เคล็ดลับปิดหนี้บ้าน ผ่อนบ้านหมดเร็ว ต้องทำอย่างไร?
สำหรับหลาย ๆ คน การผ่อนชำระสินเชื่อบ้านนั้นน่าจะเป็นอีกภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างหนักและใช้เวลายาวนานเหลือเกิน กว่าจะผ่อนหมด เพราะเงื่อนไขของสินเชื่อบ้านก็มักจะเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ต้องใช้เวลาผ่อนเป็นเวลานานเป็นสิบ ๆ ปี บางคนที่เริ่มกู้ซื้อบ้านตั้งแต่อายุยังน้อยก็อาจได้ระยะเวลาผ่อนยาวเป็น 20-40 ปี เลย
เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากจะทำให้หนี้ผ่อนชำระค่าบ้านนั้นหมดลงไว ๆ จะได้สบายใจเสียที แต่จะมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยปิดหนี้บ้านให้หมดได้เร็ว บทความนี้ขอนำเคล็ดลับมาแบ่งปันทุกท่านกันในวันนี้
ปิดหนี้ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ทำยังไงดี?
เพราะ “บ้าน” เป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูง การเก็บเงินก้อนเพียว ๆ เพื่อไปซื้อบ้านก็คงใช้เวลานานกว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้านสมใจ การกู้สินเชื่อบ้านมาเพื่อซื้อบ้านหรือกู้เงินเพื่อสร้างบ้านนั้นเป็นวิธีที่ช่วยให้เป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น แล้วค่อยทยอยผ่อนชำระ แล้วลองปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้
ผ่อนสินเชื่อแบบจ่ายโปะ
หากผ่อนชำระสินเชื่อบ้านมาเป็นระยะเวลาสักพักแล้ว จะสังเกตเห็นได้ว่า ในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มผ่อนชำระ เงินจะถูกหักไปกับดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ทำให้เงินต้นลดลงช้า แล้วเงินต้นก้อนนั้น ๆ ก็จะถูกนำไปคำนวณดอกเบี้ยใหม่เรื่อย ๆ ตามเงื่อนไขของธนาคาร หากปล่อยไว้นาน ๆ กลายเป็นว่ายอดชำระโดยรวมแล้วคุณอาจจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าจำนวนเงินต้นที่กู้มาจริง ๆ เสียอีก
โดยคุณสามารถลดปัญหาดอกเบี้ยที่พอกพูน และช่วยย่นระยะเวลาในการผ่อนบ้านลงได้ด้วยวิธีการจ่ายโปะ คือการจ่ายเงินเกินยอดต่องวดที่ธนาคารกำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ยอดผ่อนชำระต่องวดอยู่ที่ 5000 บาท ก็อาจจะจ่ายเพิ่มเป็นเดือนละ 6000 บาท เพราะเงินที่จ่ายเพิ่มเข้ามานั้นจะถูกนำไปหักกับยอดเงินต้น 100% จึงช่วยทำให้ยอดหนี้ลดลงเร็วขึ้น เมื่อยอดเงินต้นลดลง ก็จะทำให้การคำนวณดอกเบี้ยต่าง ๆ ลดลงตามไปด้วย ภาระค่าใช้จ่ายก็จะค่อย ๆ น้อยลง ระยะเวลาในการผ่อนก็จะสั้นลงด้วย
เคล็ดลับของการจ่ายแบบโปะก็คือควรชำระในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มผ่อนสินเชื่อ เพราะเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังต่ำ วิธีการนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้เยอะมาก
รีไฟแนนซ์บ้าน
เป็นอีกวิธีช่วยให้แบ่งเบาภาระหนี้สินของคนที่กำลังผ่อนสินเชื่อบ้านได้ หลายคนนิยมรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนบ้านออกไป และช่วยลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านก้อนเดิมที่อาจพอกพูนมากขึ้นจนก่อให้เกิดปัญหาทางการเงิน
การรีไฟแนนซ์บ้าน คือการกู้สินเชื่อบ้านก้อนใหม่มาเพื่อปิดหนี้สินเชื่อบ้านก้อนเดิม เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง ลดภาระค่าใช้จ่ายให้น้อยลง โดยจะเลือกรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิมหรือกับธนาคารแห่งใหม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อเสนอต่าง ๆ อย่างเช่นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า
โดยส่วนใหญ่แล้ว การรีไฟแนนซ์มักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้กู้ทำการผ่อนบ้านไปแล้ว 3-5 ปี เพราะเป็นช่วงที่ดอกเบี้ยจากสินเชื่อก้อนเก่ากำลังขึ้นสูง จึงเพิ่มภาระทางการเงินให้มากขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ ก่อนที่จะทำการรีไฟแนนซ์บ้าน คุณต้องคำนวณยอดเงินต่าง ๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะการรีไฟแนนซ์ก็คือการกู้สินเชื่อใหม่อีกครั้ง ดังนั้น กระบวนการต่าง ๆ ก็ยังคงมีเหมือนเดิม รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ และค่าอากรแสตมป์ หากลองคำนวณดูแล้วรู้สึกว่ารีไฟแนนซ์ไม่คุ้ม ก็แนะนำให้เลือกใช้วิธีอื่นดีกว่า
ผ่อนชำระให้ตรงเวลา
เป็นเรื่องที่เหล่าผู้กู้ควรทำเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะกับการกู้ยืมสินเชื่อในรูปแบบใด ๆ ก็ตาม ก็คือการผ่อนชำระให้ตรงตามกำหนดของแต่ละงวดชำระนั่นเอง เพราะเมื่อเลยกำหนดชำระแล้ว คุณจะต้องจ่ายเพิ่มทั้งดอกเบี้ยและค่าปรับจากการที่ชำระเงินล่าช้ากว่ากำหนด ถ้าโชคร้ายหน่อยก็คือคุณต้องจ่ายรวบยอดทั้งยอดที่ค้างและยอดปัจจุบันในครั้งเดียว ก็คงจะเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ แล้วจะจ่ายไหวหรือ?
ถึงแม้ว่า การผ่อนชำระตรงตามกำหนดจะไม่ช่วยให้หนี้ลดลงอย่างรวดเร็วในทางตรง แต่การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณมีประวัติทางการเงินที่ดี เมื่อจะทำธุรกรรมการเงินใด ๆ อย่างเช่นการขอสินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่การรีไฟแนนซ์ การมีประวัติทางการเงินที่ดีก็จะช่วยให้คุณผ่านการอนุมัติและสามารถดำเนินการได้ง่ายกว่า เพราะประวัติทางการเงินของคุณนั้นแสดงให้ธนาคารเล็งเห็นว่าคุณมีศักยภาพในการบริหารเงินและสามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลานั่นเอง
สำหรับใครที่กำลังผ่อนบ้าน และมองหาแนวทางดี ๆ ที่จะช่วยปิดหนี้บ้านให้ได้เร็วเร็วที่สุด ให้ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้ดู หรือลองคำนวณยอดอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างเป็นระบบ แล้วคุณจะหมดกังวลกับปัญหาการเงิน และใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี