ประกันภัยล้มละลายทำยังไงดี? ควรเตรียมตัวอย่างไรให้ไม่เสียผลประโยชน์

หลังจากช่วงโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรงได้มีข่าวประกาศประกันภัยล้มละลายให้เราได้เห็นกันมาแล้ว ซึ่งกรณีที่เกิดเหตุการณ์บริษัทประกันภัยล้มละลาย บางคนยังไม่รู้เลยว่าเราควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้ไม่เสียสิทธิ์ที่ได้ทำเอาไว้กับบริษัทประกันภัยนั้น ๆ ซึ่งทาง แรบบิท แคร์ เป็นห่วงทุกคนจึงได้ลองนำเนื้อหาที่สนใจเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติหลังจากรู้ว่าประกันภัยล้มละลาย พร้อมเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมเผื่อเอาไว้ให้เรียบร้อย รวมถึงช่องทางการติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือ และถ้าหากเราได้ยื่นขอเคลมไปยังบริษัทประกันภัยล้มละลาย แต่กลับถูกปฏิเสธมา สามารถทำอย่างวไรได้บ้าง รายละเอียดทั้งหมดที่กล่าวมา ได้ถูกรวบรวมและสรุปเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ข้อควรปฏิบัติหลังจากรู้ว่าบริษัทประกันภัยล้มละลาย แยกย่อยเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่มีความเสียหายต้องเรียกร้องเคลม และกรณีที่ยังไม่มียอดเคลม ซึ่งวิธีการรับมือจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละกรณีที่กล่าวมา ซึ่งหากใครที่กำลังประสบปัญหาในกรณีไหนอยู่ ลองติดตามอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมแล้วจัดการอย่างเร่งด่วน เพราะเมื่อรู้ข่าวสารแล้วว่าประกันภัยล้มละลาย เรายังพอมีเวลาให้ทำสิ่ง ๆ ต่างสำหรับการป้องกันสิทธิ์ของเราเช่นกัน

1. กรณีมีความเสียหายต้องเรียกร้องเคลม

กรณีมีความเสียหายต้องเรียกร้องเคลม จะแบ่งย่อยได้อีก 2 กรณีเช่นกัน คือ กรณีที่บริษัทประกันภัยได้อนุมัติค่าสินไหมทดแทนไว้แล้ว กับ กรณีที่ได้รับความเสียหายแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จะมีวิธีจัดการดังนี้

• กรณีที่บริษัทประกันภัยได้อนุมัติค่าสินไหมทดแทนไว้แล้ว ทันทีที่ทราบว่าประกันภัยล้มละลาย ให้เราทำการติดต่อไปยังกองทุนวินาศภัย เพื่อขอรับชำระหนี้โดยกองทุนวินาศภัยที่จะเข้ามารับช่วงต่อค่าสินไหมทดแทนให้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้มีการอนุมัติไว้เรียบร้อยแล้ว
• กรณีที่ได้รับความเสียหายแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เรายังสามารถยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนไปยังกองทุนวินาศภัยได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่อาจต้องรอระยะเวลาดำเนินการเพื่อประเมินค่าสินไหมทดแทน ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยที่เพิ่งล้มละลายไปอีกทีหนึ่ง
  
  

ดังนั้นหากใครที่อยู่ในเกณฑ์ผู้เสียกรณีที่ต้องมีการเรียกร้องเคลม อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้รีบทำการติดต่อหากองทุนวินาศภัยอย่างเร็วที่สุด เพื่อทำการติดต่อประสารและแจ้งเรื่องที่เราเป็นผู้เสียหายเมื่อบริษัทประกันภัยล้มละลาย

2. กรณีที่ยังไม่มียอดเคลมทำอะไรได้บ้าง

กรณีที่ยังไม่มียอดเคลม ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ประกันภัยล้มละลายไปแล้ว เราทำอะไรได้บ้าง? คำตอบ คือ ขอรับคืนเบี้ยประกันภัยที่เหลือจากกองทุนประกันวินาศภัย ซึ่งทางกองทุนจะทำการคืนเบี้ยประกันภัยให้ตามระยะเวลาคุ้มครองที่เหลืออยู่ และยังสามารถนำเบี้ยประกันที่จะได้รับคืน ไปใช้แทนเงินสดสำหรับการเลือกซื้อประกันภัยได้จากบริษัทประกันวินาศภัย หรือบริษัทประกันที่เข้าร่วมโครงการได้อีกทีหนึ่งด้วย

ฉะนั้นหากรู้ข่าวเกี่ยวกับประกันภัยล้มละลาย อย่าเพิ่งกระวนกระวายจนตกใจทำอะไรไม่ถูก ให้เราดูรายละเอียดของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนว่าอยู่ในกรณีใด แล้วค่อยจัดการไปตามข้อมูลที่เราได้ให้ไว้อย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของเราตามกฎหมาย เพราะปัจจุบันทาง คปภ. ได้มีการร่วมมือกับ กองทุนวินาศภัย เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์นี้เอาไว้แล้ว ผู้เสียหายจึงสามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านโทรศัพท์ หรือที่หน้าสำนักงานก็ทำได้เหมือนกัน

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมไว้เมื่อทราบเหตุประกันภัยล้มละลาย ได้แก่ กรมธรรม์ประกันภัย, บัตรประชาชน, ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ หรือเอกสารอื่น ๆ ที่แสดงถึงมูลหนี้ และหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีที่เป็นนิติบุคคล) โดยเอกสารทั้งหมดนี้จะต้องนำส่งให้กับทางกองทุนวินาศภัยในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัท ภายใน 60 วันนับตั้งแต่ที่ทางกองทุนได้กำหนดประกาศเอาไว้ ซึ่งเอกสารต้องมีการเตรียมไป 2 ชุด คือ ตัวจริง กับ สำเนา เพื่อไปยื่นให้ครบถ้วนกับทางกองทุนวินาศภัย

คำแนะนำเพิ่มเติม: หากเป็นเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ต้องมีการนำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ต้นฉบับ และสำเนา จำนวน 1 ชุด อันประกอบไปด้วย หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้, บัตรประชาชน และหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)

ยื่นขอเคลมประกันภัยล้มละลาย แต่ดันถูกปฎิเสธกลับมา เราทำอย่างไรดี? ต้องแยกออกเป็น 2 กรณีย่อยเพิ่มเติม คือ ฟ้องประกัน กรณี คปภ. ไม่ได้อนุญาตให้เลิกกิจการ และ กรณีที่ คปภ. แจ้งยกเลิกกิจการบริษัทประกันไปแล้ว โดยแต่ละกรณีจะต้องจัดการปัญหาแตกต่างกัน ซึ่งถ้าเกิดมีปัญหาเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว ไม่ควรนิ่งนอนใจอย่างเด็ดขาด

1. ฟ้องประกัน กรณี คปภ. ไม่ได้อนุญาตให้เลิกกิจการ

หากเรายื่นขอเคลมประกันภัยล้มละลาย แต่ถูกปฏิเสธ แถมทาง คปภ. ก็ยังไม่ได้อนุญาตให้เลิกกิจการ หมายความว่าทุกกรมธรรม์ ยังได้รับความคุ้มครองตามเดิม ดังนั้นถ้าถูกปฏิเสธ ผู้เอาประกันภัยสามารถติดต่อ ยื่นข้อร้องเรียน ด้านการประกันภัยเพื่อขอความเป็นทำไปยัง คปภ. รวมถึงสำนักงาน คปภ. ภาค/เขต/จังหวัดได้ทั่วประเทศ

2. กรณี คปภ. แจ้งยกเลิกกิจการบริษัทประกันไปแล้ว

กรณีที่เรายื่นเคลมแล้วถูกกปฏิเสธ แต่ทาง คปภ. ก็ได้แจ้งยกเลิกกิจการกับบริษัทประกันภัยล้มละลายไปแล้ว เบื้องต้นต้องติดต่อสอบถามโดยตรงจากทาง คปภ. อีกทีหนึ่งว่าเรายังสามารถฟ้องประกัน หรือร้องเรียนประกันรถยนต์เจ้านั้นได้อยู่หรือไม่ หากไม่ได้ อาจต้องทำการติดต่อกองทุนวินาศภัยโดยเร็ว เพื่อรับการเยียวยาอีกทางหนึ่งไปในระหว่างที่ดำเนินการติดต่อฟ้องร้อง

แต่ไม่ว่ายังไงหากมีการฟ้องประกันเกิดขึ้น ระหว่างที่รอดำเนินการเนื่องจากประกันภัยล้มละลาย แล้วปฏิเสธการเคลมนั้น ให้เราติดต่อไปทั้ง คปภ. หรือ กองทุนวินาศภัยให้ครบถ้วน เพื่อสอบถามวิธีทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับเคสที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากที่สุด และเป็นการประสานงานอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดการขาดตกบกพร่องเรื่องใดไป และเราจะได้ไม่เสียโอกาสในการรักษาสิทธิ์ของตัวเองอีกด้วย

ติดต่อขอความช่วยเหลือเมื่อรู้ว่าประกันภัยล้มละลาย ได้จาก สำนักงาน คปภ. ที่มีการตั้งศูนย์ให้คำแนะนำ และรับร้องเรียนเอาไว้ในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น คปภ. สำนักงานส่วนกลาง หรือ คปภ. ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยช่องทางการติดต่อทั้งหมดจะมีดังนี้

• กองทุนประกันวินาศภัย (ในฐานะผู้ชำระบัญชี) โทร 0-2791-1444 ต่อ 26-30
• สำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง โทร 0-2515-3999 หรือ สายด่วน คปภ. 1186 หรือ chatbot “คปภ. รอบรู้” (LINE@ OICConnect)
• สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ โทร 0-2476-9940-3
• สำนักงาน คปภ. เขตบางนา โทร 0-2361-3769-70
• สำนักงาน คปภ. ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัด ทั่วประเทศ
  
  

หากไม่สะดวกที่จะเข้าไปติดต่อยังสถานที่ไหนอย่างเป็นทางการ ยังสามารถติดต่อสอบถามไปยังเบอร์โทรศัพท์สำนักงานใหญ่ของทาง คปภ. หรือ กองทุนวินาศภัยได้อยู่เช่นกัน ซึ่งหลังจากที่มีการติดต่อเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับคำปรึกษา พร้อมแนวทางการจัดการที่เหมาะสมอีกทีหนึ่ง แล้วค่อยไปยื่นเอกสาร หรือติดต่อเพิ่มเติมยังสถานที่จริงได้ในภายหลัง

ปัจจุบันเรื่องบริษัทประกันภัยล้มละลาย ถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ใกล้ตัวแล้ว ฉะนั้นหากเป็นไปได้ก่อนที่จะเลือกสมัครประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันชีวิต หรือประกันรถยนต์ ก็ควรที่จะผ่านการคัดเลือกอย่างมีมาตรฐานให้ดีก่อน ซึ่งใครที่ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกบริษัทประกันภัยรายไหน ทาง แรบบิท แคร์ ของเรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมกับเปรียบเทียบบริษัทประกันภัยที่เหมาะสมกับคุณ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ เพียงแค่โทรเข้ามาที่เบอร์ 1438 (โทรได้ตลอดเวลา) โดยที่ระบบของเรามีตัวเลือกมากถึง 30 รายการ จากเหล่าบริษัทประกันภัยชนั้นนำของประเทศ

นอกเหนือจากความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมแล้ว ทาง แรบบิท แคร์ ยังยินดีมอบส่วนลดช่วยประหยัดสุดพิเศษสูงสุดถึง 70% ให้อีก เท่านั้นยังคงไม่พอ เพราะคุณสามารถเลือกผ่อน 0% ได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน