ความคุ้มครอง
การถูกโจรกรรมเงินทางอินเทอร์เน็ต (Theft of Funds)
คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายของผู้เอาประกันภัยอันเกิดจากการถูกโจรกรรมเงินทางอินเทอร์เน็ต แบบจ่ายตามจริงไม่เกินวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ โดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้ 1. การถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Theft) ทางอินเทอร์เน็ตโดยกระทำจากบุคคลภายนอก 2. การโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing) ทางอินเทอร์เน็ตโดยกระทำจากบุคคลภายนอก บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความสูญเสียหรือความเสียหาย ดังนี้ 2.1 ความสูญเสียต่อเงิน 2.2 ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี
การถูกกรรโชกทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต (Cyber Extortion)
คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายของผู้เอาประกันภัยอันเกิดจากการถูกกรรโชกทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ตโดยกระทำจากบุคคลภายนอก แบบจ่ายตามจริงไม่เกินวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความสูญเสียหรือความเสียหาย ดังนี้ 1. เงินเรียกค่าไถ่ที่สูญเสียไป 2. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว
การถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต (Cyber Bullying)
คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้เอาประกันภัยอันเกิดจากการถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตโดยกระทำจากบุคคลภายนอก บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความสูญเสียหรือความเสียหาย ดังนี้ 1. ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี 2. ค่าใช้จ่ายในการรักษาทางจิตวิทยา
การซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต (Online Shopping)
คุ้มครองกรณีผู้เอาประกันภัยถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต ตามรายการสั่งซื้อ และได้มีการชำระเงินค่าสินค้าให้กับผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์แล้ว แต่ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ไม่ดำเนินการจัดส่งสินค้าดังกล่าวให้แก่ผู้เอาประกันภัย ภายใน 30 วันนับจากวันที่ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์แจ้งว่าจะดำเนินการจัดส่งสินค้า บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนเงินที่ได้ชำระให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์เพื่อซื้อสินค้าดังกล่าว แบบจ่ายตามจริงไม่เกินวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
การขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต (Online Sales)
คุ้มครองกรณีผู้เอาประกันภัยถูกหลอกลวงให้ขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตและได้มีการจัดส่งสินค้าให้ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์แล้ว แต่ผู้เอาประกันไม่ได้รับการชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าวภายใน 30 วันนับจากวันที่ผู้เอาประกันภัยดำเนินการจัดส่ง บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้รับการชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าว
ความคุ้มครองจาก กรุงเทพประกันภัย
ประกันภัยไซเบอร์ กรุงเทพประกันภัย | แผนเหมาะสำหรับ คนทั่วไป 200 บาท/ปี | แผนเหมาะสำหรับ ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นประจำ 500 บาท/ปี | แผนเหมาะสำหรับ ผู้ซื้อและผู้ขาย สินค้าออนไลน์ 1,150 บาท/ปี |
ความคุ้มครอง | |||
การถูกโจรกรรมเงินทางอินเทอร์เน็ต (Thieft of Funds) | 20,000 | 50,000 | 100,000 |
การถูกกรรโชกทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต (Cyber Extortion) | 5,000 | 5,000 | 5,000 |
การถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต (Cyber Bullying) | 5,000 | 5,000 | 5,000 |
การซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต (Online Shopping) | 5,000 | 15,000 | 30,000 |
การขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต (Online Sales) | - | - | 30,000 |
ความคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน | 35,000 | 75,000 | 170,000 |
ขั้นตอนการซื้อกรมธรรม์
ขั้นตอนที่ 1
เลือกบริษัทประกันภัยที่คุณต้องการ
ขั้นตอนที่ 2
เลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณ
ขั้นตอนที่ 3
กรอกรายละเอียดส่วนตัวให้ครบถ้วน
ขั้นตอนที่ 4
ชำระเงิน และ รอรับกรมธรรม์ ผ่านทางอีเมลของท่านภายใน 7-14 วันทำการ
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
ประกันภัยไซเบอร์ กรุงเทพประกันภัย ช่วยดูแลคุณได้อย่างไร?
ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber Insurance) คือ ประกันภัยที่จะมอบความคุ้มครองให้กับผู้เอาประกันในกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการถูกฉ้อโกงจากการซื้อ-ขายของออนไลน์, ถูกมิจฉาชีพออนไลน์กระทำการโจรกรรมทรัพย์สิน, ถูกกรรโชกทรัพย์, ถูกเรียกค่าไถ่ และกรณีอื่น ๆ ในช่องทางออนไลน์อันเป็นเหตุที่สร้างความเสียหายทางทรัพย์สินให้กับผู้เอาประกัน โดยทางบริษัทฯ จะจ่ายเงินตามวงเงินคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันได้รับความเสียหายจากกรณีที่ระบุเอาไว้ตามกรมธรรม์
เหมาะอย่างมากสำหรับการดำเนินชีวิตของคนในยุคดิจิทัลอย่างเช่นในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเราต้องเกี่ยวข้องกับโลกไซเบอร์มากขึ้น ทั้งการติดต่อสื่อสาร, การติดตามข้อมูลข่าวสาร, การทำธุรกิจต่าง ๆ หรือแม้แต่การซื้อขายสินค้าบนช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น
ภัยร้ายของโลกไซเบอร์มีอะไรบ้าง?
การจะกล่าวว่าโลกไซเบอร์นั้นเป็นเหมือนสังคมอีกสังคมหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก เพราะมีคนหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงเหล่ามิจฉาชีพออนไลน์ที่แฝงตัวอยู่และอาศัยช่องโหว่ของโลกไซเบอร์อย่างการที่แต่ละฝ่ายไม่สามารถมองเห็นลักษณะเฉพาะตัวตนของบุคคลของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ในการก่อเหตุฉ้อโกง หรือหลอกลวงเอาทรัพย์สินของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์ โดยภัยร้ายในโลกไซเบอร์ที่พบหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้
มิจฉาชีพ Social Media
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าโลกไซเบอร์นั้นก็เป็นเหมือนสังคมอีกสังคมหนึ่ง อย่างเช่นการที่คนเราใช้งาน Social Media กันในแพลทฟอร์มออนไลน์ มีการติดต่อสื่อสาร พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แชร์เรื่องราวต่าง ๆ ให้กัน หรือใช้ในการรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกัน ซึ่งเหล่ามิจฉาชีพออนไลน์ก็ใช้กิจกรรมเหล่านี้ในการสวมรอยแล้วหลอกลวงให้โอนเงินไปให้ หรือปลอมแปลงหลักฐานบางอย่างเพื่อล่อลวงให้ทำธุรกรรมบางอย่าง หรือขอข้อมูลไปเพื่อทำการแอบอ้างกับคนอื่น ๆ ต่อไป การกระทำเหล่านี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากเนื่องจากไม่ทันได้ระมัดระวังตัว
การหลอกขโมยข้อมูลสำคัญ (Phishing)
นอกเหนือจาก Social Media แล้ว เรายังคงรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ผ่านทางการรับอีเมล (E-Mail) และข้อความ (SMS) โดยจะมีผู้ให้บริการคอยส่งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ มาให้อยู่เสมอ เหล่ามิจฉาชีพเองก็เห็นชองทางตรงนี้ จึงอาจมีการสวมรอยเข้ามาเป็นผู้ให้บริการสินค้าหรือบริการสักเจ้าหนึ่งที่ส่งข้อมูลมาหลอกให้ทำธุรกรรม หรือหลอกให้กรอกข้อมูลสำคัญที่ส่งผลกับการทำธุรกรรมการเงิน หรือหลอกให้คลิก Link เพื่อดำเนินการต่อโดยมิจฉาชีพอาจฝังโปรแกรมจำพวกมัลแวร์ (Malware) เป็นโปรแกรมที่เมื่อเปิดแล้วจะเข้ามาทำลายระบบต่าง ๆ ในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ทำให้ตัวเครื่องเสียหาย ข้อมูลถูกขโมย
ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
หลายคนคงเคยกรอกข้อมูลส่วนบุคคลลงบนโลกออนไลน์ เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมซื้อ-ขาย หรือสมัครเพื่อรับบริการต่าง ๆ โดยปกติแล้วเว็บไซต์เหล่านั้นก็จะมีนโยบายในการเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้อย่างปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่ไปกรอกข้อมูลไว้ในเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ และง่ายต่อการสืบค้น ก็เสี่ยงต่อการถูกเหล่าแฮ็กเกอร์ (Hacker) เข้ามาแฮ็กระบบเว็บไซต์จนเกิดการรั่วไหลของข้อมูล และมีการขโมยข้อมูลสำคัญอย่างชื่อผู้ใช้งาน ที่อยู่ รหัสผ่าน รหัส ATM และข้อมูลบัตรเครดิต โดยเหล่ามิจฉาชีพอาจนำเอาข้อมูลนี้ไปแอบอ้างในการหลอกบุคคลอื่น หรือทำการเข้าถึงเพื่อขโมยเงินออกมาโดยที่เจ้าของข้อมูลอาจไม่ทันได้รู้ตัว
ประกันภัยไซเบอร์ของกรุงเทพประกันภัย เหมาะกับใคร?
ความคุ้มครองจาก Cyber Insurance กรุงเทพประกันภัย เป็นแผนความคุ้มครองที่ออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลายหลายของผู้ใช้งานช่องทางออนไลน์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัล จึงเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย ดังต่อไปนี้
ผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ
กลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะใช้ในการติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์เป็นประจำ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงในการถูกโจรกรรมทรัพย์สินและโจรกรรมข้อมูล
นักช้อปออนไลน์
เหล่านักช้อปออนไลน์ที่ชื่นชอบการเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อยู่เป็นประจำโดยเฉพาะการซื้อผ่านช่องทางที่ไม่มีระบบชำระเงินที่รัดกุมและปลอดภัยมากพอ เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความเสี่ยงจากการถูกฉ้อโกงหรือหลอกลวงเอาทรัพย์สินไปโดยผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นผู้ขายสินค้าออนไลน์ ได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้าแล้วไม่ได้รับ
ผู้ที่ขายของออนไลน์
ไม่ใช่แค่เพียงผู้ซื้อเท่านั้นที่เจอกับความเสี่ยง แต่ผู้ขายสินค้าออนไลน์เองก็ต้องแบกรับความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน จากการที่ถูกมิจฉาชีพสวมรอยเป็นลูกค้าแล้วหลอกลวงให้ส่งสินค้าให้ แต่ไม่มีการชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าวให้กับผู้ขาย เป็นเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขายออนไลน์
Cyber Insurance จากกรุงเทพประกันภัย ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?
- การโจรกรรมเงินทางอินเทอร์เน็ต คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายของผู้เอาประกันภัยอันเกิดจากการถูกโจรกรรมทรัพย์สินทางอินเทอร์เน็ต โดยการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Theft) และ การล่อลวงเพื่อฉกฉวยข้อมูล (Phishing)
- การถูกกรรโชกทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายของผู้เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากการถูกกรรโชกทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ตโดยมีผู้กระทำเป็นบุคคลภายนอก
- การถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้เอาประกันอันเนื่องมาจากการถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตโดยมีผู้กระทำเป็นบุคคลภายนอก
- การซื้อสินค้าออนไลน์ ความคุ้มครองกรณีผู้เอาประกันภัยถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต โดยผู้ซื้อ (ผู้เอาประกัน) ได้มีการสั่งซื้อสินค้าตามรายการและได้มีการชำระเงินค่าสินค้าให้กับทางผู้จำหน่ายสินค้าออนไลน์แล้ว แต่ทางผู้จำหน่ายไม่ดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับผู้เอาประกันภัย ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ทางผู้จำหน่ายแจ้งว่าจะจัดส่งสินค้า
- การขายสินค้าออนไลน์ ความคุ้มครองกรณีผู้เอาประกันภัยถูกหลอกลวงให้ผู้ขาย (ผู้เอาประกัน) ถูกหลอกลวงให้ขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต และทางผู้ขายได้มีการจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อแล้ว แต่ไม่ได้รับการชำระค่าสินค้าดังกล่าวภายใน 30 วัน นับจากวันที่ผู้ขายดำเนินการจัดส่ง