ไฟหน้า – หลัง แบบไหน ถึงไม่ผิดกฎหมายกันนะ ?
หลังจากที่กรมขนส่งฯได้ออกประกาศเรื่องการดัดแปลง ไฟหน้า-ไฟท้าย ที่สว่างมากเกินมาตราฐาน จะถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้หลายคนอาจจะกังวลใจกับไฟของรถตนเองว่าแบบไหนถึงจะไม่ผิดกฎหมาย หรือถ้าดัดแปลงยังไงให้ไม่ผิดกฎหมายได้บ้าง มาหาคำตอบกันดีกว่า
ไฟหน้า-หลังแบบไหน ถึงไม่ผิดกฎหมายกันนะ ?
โดยทั่วไปแล้ว ไฟต่าง ๆ ของรถทุกประเภทตามกฎหมาย ทั้งตำแหน่งการติดตั้ง จำนวนโคมไฟ ความสว่าง ทิศทางการส่องสว่างและสีของแสง ระบุดังนี้
ไฟหน้า – ไฟท้าย
- โคมไฟแสงพุ่งต่ำได้ไม่เกิน 2 ดวง
- โคมไฟแสงพุ่งไกลได้ไม่เกิน 2 ดวง
- มีแสงขาว หรือเหลืองอ่อน ไม่สว่างจ้าจนเกินไป
- อยู่ในระดับเดียวกันที่หน้ารถด้านซ้ายและขวา
- สูงจากผิวทางไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 1.35 เมตร
- มีทิศทางส่องสว่างไปด้านหน้าโดยจะต้องไม่เบี่ยงเบนไปทางด้านขวา สม่ำเสมอ คงที่ ไม่กะพริบ หรือส่องขึ้นสูงเกินไปจนทําให้รบกวนสายตาผู้อื่น
ไฟเลี้ยว
- ต้องใช้แสงสัญญาณกระพริบสีอำพัน ติดที่ด้านหน้า 2 ดวง ด้านท้าย 2 หรือ 4 ดวง
ไฟหยุด
- ต้องเป็นแสงแดง สม่ำเสมอ คงที่ ไม่กระพริบ ติดตั้งที่ด้านท้าย จำนวน 2 หรือ 4 ดวง
ไฟส่องป้ายทะเบียน
- ต้องใช้เป็นแสงขาว จำนวน 1 หรือ 2 ดวง ติดตั้งที่ป้ายทะเบียน
- ทั้งนี้ เจ้าของรถที่มีการดัดแปลงไฟหน้า-ไฟท้ายผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด ขอให้แก้ไขให้ถูกต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อความปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายรบกวนสายตาผู้ใช้รถใช้ถนน รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
มีโทษปรับยังไง ถ้าผิดกฎหมาย
สำหรับโทษ ของ รถตกแต่ง ไฟหน้า-ไฟท้าย ที่สีผิดปกติ ฝ่าฝืนดัดแปลงอุปกรณ์ส่องสว่างในลักษณะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ร่วมใช้ทางคนอื่นๆ เสี่ยงต่ออันตรายบนท้องถนน หากตรวจพบโดนปรับหนัก 2,000-50,000 บาท และอาจถูกสั่งระงับการใช้รถจนกว่าจะถูกให้แก้ไขจนแล้วเสร็จ
เห็นได้ขัดว่า การดัดแปลงไฟต่างๆ ให้สว่างมากเกินไป นอกจากเสี่ยงโดนปรับแล้ว อาจก่อให้เกิดอันตรายตามท้องถนนได้อีกด้วย แน่นอนว่าตลอดทั้งการขับขี่
แต่ถ้าอยากซื้อรถยนต์ เข้าไปอัปเดตรถยนต์ใหม่ ราคาดี และซื้อขายสะดวกสบาย ที่ one2car.com สนับสนุนบทความดีๆ โดย Autospinn อย่าลืมติดตามเรื่องรถใหม่-รถมือสองก่อนใครที่นี่
อย่าลืม เช็คประกันรถยนต์ พร้อมข้อเสนอพิเศษจาก Rabbit Care
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct