคร์ไลฟ์สไตล์

เอาใจคนชอบมอเตอร์ไซต์ เลือกสรรมอเตอร์ไซค์ที่ใช่สำหรับคุณ

การเลือกมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่รักการขับขี่ เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงสไตล์และดีไซน์ที่ถูกใจแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงสมรรถนะ
Thirakan T
27/08/2024