แคร์การลงทุน

ไทยนิยมยั่งยืน! ผุดโครงการจ้างงาน คาดเงินหมุนเวียนกว่า 6 หมื่นล้าน

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

close
Published November 27, 2018
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับงบประมาณจำนวน 24,987.42 ล้านบาท คาดว่าจะผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชน และเหล่าเกษตรกรรวมทั้งสิ้น 3 ล้านรายทั่วประเทศ
  • โครงการผลักดันการจ้างงานเพื่อเกษตรกร ให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งน้ำอย่างทั่วถึง อาทิ ฝายชะลอน้ำ เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืนต่อไป
CR : matichon

ไทยนิยมยั่งยืน ผุดโครงการจ้างงาน สานต่อความสำเร็จ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยผลจากการดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรตามแนวโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จในการดำเนินงาน และได้ริเริ่มโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการจ้างงาน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

นายกฤษฎา  บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยต่อแหล่งข่าวว่าด้วยเรื่องของโครงการไทยนิยมยั่งยืน ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับงบประมาณจำนวน 24,987.42 ล้านบาท สำหรับดำเนินตามแผนงาน 2 แผนงาน รวม 22 โครงการ

  • ทั้งนี้ ทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้วิเคราะห์ว่า งบประมาณที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับ จะส่งผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและเหล่าเกษตรกรรวมทั้งสิ้น 3 ล้านราย

รวมถึงก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจทั้งในระดับครัวเรือน ชุมชน จังหวัด จนถึงระดับประเทศ จากค่าจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตร และส่งผลด้านรายได้จากค่าว่าจ้างแรงงานในโครงการต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะกลายเป็นรายได้ของแรงงาน ที่จะถูกนำไปใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและกระจายไปเป็นรายได้ของร้านค้า รวมถึงธุรกิจในชุมชน

CR : oknation

โครงการผลักดันการจ้างงาน เพื่อเกษตรกร

ในส่วนของกระบวนการเสนอโครงการดังกล่าว เน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

  • เกษตรกร สถาบันเกษตรกร เสนอความต้องการผ่านเวทีประชาคมของหมู่บ้าน
  • หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการตามความประสงค์ของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร โดยเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2561
  • เกษตรกรชุมชนร่วมกำหนดพื้นที่เป้าหมายของโครงการ เสนอโครงการชุมชนเพื่อทำการขอรับเงินสนับสนุนเพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ ชุมชนละ 300,000 บาท
  • โครงการที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดให้เกษตรกรร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างและการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์

เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นที่สำหรับการทำเกษตรกรรมค่อนข้างมาก ซึ่งกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดผลผลิตที่ดีจะต้องใช้ “น้ำ” เป็นปัจจัยสำคัญในการผลิต การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งน้ำอย่างทั่วถึงจึงมีความจำเป็น และเป็นบทบาทหน้าที่ของรัฐ โดยมีประชารัฐและประชาชนร่วมกันในการบริหารจัดการ ร่วมกันดูแลรักษา และใช้ประโยชน์ จึงได้มีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานน้ำในระดับชุมชน

ซึ่งผลจากโครงการนี้พบว่าเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำเกษตรกรรมในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำชลประทาน รวมถึงมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นของโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร จากกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งจะช่วยสร้างความยั่งยืนในการทำการเกษตรในอนาคต

“ประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากงบประมาณโครงการที่ใช้จ่ายลงไปในระบบ จากการวิเคราะห์ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร งบประมาณที่ได้รับจะส่งผลสำเร็จให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและเกษตรกร รวมทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านราย ซึ่งก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระดับครัวเรือน ชุมชน จังหวัด และระดับประเทศ คิดเป็นมูลค่า 63,599 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.54 เท่าของเงินงบประมาณ”

ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีต้นทุนการผลิตลดลง คุณภาพชีวิตและการหมุนเวียนเงินทุนเพื่อการเกษตรในระยะยาวก็จะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น


ที่มา : มติชน, ข่าวสด


บทความแคร์การลงทุน

แคร์การลงทุน

Forex คืออะไร ? สามารถสร้างกำไรมหาศาลได้จริงหรือไม่ ? ทำไมเซเลปหลายคนถึงโดนคดี ?

Forex หนึ่งในการเทรดหรือการลงทุนท่ามกลางกระแสการลงทุนมากมายในยุคปัจจุบันที่มีประเด็นร้อนแรงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
กองบรรณาธิการ
11/01/2024

แคร์การลงทุน

ขายปลีก-ขายส่ง ต่างกันอย่างไร ? ธุรกิจไหนเหมาะกับใคร สิ่งที่ต้องตัดสินใจก่อนลงทุน!

นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมาธุรกิจการขายส่งและปลีกในประเทศไทยนั้น
กองบรรณาธิการ
08/01/2024

แคร์การลงทุน

นำเข้าสินค้าจากจีน กำไรดีหรือไม่ ควรเริ่มอย่างไร แบบไหนไม่เสี่ยงขาดทุน ?

ปัจจุบันการนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อเข้ามาขายก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
กองบรรณาธิการ
04/01/2024