
ดัชนี S&P500 คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจสำหรับเหล่านักลงทุน
การขอสินเชื่อ OD เชื่อว่าพ่อค้าแม่ค้า หรือคนที่อยากเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองต้องรู้จักกันอย่างดี แต่อาจยังไม่เข้าใจถึงหลักการและเงื่อนไข และเนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจไทยมีความถดถอย ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ที่รับ ทำให้การลงทุนหรือการเริ่มต้นธุรกิจดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก หลายคนประสบปัญหาเงินไม่พอ ไม่มีทุนทรัพย์ เงินหมุนไม่ทัน จะหันไปกู้นอกระบบก็อันตราย วันนี้ แรบบิท แคร์ มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการขอสินเชื่อ OD มาฝาก ว่ามันคืออะไร มีเงื่อนไขอย่างไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!!
สินเชื่อ OD ย่อมาจากคำว่า Overdraft คือรูปแบบหนึ่งของสินเชื่อที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้กับลูกค้า โดยที่สามารถถอนเงินเกินจำนวนเงินในบัญชีออกมาใช้ได้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งจำนวนเงินที่สามารถถอนเกินกำหนดนี้จะได้รับการกำหนดจำนวนและเงื่อนไขการใช้งานจากธนาคาร
เมื่อลูกค้าทำการถอนเงินเกินจำนวนที่มีในบัญชี ธนาคารจะเรียกให้ลูกค้าชำระเงินเพิ่มเข้ามาเพื่อควบคุมจำนวนเงินที่ใช้งานเกินไปนั้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้สินเชื่อ OD นั้นจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการชำระเงิน ซึ่งดอกเบี้ยมักจะสูงกว่าบัญชีเงินฝากประเภทอื่นๆ
สินเชื่อ OD มักนิยมใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือในสถานการณ์ที่ต้องการเงินทันทีแต่จำนวนเงินในบัญชีไม่เพียงพอ ถือว่าเป็นเงินกู้ระยะสั้น การใช้สินเชื่อ OD ควรให้ความสำคัญและใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงและอาจก่อให้เกิดหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระในภายหลัง ควรปรึกษาและศึกษาเงื่อนไขการใช้สินเชื่อ OD ให้เข้าใจอย่างละเอียดทุกครั้งเพื่อการใช้งานที่เหมาะสมและตรงตามวัตถุประสงค์
การคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อ OD สามารถทำได้โดยใช้สูตรดังนี้:
ดอกเบี้ยสินเชื่อ OD = ยอดเงินที่ถอนเกิน x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันที่ใช้เงินเกิน / 365
นาย A ถอนเกินเงินจากสินเชื่อ OD ที่มีอัตราดอกเบี้ย 12% ในเดือนมกราคม จำนวนเงินที่ถอนเกินคือ 10,000 บาท และมีใช้เงินเกินนี้ไปเป็นเวลา 15 วัน (เดือนมกราคมมี 31 วัน)
ดอกเบี้ยสินเชื่อ OD = 10,000 x 0.12 x (15 / 31) / 365
≈ 49.59 บาท
ดังนั้น ค่าดอกเบี้ยที่นาย A ต้องชำระคือประมาณ 49.59 บาท สำหรับการถอนเงินเกินจากสินเชื่อ OD ในเดือนมกราคม และใช้เงินเกินนี้ไปเป็นเวลา 15 วัน หากคุณใช้เงินเกินนี้เป็นเวลานานขึ้น จำนวนดอกเบี้ยที่คุณต้องชำระจะเพิ่มขึ้นตามเวลาการใช้งานเกิน
** สรุปง่าย ๆ คือ ดอกเบี้ยจะคิดเฉพาะส่วนของเงินต้นส่วนที่เบิกออกมา เมื่อคุณนำเงินต้นใส่คืนเข้าไปธนาคารก็จะทำการหยุดดอกเบี้ย และวงเงินส่วนที่ยังไม่เบิกออกมาก็จะไม่มีการคิดดอกเบี้ย
เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดโปรแกรมคำนวณเงินกู้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าไปกดคำนวณได้เอง โดยกรอกเป้าหมายการกู้ จำนวนปีของการกู้ยืม จำนวนเงินที่ต้องการกู้ และอัตราเงินกู้ดอกเบี้ยต่อปี (%) เพียงเท่านี้คุณก็จะทราบแล้วว่าต้องผ่อนเดือนละเท่าไหร่ เพื่อเป็นการวางแผนการเงินล่วงหน้า
เงื่อนไขการขอสินเชื่อ OD มีค่อนข้างเยอะและส่วนมากธนาคารจะไม่ค่อยปล่อยสินเชื่อนี้ให้ใครง่าย ๆ เนื่องจากเงินกู้ OD เป็นวงเงินที่ควบคุมยากและถูกใช้ผิดจุดประสงค์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
เงื่อนไขและคุณสมบัติดังกล่าว ธนาคารมีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่หนีหนี้นั่งเอง
การขอสินเชื่อ OD ผู้กู้จำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้ชัดเจนและครบถ้วน สามารถแบ่งเป็น เอกสารแสดงตน เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารด้านหลักประกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
หมวดหมู่เอกสารสำหรับขอสินเชื่อ OD | เอกสารที่ต้องเตรียมมาเพื่อขอสินเชื่อ OD |
เอกสารแสดงตน | สำหรับบุคลธรรมดา - สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และ |
เอกสารแสดงรายได้ | สำหรับบุคลธรรมดา - สำเนารายการเดินบัญชี (Statement) จากสถาบันการเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน สำหรับนิติบุคคล - สำเนางบการเงินย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 3 ปี |
เอกสารด้านหลักประกัน | สำเนาเอกสารสิทธิหลักประกัน |
ขั้นตอนในการขอสินเชื่อ Overdraft (OD) อาจมีความแตกต่างไปตามนโยบายและข้อกำหนดของธนาคารที่คุณต้องการขอสินเชื่อ แต่โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนในการขอสินเชื่อ OD อาจประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้:
ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุณต้องการขอสินเชื่อ OD เพื่อขอสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขการขอสินเชื่อ OD รวมถึงรายละเอียดอัตราดอกเบี้ย วงเงินที่สามารถให้สินเชื่อ และระยะเวลาการใช้สินเชื่อ เพื่อให้คุณเข้าใจก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับการขอสินเชื่อ
ธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจต้องการเอกสารที่ยืนยันความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งอาจรวมถึงสลิปเงินเดือน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น และอาจต้องตรวจสอบคุณสมบัติทางการเงินของคุณ
กรอกแบบฟอร์มคำขอสินเชื่อตามที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนด และตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน
ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาความสามารถในการขอสินเชื่อของคุณ ซึ่งอาจเป็นการตรวจสอบประวัติเครดิต รายได้ และความสามารถในการชำระหนี้
เมื่อคำขอสินเชื่อ OD ของคุณได้รับการอนุมัติ ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะกำหนดวงเงินที่ให้สินเชื่อ และกำหนดเงื่อนไขการใช้สินเชื่อ เช่น อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาการใช้สินเชื่อ
เมื่อได้รับการอนุมัติและกำหนดเงื่อนไขแล้ว คุณสามารถใช้งานสินเชื่อ OD ตามที่ได้รับอนุมัติ โดยสามารถถอนเงินเกินจำนวนในบัญชีได้ตามวงเงินที่กำหนด และจะต้องชำระดอกเบี้ยตามที่กำหนด
ขั้นตอนการขอสินเชื่อ OD อาจมีความแตกต่างไปตามสถาบันการเงิน ควรติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุณต้องการขอสินเชื่อเพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการขอสินเชื่อ OD
ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ในการขอสินเชื่อ OD มีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท ดังนี้
หมายเหตุ: ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อาจมีเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร
การกู้ยืมหรือ LOAN มีความแตกต่างกับการขอสินเชื่อ OD ทั้งในรูปแบบการกู้ยืม อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่าง ๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
รายละเอียด | Overdraft (OD) | กู้ยืม (Loan) |
คำอธิบาย | เป็นวิธีการขอสินเชื่อที่สามารถถอนเงินเกินในจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้ | เป็นวิธีการขอสินเชื่อที่มีการให้เงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ |
การใช้งาน | สามารถถอนเงินเกินจากบัญชีในกรณีที่มีธนาคารอนุมัติ OD | ใช้เงินเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในสัญญากู้ยืม |
ระยะเวลาการกู้ยืม | เป็นสัญญาที่ไม่มีระยะเวลาการกำหนด | มักจะมีระยะเวลาการกู้ยืมที่กำหนดไว้ในสัญญา |
ดอกเบี้ย | คิดดอกเบี้ยเฉพาะจำนวนเงินที่ถอนเกิน | คิดดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด |
การชำระเงิน | ชำระหนี้ควบคู่กับยอดคงเหลือในบัญชี | จ่ายตามแผนการชำระเงินที่กำหนด |
เงื่อนไขและวิธีการในการขอ OD หรือกู้ยืมอาจแตกต่างกันไปที่แต่ละธนาคาร อย่างไรก็ตาม ควรติดต่อธนาคารที่คุณสนใจเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดที่เป็นทางการ
รายละเอียด | ตั๋ว PN (Promissory Note) | OD (Overdraft) |
ลักษณะสินทรัพย์ | เอกสารหนังสือที่ผู้กู้มีหนี้ต่อผู้ให้สินเชื่อและต้องชำระเงินให้กับผู้ให้สินเชื่อในวันที่กำหนด | เป็นวิธีการขอสินเชื่อที่สามารถถอนเงินเกินในจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้ |
การใช้งาน | สามารถใช้เพื่อกู้ยืมเงินสำหรับความต้องการทางการเงินที่กำหนดไว้ในสัญญา | สามารถถอนเงินเกินจากบัญชีในกรณีที่มีธนาคารอนุมัติ OD |
ระยะเวลาการกู้ยืม | มักจะมีระยะเวลากำหนดในการชำระหนี้ที่กำหนดไว้ในตั๋ว PN | เป็นสัญญาที่ไม่มีระยะเวลาการกำหนด |
ดอกเบี้ย | คิดดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด | คิดดอกเบี้ยเฉพาะจำนวนเงินที่ถอนเกิน |
การชำระเงิน | ต้องชำระหนี้ตามวันที่กำหนดในตั๋ว PN | ชำระหนี้ควบคู่กับยอดคงเหลือในบัญชี |
ในการขอสินเชื่อ ปัจจุบันมีหลายธนาคารที่ได้รับความนิยม เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรี ซึ่งแต่ละธนาคารมีเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
รายละเอียด | ธ. กสิกร | ธ. กรุงศรี | ธ. กรุงไทย |
วงเงินสินเชื่อ | วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท | วงเงินตั้งแต่ 2 แสน - 15 ล้านบาท | วงเงินสูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท |
กี่วันอนุมัติ | แจ้งผลในวันถัดไป | แจ้งผลในวันถัดไป | แจ้งผลในวันถัดไป |
อัตราดอกเบี้ย | คงที่สูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี | ขึ้นอยู่กับประเภทหลักประกัน | ขึ้นอยู่กับประเภทหลักประกัน |
ระยะเวลาผ่อนชำระ | พิจารณาต่ออายุวงเงินปีต่อปี | พิจารณาต่ออายุวงเงินปีต่อปี | พิจารณาต่ออายุวงเงินปีต่อปี |
เหล่านี้คือข้อมูลเกี่ยวกับการขอสินเชื่อ OD อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าทุกคนเข้าใจมากขึ้นแล้วว่ามันคืออะไร มีหลักการและเงื่อนไขอย่างไร ดังนั้นก่อนกู้เงินทุกครั้งโปรดศึกษารายละเอียดให้แน่ชัดก่อนการตัดสินใจ อีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับการกู้เงิน แนะนำให้มาขอสินเชื่อส่วนบุคคลกับ แรบบิท แคร์ อนุมัติไว ปลอดภัย ได้เงินเร็ว มีหลายสถาบันทางการเงินให้คุณเลือก เช่น ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารทีทีบี ธนาคารกรุงศรี เป็นต้น หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อเข้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สนใจโทรเลย1438
เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care และ Asia Direct ได้อย่างมืออาชีพ
บทความแคร์การลงทุน
ดัชนี S&P500 คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจสำหรับเหล่านักลงทุน
รู้จักกับ ดัชนี Dow Jones ทำไมนักลงทุนต้องจับตามอง?
รวมวิธีที่จะเพิ่มโอกาสในการหลุดพ้นจากการ ‘ติดดอย’ ได้มากยิ่งขึ้น!