
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
การเข้าถึงสถาบันการเงินที่ดูเหมือนจะง่ายขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มสูงตาม ทำให้หนี้สินของเรามีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถวางแผนการเงิน หรือจัดการหนี้ที่ก่อขึ้นมาให้หมดไปได้อย่างไร้ปัญหา เพราะถ้าหากสะสมหนี้สินไว้เป็นจำนวนมากในเวลานาน นอกจากทำให้เครดิตเสีย ยังทำให้ใช้ชีวิตได้ยากลำบากมากขึ้น จากการบริหารจัดการเงินที่ขาดคุณภาพ ดังนั้นลองมาดูกันก่อนว่าสัญญาณอันตราย ที่กำลังบ่งบอกว่าคุณมีหนี้ท่วมหัว คืออะไรบ้าง
รายได้ทั้งหมดต่อเดือนถูกนำไปชำระหนึ้สินเกินกว่า 40% เช่น หากคุณมีเงินเดือน 20,000 บาท แต่ว่าเดือนหนึ่งคุณใช้หนี้ไปเกือบ 10,000 บาท นั้นแปลว่าคุณต้องชำระหนี้สินต่อเดือนที่สูงถึง 40-50% เลยทีเดียว นั่นทำให้สภาพคล่องทางการเงินกำลังอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างเสี่ยง เนื่องจากไม่มีเงินสำรองใช้กรณีที่เจ็บป่วย หรือมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินเลย เพราะเงินกว่าครึ่งจากรายได้ ถูกแบ่งไปชำระหนี้จนเกือบหมดแล้ว
สอนคำนวณภาระหนี้สินแบบง่าย ๆ คือ คำนวณ (รายจ่ายทั้งหมด) ให้เรียบร้อย จากนั้นหารด้วย (รายได้ทั้งหมดต่อเดือน) นำไปคูณด้วย 100 เพื่อให้ได้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์หนี้สินทั้งหมดของคุณ หากเกินกว่า 40% ถือว่าอยู่สภาวะที่เริ่มอันตรายแล้ว แต่ถ้าหากทะลุไปจนถึง 50-60% แปลว่าสถานการณ์กำลังค่อนข้างแย่อย่างมาก ควรรีบใช้หนี้ หรือแก้ปัญหาหนี้อย่างถูกต้องและเร่งด่วน
คุณเริ่มจำไม่ได้แล้วว่ามีหนี้สินเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่สร้างหนี้เอาไว้หลายช่องทาง จนจำแทบไม่หมดว่าตอนนี้มีหนี้อยู่กี่ช่องทาง ข้อเสียของการมีหนี้หลายช่องทาง มันจะทำให้คุณไม่สามารถวางแผนจัดการเงินได้ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ไขจากตรงไหน หากมีหนี้ก้อนใหญ่หลายที่ เมื่อเทียบเงินเดือนแล้วไม่สามารถปิดได้ทันที ทยอยจ่ายก็คงใช้เวลาค่อนข้างนานมากกว่าจะหมด จนทำให้รู้สึกเหนื่อยท้อไปเอง
คำแนะนำเพิ่มเติม: หากเริ่มจำไม่ได้แล้วว่ามีหนี้สินทั้งหมดเท่าไหร่ ให้ใช้เวลานั่งนึกคิดกับตัวเอง จดบันทึกรวบรวมเอาไว้ว่าเรามีหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ มาจากช่องทางไหนบ้าง ต้องชำระวันไหน หนี้ไหนผ่อนผันได้ดีที่สุด เรียงลำดับความสำคัญ ระยะเวลาการกู้ยืม เพื่อจัดลำดับการใช้งานหนี้ใหญ่ดอกเยอะจบก่อนเร็วที่สุด
มีการกู้ยืมมาเพื่อใช้หนี้สิน ถือเป็นการแก้หนี้ที่ดูเหมือนจะดี แต่มันจะกลายเป็นการสร้างวังวนหนี้แบบไม่รู้จบ ถ้าหากเรายังมีพฤติกรรมการใช้เงินแบบเดิม ๆ อยู่ เช่น สมัครบัตรเครดิตและมีหนี้บัตรเครดิต 10,000 บาท แล้วไปกู้ยืมสินเชื่อเพื่อมาปิดหนี้นั้น ต่อให้เราเคลียร์หนี้บัตรไปได้ ก็จะมีหนี้จากสินเชื่อรออยู่ ถ้ามีแผนการเงินคอยรองรับอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ายังคงใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบเดิม ก็จะสร้างวังวนหนี้ต่อไปเรื่อย ๆ นั่นเอง
คำแนะนำเพิ่มเติม: ถ้ามีหนี้สินหลายช่องทาง ก่อนกู้สินเชื่อลองทำเรื่อง ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อรวมหนี้ไว้เป็นก้อนเดียว หรือไม่ก็ขอลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อทยอยชำระให้ดีขึ้น และรีบเคลียร์ให้จบตามสัญญาใหม่ที่สถาบันการเงินเอื้อเฟื้อให้กับเรา
รู้สึกกลัวหากมีคนมาเห็นใบแจ้งหนี้สิน ไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นจากความรู้สึกอาย หรือกังวล สัญญาณนี้ถือเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตรายมากที่สุด นอกจากทำให้คุณกังวลเรื่องหนี้สินมากขึ้นเป็นทวีคูณ ยังส่งผลต่อจิตใจทำให้เกิดการคิดซ้ำซ้อน สุดท้ายส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต อาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้าตามมา และไม่สามารถจัดการปัญหาได้ตามที่ควรจะเป็น
คำแนะนำเพิ่มเติม: เมื่อกังวลว่าจะมีคนเห็นใบแจ้งหนี้สิน อย่าพยามปกปิดต่อหน้าคนที่คุณไว้ใจ และไม่ต้องหวังพึ่งพาเขามาจนเกินไป เพียงแค่เข้าใจว่าการมองเห็น การพบเจอสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ รวมถึงให้เขาทราบสถานะการเงินคร่าว ๆ ของเรา ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากนัก และลองเปลี่ยนความคิดนำความกังวลที่เกิดขึ้น มาเป็นแรงผลักดันเพื่อใช้หนี้ จัดการปัญหาหนี้ให้จบจะดีกว่า
เห็นเบอร์ไม่รู้จักโทรเข้ามาแล้วคิดว่าเป็นเบอร์ทวงหนี้ไปเสียหมด แบบนี้นับเป็นสัญญาณเตือนเรื่องความกังวลสูงสุด รวมถึงเป็นสัญญาณเตือนว่าหนี้ที่คุณก่อขึ้น อาจเป็นหนี้นอกระบบ หรือหนี้ที่จัดการแก้ไขปัญหาได้ยาก เพราะหากเป็นการทวงจากสถาบันการเงิน เรายังสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สินได้อยู่บ้าง ทำให้สามารถคลายกังวลได้ค่อนข้างมาก ดีไม่ดีอาจได้วิธีจัดการปัญหาเพิ่มเข้ามาจากเจ้าหน้าที่ด้วย
เพียงเท่านี้เราก็จะรู้ตัวแล้วว่าอันไหนคือสัญญาณหนี้สินที่กำลังทำให้เรากังวล และบ่งบอกว่าเริ่มมีหนี้ท่วมมากเกินไปแล้ว พยายามรีบจัดการตามคำแนะนำให้หมด ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนจัดการ หรือหากรายได้เสริมก็ดี และเมื่อไหร่ที่เคลียร์ได้หมดแล้ว เราจะรู้สึกโล่งใจ จนต้องหันมาเก็บเงิน หรือเลือกดูแลสุขภาพให้กลับมาแข็งแรง ด้วยการเลือกสมัคร ประกันสุขภาพ จาก แรบบิท แคร์ ที่พร้อมแคร์ เคียงข้างคุณตลอดเวลา ให้ช่วงเวลาต่อจากนี้ มีแต่ความสุข สุขภาพดีตลอดการดูแล
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
บทความแคร์การเงิน
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน