ปรับสูงสุด 5,000 บาท! กรมขนส่ง เตือน ดัดแปลงรถ ไม่ขออนุญาต
- อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยเจ้าของรถที่มีการต่อเติม ดัดแปลงรถ เปลี่ยนแปลงรถยนต์หรือส่วนใดของรถที่ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ และแก้ไขรายละเอียดในเอกสารคู่มือจดทะเบียนรถก่อนนำรถไปใช้งาน โดยเฉพาะกรณีที่การดัดแปลงมีผลต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถ หรือการติดตั้งเพื่อใช้บรรทุกสิ่งของให้ได้ปริมาณที่มากขึ้น
- ตรวจสอบพบการแก้ไขดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เจ้าของรถจะมีความผิดตามกฎหมาย หากเป็นรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนกรณีเป็นรถตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ขนส่งฯ เตือนปรับ 5,000 บาท ดัดแปลงรถ ไม่ขออนุญาต
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานยานพาหนะของประเทศไทย ตลอดจนป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย กรมการขนส่งทางบกจึงได้กำหนดให้เจ้าของรถที่ทำการต่อเติม แก้ไขดัดแปลงรถ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ และแก้ไขรายละเอียดในเอกสารคู่มือจดทะเบียนรถก่อนนำรถไปใช้งาน โดยเฉพาะกรณีการดัดแปลงรถที่ส่งผลต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถ หรือการติดตั้งเพื่อใช้บรรทุกสิ่งของให้ได้ปริมาณที่มากขึ้น
เช่น การติดตั้งโครงหลังคาหรือโครงเหล็กด้านข้างรถ ฝาปิดด้านท้ายติดตั้งอุปกรณ์ทุ่นแรงยกสิ่งของ (Tail Lift) การเปลี่ยนเครื่องยนต์ การเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง การแก้ไขดัดแปลงตัวถังรถ ระบบรองรับน้ำหนัก เสริมแหนบ ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว หรือระบบขับเคลื่อน เป็นต้น
เพราะการแก้ไขดัดแปลงดังกล่าวมีผลต่อความมั่นคงแข็งแรง และโครงสร้างหลักของตัวรถ จึงอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานบนท้องถนนได้ ดังนั้นต้องนำรถเข้าตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ และต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ รวมไปถึงเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของตนเองและผู้ร่วมทาง
กรณีการเปลี่ยนสีรถไปจากที่จดทะเบียนไว้ ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถภายใน 7 วัน นับแต่วันเปลี่ยนแปลง โดยสามารถแจ้งเปลี่ยนสีรถได้ทุกสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ หากตรวจสอบพบการแก้ไขดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เจ้าของรถจะมีความผิดตามกฎหมาย หากเป็นรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนกรณีเป็นรถตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
แต่งรถ แบบไหนไม่ต้องขออนุญาต
ในส่วนของการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถ หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น แร็คหลังคารถ โรลบาร์ สปอยเลอร์ แม็กไลน์เนอร์ กันชน อุปกรณ์ขนจักรยาน (Bicycle Rack) เป็นต้น สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตกับกรมการขนส่ง เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลให้สภาพรถเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่ถือเป็นการดัดแปลงสภาพรถนั่นเอง
ทั้งนี้ในการใช้หรือเสริมอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับตัวรถ ทางเจ้าของรถต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ความมั่นคงแข็งแรง ขนาดและตำแหน่งการติดตั้งอุปกรณ์ ให้มีความเหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการใช้งานบนท้องถนน
รถแต่งควรเลือกประกันรถยนต์แต่ละชั้นอย่างไร
การเลือกประกันรถยนต์สำหรับรถแต่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรถแต่งมักมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากการตกแต่งและอาจเสี่ยงต่อความเสียหายมากกว่ารถปกติ นี่คือคำแนะนำในการเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมสำหรับรถแต่ง:
1. ประเมินมูลค่ารถหลังการแต่ง
- คำนวณมูลค่ารถที่เพิ่มขึ้นจากการแต่ง เช่น ชุดแต่ง, ล้อแม็ก, ระบบเครื่องยนต์ หรือระบบเสียง
- แจ้งบริษัทประกันถึงรายละเอียดการแต่งรถ เพื่อให้ครอบคลุมมูลค่าที่เพิ่มขึ้น
2. เลือกประเภทประกันที่เหมาะสม
- ประกันชั้น 1:
- เหมาะสำหรับรถแต่งที่มีมูลค่าสูงหรือรถใหม่
- ครอบคลุมความเสียหายทั้งรถคุณและคู่กรณี รวมถึงกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้
- ตรวจสอบว่าประกันครอบคลุมอะไหล่หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่เพิ่มเข้ามาหรือไม่
- ประกันชั้น 2+:
- เหมาะสำหรับรถแต่งที่มีอายุการใช้งานหลายปีและต้องการความคุ้มครองกรณีรถชนหรือสูญหาย
- ราคาถูกกว่าชั้น 1 แต่ครอบคลุมน้อยกว่า
- ประกันชั้น 3+:
- เหมาะสำหรับรถแต่งที่ใช้งานไม่บ่อยและต้องการคุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะอื่น
- ราคาประหยัด แต่ไม่ครอบคลุมกรณีสูญหายหรือไฟไหม้
3. ตรวจสอบเงื่อนไขการคุ้มครองรถแต่ง
- ตรวจสอบว่าบริษัทประกันรับประกันรถแต่งหรือไม่ เพราะบางบริษัทอาจไม่รับรถที่แต่งเกินมาตรฐาน
- พิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น:
- ครอบคลุมอะไหล่แต่ง
- การซ่อมศูนย์หรืออู่เฉพาะทางสำหรับรถแต่ง
- แจ้งบริษัทประกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์หรือโครงสร้าง เพื่อป้องกันการปฏิเสธความคุ้มครอง
4. เปรียบเทียบราคาและบริการ
- เปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัทประกัน เพื่อหาตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด
- พิจารณาบริการเสริม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน, รถใช้ระหว่างซ่อม หรือบริการเคลมออนไลน์
5. เลือกความคุ้มครองเพิ่มเติม
- พิจารณาซื้อความคุ้มครองเสริมสำหรับอุปกรณ์แต่ง เช่น ล้อแม็ก, ชุดแต่ง, หรือระบบเสียง
- ซื้อประกันที่คุ้มครองรถสูญหายโดยเฉพาะ หากรถแต่งของคุณเป็นที่นิยมในตลาด
6. ตรวจสอบการซ่อมแซม
- เลือกบริษัทประกันที่มีเครือข่ายอู่ซ่อมเฉพาะทางสำหรับรถแต่ง
- ตรวจสอบว่าบริษัทประกันอนุญาตให้ซ่อมศูนย์หรืออู่ที่คุณไว้วางใจได้
7. คำนึงถึงการใช้งานรถแต่ง
- หากรถแต่งใช้ในกิจกรรมพิเศษ เช่น การแข่งขัน ควรแจ้งบริษัทประกันล่วงหน้าเพื่อหาประกันเฉพาะทาง
- หากรถแต่งใช้ในชีวิตประจำวัน ควรเลือกประกันที่ครอบคลุมการใช้งานทั่วไป
การเลือกประกันรถยนต์สำหรับรถแต่งควรคำนึงถึงความคุ้มครองที่เหมาะสมกับมูลค่าและการใช้งานรถแต่งของคุณ พร้อมทั้งตรวจสอบเงื่อนไขอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่ารถของคุณได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ ที่สำคัญอย่าลืม! ซื้อประกันรถออนไลน์กับแรบบิท แคร์ คุ้มครองครบ จบทุกความต้องการ ให้รถยนต์ของคุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดด้วยประกันรถยนต์จากแรบบิท แคร์ เปรียบเทียบราคาประกันได้ง่าย เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุดจากหลากหลายบริษัทประกันชั้นนำในที่เดียว พร้อมความคุ้มค่า คุ้มครองครบ แผนประกันหลากหลายที่ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ การซ่อมแซม และความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และบริการหลังการขายยอดเยี่ยมด้วยทีมงานพร้อมช่วยเหลือคุณตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มต้นความอุ่นใจได้แล้ววันนี้!
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- แต่งรถ แบบนี้ ทำประกันได้ไหม ?
- ไฟหน้า – หลัง แบบไหน ถึงไม่ผิดกฎหมายกันนะ ?
- กรมขนส่งฯเตือน! ไฟหน้า-ไฟท้าย ดัดแปลงเกินมาตรา โทษปรับสูง 50,000 บาท
ที่มา
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี