
ตัวอย่าง พรบ รถยนต์ สำเนาทะเบียนรถ ใบภาษีรถยนต์ แต่ละอย่างเหมือนกันหรือไม่ ต่างกันอย่างไร ?
สำหรับคนที่รักรถ บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ตกแต่งรถในแบบที่เราชื่นชอบอย่างแน่นอน ว่าแต่ แต่งรถ แบบนี้ยังทำประกันรถยนต์ได้ไหม? ตาม Rabbit Care ไปหาคำตอบกัน
บอกเลยว่าส่วนมาก การตกแต่งรถเพิ่มความสวยงาม ดัดแปลงให้รถสามารถวิ่งเกาะได้ถนนยิ่งขึ้นนั้น สามารถทำได้ แถมประกันยังให้การคุ้มครองอีกด้วย! เช่น การติดตั้งอุปกรณ์แต่งรถ, การเปลี่ยนล้อแม็ก, เปลี่ยนไฟแต่งรถติดสปอยเลอร์ หรือสเกิร์ทรูปทรงต่าง ๆ เป็นต้น
โดยอุปกรณ์ตกแต่งเหล่านั้น ประกันรถยนต์เองก็พร้อมจ่ายหากต้องซ่อม!
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ประกันจะให้ขอบเขตความคุ้มครองอุปกรณ์แต่งไม่เต็ม 100% จะมีวงเงินในการซ่อมอุปกรณ์แต่ง คุ้มครองความเสียหายต่ออุปกรณ์แต่งรถ ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท หากต้องเสียเงินซ่อมมากกว่านี้ คุณอาจจะต้องเสียค่าซ่อมเอง โดยราคาหลัก ๆ ของอะไหล่จะเทียบจากราคาที่ศูนย์ซ่อมเท่านั้น
เช่น หากคุณมีการเปลี่ยนไฟหน้ารถราคา 5,000 บาท แต่ราคาจากศูนย์ราคา 2,500 บาท คุณสามารถเคลมประกันได้เพียง 2,500 บาทเท่านั้น
หรือ ค่าซ่อมอุปกรณ์รวม ๆ แล้วทั้งหมดอยู่ที่ 25,000 บาท ประกันจะจ่ายให้คุณสูงสุดที่ 20,000 บาท นอกนั้น 5,000 บาท คุณต้องออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเองทั้งหมด เป็นต้น
ซึ่งคุณควรแจ้งบริษัทประกันเอาไว้ เพราะหากไม่มีการแจ้งประกันว่ามีการตกแต่ง หรือดัดแปลงรถ เมื่อตรวจสอบพบทีหลัง ทางประกันจะไม่จ่ายเงินค่าเคลมให้! แน่นอนว่าการแจ้งประกันว่ารถของตนมีการแต่ง ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีการเสียเบี้ยประกันเพิ่มเติมอย่างใด
นอกจากนี้ ในกรณีที่รถของคุณ ต้องติดตั้งก๊าซ LPG / NGV ส่วนนี้ก็จำเป็นต้องแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ด้วยนะ อย่าลืมเชียว!
หากคุณที่เป็นคนที่ชื่นชอบรถแต่งที่เร็ว แรง แซงทุกคัน ประดุจฉากบู๊ในหนังฮอลีวู้ด ก็คงต้องบอกว่าบริษัทประกันรถยนต์อาจจะไม่รับทำประกันได้นะ เพราะทางบริษัทประกันรถยนต์จะมองว่าเป็นการใช้รถผิดประเภท อาจนำไปใช้เพื่อแข่งขันความเร็วจึงทำให้บริษัทประกันมักจะไม่ค่อยรับทำเพราะสุ่มเสี่ยงเกินไป
ส่วนการแต่งรถที่ทำให้ประกันไม่รับทำ เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายก็มีเช่นกัน ซึ่ง Rabbit Care รวบรวมมาให้ดังนี้
ซึ่งการตกแต่งรถเหล่านี้จะผิดเงื่อนไขในการประกัน ถือว่าเป็นการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์ และอาจเข้าข่ายแต่งรถผิดกฎหมาย ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้บริษัทประกันส่วนใหญ่ไม่รับพิจารณานั่นเอง
ใครที่มีใจรักจะแต่งรถจริง ๆ นอกจากเราจะต้องแจ้งกรมขนส่งทางบกแล้ว ก็ต้องแจ้งให้ทางบริษัทประกันรับทราบ เพื่อพิจารณาว่าสามารถทำได้หรือไม่ หรือสามารถทำประกันชั้นไหนได้บ้าง โดยเอกสารเบื้องต้นที่เราต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้
สิ่งสำคัญที่สุดหากคุณไปแต่งรถเพิ่มเติมหลังจากทำประกันไปแล้ว ก็คือ ต้องแจ้งให้กับทางประกันรถยนต์ทราบด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วประกันจะคุ้มครองรถตามที่ออกมาจากโรงงานเท่านั้น
และหากมีการแต่งรถเพิ่มเติมจากเดิม ก็ควรรีบแจ้งต่อบริษัทประกันให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประกันคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งรถของคุณทันทีด้วยนะ
แต่งรถไม่ใช่ว่าทำประกันรถยนต์ไม่ได้ แต่การแต่งรถเองก็ต้องเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎจราจรด้วย เพียงแค่นี้คุณก็ได้ความคุ้มครองรถคู่ใจ ไปจนถึงอะไหล่ตกแต่งรถแล้ว!
และสำหรับใครที่มองหาประกันรถยนต์คู่ใจฉบับใหม่ ต้องนี่เลย Rabbit Care ที่มาพร้อมบริการเช็คประกันรถให้คุณได้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ และงบประมาณของคุณ แถมดีลสุดพิเศษที่ไม่ควรพลาด!
เท่านี้ก็ขับรถได้อย่างสบายใจ จะปีชง หรือไม่ชง ก็หมดห่วงแล้ว!
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
บทความแคร์เรื่องประกันยานยนต์
ตัวอย่าง พรบ รถยนต์ สำเนาทะเบียนรถ ใบภาษีรถยนต์ แต่ละอย่างเหมือนกันหรือไม่ ต่างกันอย่างไร ?
ต่อพรบ+ภาษี รถกระบะ ราคาเท่าไหร่ แพงหรือไม่ ?
ประกันรถบรรทุก เป็นอย่างไร ต้องเป็นรถลักษณะไหนถึงจะได้รับความคุ้มครอง